วงเสวนา อัด “ประยุทธ์” ไม่ใช่จุดขายให้เป็นนายกฯ ต่อ เปิด 3 เงื่อนไขต้องเผชิญ บี้ หยุดรัฐธรรมนูญ 60 เอื้อ 3 ป. ยกร่างใหม่ฉบับประชาชน
2 ต.ค.2565 – ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเสวนา สภาที่ 3 วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และ “ทวงคืนเอกสิทธิ์การเลือกนายกรัฐมนตรีจากเจตจำนงของประชาชน” นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 กล่าวว่า เคยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่พยายามสืบทอดอำนาจต่อ ยิ่ง 2 วันก่อนกระบวนการยุติธรรมของไทยด้อยค่าลงจากการวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ถือว่าครบ 8 ปี คือตั้งแต่ปี 2557 ที่เป็นนายกฯ แต่ไม่ถูกนับ แปลว่าที่ผ่านมาเรามีนายกฯ เถื่อนหรือไม่ แล้วอาศัยอำนาจ หรืออภิสิทธิ์อะไรที่ไม่เกิดเผยทรัพย์สิน
” จึงขอตั้งคำถามถึงองค์คณะ 6 ท่านที่ให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อด้วย ที่ห่วงคือครูอาจารย์ด้านกฎหมาย สอนนิติศาสตร์จะสอนลูกศิษย์ต่อได้อย่างไร หากมีการวินิจฉัยกฎหมายแบบนี้ ไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นจุดขายให้ประชาชนอยากได้มาเป็นนายกฯ อีกต่อไป ประชาชนเบื่อเต็มที เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดี” นายอดุลย์ ระบุ
นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบเพื่อกลุ่มอำนาจ 3 ป. ดังนั้นเลือกตั้งปีหน้าถึงเวลาที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ขอเชิญประชาชน และทุกพรรค ยกร่างให้เป็นฉบับประชาชนอย่างแท้จริง ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะประชาชนทนมาตั้งแต่ปี 2560 รวมแล้ว 5 ปี บวกกับเป็น คสช. ก็ 8 ปี สำหรับคำตัดสินที่ออกมาขัดกับการตีความของอาจารย์นิติศาสตร์ และนักกฎหมายอย่างมาก เป็นการละเลยไม่ได้เอาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาใช้ เพราะไม่เช่นนั้นจะพิพากษาให้อยู่ต่อไม่ได้ ทำให้หลายคนหมดหวังในการใช้กฎหมายในไทย
นายพิชาย กล่าวว่า เป็นการตีความไม่เกิดความหวังต่อสังคมในการวางบรรทัดฐานที่ดีงาม แต่เป็นบรรทัดฐานที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ช่วง 1 เดือนที่พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ทำให้ภาพความมีคุณค่า ราคาด้อยลงมากเมื่อเทียบกับพล.อ.ประวิตร ถึงจะถูกมองว่าหลับบ้าง แต่ก็ยังพยายามปรับตัว
“มี 3 เงื่อนไขที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเผชิญ คือการชุมนุมตามที่ต่างๆ หากขยายตัวจะสร้างความกังวลต่อรัฐบาล หากยาวนานถึงการประชุมเอเปค ปัญหาเศรษฐกิจ ที่คิดว่าจะยังซบเซาต่อเนื่อง และปัจจัยความขัดแย้งภายใน 2 ด้าน คือขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ เพราะเสือ 2 ตัว แข่งขันกัน ความสัมพันธ์ไม่แนบแน่น อาจจะยื่นข้อเสนอต่อรองปรับครม.เอาคน พปชร.ไปดำรงตำแหน่ง จนถึงการต่อรองให้พล.อ.ประวิตร เป็นรมว.มหาดไทย หรืออีกด้านพล.อ.ประยุทธ์อาจปรับครม.โดยไม่แยแสอะไรก็ได้ นอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพราะ ภท.จะขยายพื้นที่เชิงอำนาจในภาคใต้ให้ได้ในครั้งหน้า ซึ่งมีปชป.เป็นเจ้าถิ่นอยู่” นายพิชาย กล่าว
นายพิชาย กล่าวว่า ส่วนโอกาสจะยุบหรือไม่ยุบสภานั้นขึ้นอยู่กับว่าพล.อ.ประยุทธ์จะทนแรงกดดันต่างๆ ได้หรือไม่ ในจริงคงอยากอยู่ให้ใกล้เดือน มี.ค. 2566 อยู่แล้ว แต่มีความเป็นไปได้ว่ารอให้กฎหมายเลือกตั้งออกมาก่อน แล้วค่อยยุบสภา ซึ่งเวลาก็ใกล้ๆ กับ มี.ค. 2566 โดยระหว่างนี้คงคิดถึงการสิ่งที่จะทำให้ได้อยู่ต่อไปถึงปี 2568 แต่คงไม่ง่าย เพราะพปชร.มีพล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดต ที่อาจจะไม่ยอมแล้ว อาจจะคิดว่าให้น้องมามาก ที่ผ่านมาตัวเองก็ทำได้ และได้รับความนิยมเพิ่ม
” แต่คำถามคือ พปชร.จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากกลุ่มสามมิตรไม่ลาอออกอาจจะ 60-70 เสียง แต่ภาคใต้โอกาสได้น้อยมาก การจัดตั้งรัฐบาลไม่ง่ายว่าใครจะมาเป็นนายกฯ แต่ที่แน่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะมีโอกาสแล้ว ในกลุ่ม 3 ป.ที่มีโอกาสคือ พล.อ.ประวิตร แต่ไม่ง่าย” นายพิชาย ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'ณัฐวุฒิ' ป้อง 'ทักษิณ' สวน 'ธนาธร' ปม 112
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆ
'ทักษิณ' คุยเลือกตั้งครั้งหน้า 'เพื่อไทย' กวาด สส. ไม่ต่ำกว่า 200 ที่นั่ง
"ทักษิณ" ประกาศถ้าเจอพ่อค้าเสพติดช่วยบอกว่าทักษิณกลับมาแล้ว ยัน รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม ชวนคนเสื้อแดงสีตกใส่กลับมา โว คราวหน้า ไม่มีแพ้ ไม่ต่ำกว่า 200 เสียง พร้อม เสนอตัวเอง ใช้สมองช่วยประเทศฟื้นจากความลำบาก
'บิ๊กป้อม' สั่งลูกพรรคให้ทำทุกวิถีทางเพื่อยกเลิก MOU 44
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางกลับจากพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคประจำสัปดาห์
'ธีระชัย' เผย MOU44 จุดแข็งคือจุดอ่อน มาถึงบัดนี้ไทยย่อมจะไม่ใช้สิทธิที่จะทักท้วงอีกแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังปร