30 ก.ย.2565 - นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)กล่าวถึง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อ ตรงตามที่เนติบริกรทั้งหลายชี้นำว่าน่าจะนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ในวันที่ 6 เมษายน 2560 แต่ไม่ตรงตามที่ภาคประชาชนฟันธงว่าไม่น่ารอด ตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ม.264 ที่ให้นับรวมการดำรงตำแหน่งก่อนหน้า แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยว่าให้เริ่มนับการดำรงตำแหน่งนั้นตั้งแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบัับนี้ คือเป็นนายกฯ รอบแรกตั้งแต่ 6 เมษายน 2560 แค่ 2 ปีเท่านั้นก่อนรับตำแหน่งนายกฯ รอบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ปัจจุบันจึงเป็นนายกฯ เพียงแค่ 5 ปี ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยชี้แจง
การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่ข้อเถียงสังคมอย่างกว้างขวางต่อไปว่า แล้วก่อนหน้านั้นการเป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2557-2560 เป็นนายกฯ เถื่อนใช่หรือไม่ แล้วการตีความตรงตามลายลักษณ์อักษรมาตรา 264 จะอภิบายในห้องเรียนกฎหมายมหาชนของคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้อย่างไร นักกฎหมายที่เคยออกมาเตือนสติพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องประท้วงหยุดการเรียนการสอนหรือไม่ ส่วนประชาชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยด้วยกับคำตัดสินและตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ก็คงจะมีการจัดการชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญอาจกลายเป็นคู่ความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไปด้วยเพราะเชื่อว่าถูกทำให้กลายเป็นศาลการเมืองจากคำวินิจฉัยดังกล่าว ซึ่งที่มาตุลาการยังถูกผูกโยงจากการรับรองเห็นชอบโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่คณะ คสช.แต่งตั้ง ซึ่งต้องรอดูคำวินิจฉัยส่วนตัวด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ไม่ต่างจากคดีความในอดีตที่มักใช้ทำลายคู่ขัดแย้งทางการเมืองของผู้มีอำนาจ และประชาชนบางกลุ่มนั้นอาจจะถือว่าเป็นคำวินิจฉัยอัปยศหรือ 2 มาตรฐานได้หากมีเปรียบเทียบกับคดียุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์นักการเมืองในอดีต
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการเคลื่อนไหวของ 99 พลเมืองและปัญญาชนที่ผ่านมา ได้ทำให้ความชอบธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ทรุดโทรมลงอย่างมากจากหลักคุณธรรม-จริยธรรม การดึงดันที่จะอยู่ต่อในอำนาจได้ทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ลงแล้ว ซึ่งเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงจะเร่งเวลายุบสภาในเวลาอันใกล้นี้ อย่างช้าที่สุดก็คงหลังประชุมเอเปคตามแผนเดิม แต่ความชัดแย้งที่ขยายตัวอาจไม่อนุญาตให้อยู่ได้นาน เพราะสถานการณ์ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนคงเห็นตรงกันว่า ประยุทธ์รอด ประเทศพัง ระบบนิติรัฐ-นิติธรรม ถูกบั่นทอน
ทั้งนี้ ภาคประชาชน โดยสภาที่ 3 จะจัดเวทีอภิปรายในวันอาทิตย์นี้ เพื่อตั้งคำถามกับคำวินิจฉัยในเชิงวิชาการและทวงเอกสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีกลับมาตามเจตจำนงค์ของประชาชน เวลา 13.30 น. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และในสัปดาห์หน้าจะจัดประชุมเพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับรอบใหม่ในทุกรูปแบบเพื่อปฏิรูปการเมืองทั้งระบบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูดแผนลึกพรรคเพื่อไทย! หาก 'เศรษฐา' โดนศาลรธน.สอย
แม้ว่าหลายฝ่ายจะมั่นใจว่าท่านนายกฯเศรษฐาจะฝ่าอุปสรรคนี้ไปได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีการเดินแผนลึก เตรียมชิงตัดหน้าตั้งรัฐบาลรอบ
อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ
'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว
เลขาฯกกต. โต้ก้าวไกล ปมยื่นยุบพรรค
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต และนายทะเบียนพรรคการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมือง
'ชัยธวัช' ลั่นทุกคนในพรรคนิ่ง ถ้ายุบจริงเราตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่มีการไต่สวน
'รังสิมันต์' รับสภาพคงสู้คดียุบพรรคยากขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นตาย
'โรม' รับคงสู้คดียากขึ้น หลังศาล รธน.นัดชี้ขาดยุบก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ย้ำความสำคัญอยู่ที่กระบวนการ ยกพยานปากสำคัญควรได้ขึ้นไต่สวน ยันพรรคไม่ได้ล้มล้างการปกครอง
7 ส.ค.ระทึก!ศาลรัฐธรรมนูญลงมติคดีก้าวไกลล้มล้างการปกครอง
ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคดีก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง 7 ส.ค.นี้