ปปช. ฟันอาญา นายก อบต.โตนด เรียกรับเงิน 5 แสน แลกฝากเด็กเข้าทำงาน

26 ก.ย.2565 - นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 แถลงผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต กรณีกล่าวหานายวิเชียร สุทธิวิลัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เรียกและรับเงิน โดยอ้างว่าสามารถดำเนินการช่วยเหลือให้ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานส่วนตำบลของ อบต.โตนด ว่า จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย.58 อบต.โตนด ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล

เป็นพนักงานส่วนตำบล ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขัน หลังจากนั้นในวันที่ 21 ก.ย.58 อบต.โตนด ได้มีประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบล ประจำปี 58

โดยบุตรชายของผู้กล่าวหาได้สมัครสอบในตำแหน่งช่างไฟฟ้า จากนั้นเมื่อทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาสามารถดำเนินการให้บุตรของตนเข้าทำงานที่ อบต.โตนดได้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ จำนวน 500,000 บาท จึงได้ไปเบิกเงินจากธนาคารและเดินทางไปที่บ้านของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.โตนด เมื่อไปถึงก็ได้สอบถามผู้ถูกกล่าวหา ว่าหากมอบเงินให้แล้วบุตรของตนจะได้เข้าทำงานใน อบต.โตนดตามตำแหน่งที่สมัครหรือไม่ ผู้ถูกกล่าวหาก็รับปากต่อหน้าบุคคลอื่น ๆ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันว่า สามารถดำเนินการให้บุตรของผู้กล่าวหาได้เข้าทำงานใน อบต.โตนดตามตำแหน่งที่สมัครแน่นอน จากนั้นผู้กล่าวหาจึงได้นำเงินจำนวน 500,000 บาท ที่เตรียมไว้และนำติดตัวไปมอบให้กับผู้ถูกกล่าวหาต่อหน้าบุคคลที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน

ต่อมา วันที่ 8 ม.ค.61 อบต.โตนด ได้มีประกาศยกเลิกการสอบ แข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบล ผู้กล่าวหาจึงได้ติดตามทวงถามเงินจำนวน 500,000 บาท จากผู้ถูกกล่าวหามาโดยตลอด แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ค.61 ผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ โดยมีความประสงค์ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ยอมรับข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกรับเงินจากผู้กล่าวหาจริง ซึ่งทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาสามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยผู้ถูกกล่าวหารับว่าจะผ่อนชำระเงินจำนวนทั้งสิ้น 500,000 บาท ให้กับผู้กล่าวหา เป็นรายเดือน เดือนละ 10,000 บาททุกสิ้นเดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน เม.ย.61 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวน 500,000 บาท หากผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดชำระทั้งหมด ยินยอมให้ผู้กล่าวหาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ หลังจากนั้นผู้ถูกกล่าวหาได้ชำระเงินคืนให้แก่ผู้กล่าวหาเพียง 3 งวด และไม่ได้ชำระอีกเลย

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิ์ภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 ปัจจุบันอยู่ระหว่างผู้ถูกกล่าวหาไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ณ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 6 เพื่อดำเนินการฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช. แจ้งมติ 'สส.มงคลกิตติ์' ลาสภาฯไปดูหนังผิดจริยธรรมหรือไม่

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช

เปิดชื่อ 3 แคนดิเดต เข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ช. คนใหม่

นายนนทิกร กาญจนะจิตรา ประธานกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการกรรมการป.ป.ช. ได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาฯ ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ ลงวันที่ 6 มิ.ย. 2567 รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น บัดนี้การรับสมัครสรรหาได้เสร็จสิ้นแล้ว อาศัยอำนาจตามข้อ 7

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' 6 ส.ค. ปัดมีคนเรียก 10 ล้าน แลกแฉ

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'โจ๊ก' ฟ้องหมิ่น ‘อัจฉริยะ’ 6 ส.ค. 'บิ๊ก ตร.' ย้อนถามกลุ่มนายพลชลบุรีโดนคดีกลับไม่ถูกปลดออก ปัดมีคนเรียกเงิน 10 ล้าน แลกแฉนายพล

วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.

'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่