อุทาหรณ์ 2 พี่น้องขาดทุนจากบิทคอยน์วางแผนชิงเงินบริษัท กับดักหลุมพรางหายนะของคนรุ่นใหม่

'ดร.สุวินัย' ยกอุทาหรณ์ 2 พี่น้องขาดทุนจากเหรียญบิทคอยน์ วางแผนชิงเงินบริษัท โลภยังไม่พอ ยังสิ้นคิด อยากรวยเร็ว ชอบทางลัด คือกับดักหลุมพรางหายนะของคนรุ่นใหม่ มาจากวิธีคิดที่ด้อยค่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของคนเจนนี้

23 ก.ย.2565 - ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณี 2พี่น้องวางแผนชิงเงินบริษัท 3.46 ล้าน สารภาพขาดทุนบิทคอยน์ ว่า

โง่ซ้ำซาก ขาดทุนจากเรื่องเหรียญบิทคอยน์เพราะโลภยังไม่พอ ยังสิ้นคิดจนถึงวางแผนชิงเงินหลังเบิกจากธนาคารอีก

"อยากรวยเร็ว ชอบทางลัด" คือกับดักหลุมพรางหายนะของคนรุ่นใหม่โดยแท้

วิบากกรรมนี้ มันมีที่มาจากเหตุ เหตุนี้ชัดเจนว่า มาจากวิธีคิดที่ด้อยค่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของคนเจนนี้
******
สารภาพขาดทุนบิทคอยน์ เหตุ 2 พี่น้องวางแผนชิงเงิน 3.46 ล้านบาทหลังเบิกจากธนาคาร

สารภาพขาดทุนกู้เงินซื้อเหรียญบิทคอยน์เหตุจูงใจ 2พี่น้องวางแผนชิงเงินบริษัท 3.46 ล้าน หลังถูกเบิกออกจากธนาคาร ขณะตำรวจตามจับได้ถึงห้องพักในกรุงเทพฯหลังก่อเหตุเพียง 2 วัน บอกเงินที่หายส่วนหนึ่งนำไปซื้อไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่องพร้อมของใช้เตรียมหนีต่อ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ ( 22 ก.ย.) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์เงินจำนวน 3.46 ล้านบาทจากรถตู้บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลังพนักงานบริษัทเข้าไปเบิกเงินในธนาคารเพื่อเตรียมนำจ่ายให้กับแรงงาน เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา

โดยผู้ต้องหาคือ นายจตุพล บุญมีสนม (เอ็ม) อายุ 27 ปี และ น.ส. ประภาภรณ์ บุญมีสนม (บี) อายุ 29 ปี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 3,263,500 บาท

ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหาคือ นายจตุพล ได้สวมชุดไรเดอร์ เล่นละครทะเลาะกับ น.ส.ประภาภรณ์ ซึ่งเป็นเสมียนที่เดินทางเบิกเงินจำนวน 3,460,000 บาท โดยอ้างตนเป็นสามี ก่อนจะลงมือทำร้ายคนขับรถตู้ก่อนหยิบกระป๋าเป้ที่ภายในมีเงินสดจำนวนดังกล่าว จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไปทิ้งในป่าอ้อย เขต ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และได้ขับรถกระบะหลบหนีไปจอดไว้ในอู่ประกันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม. 4 เสม็ด จ.ชลบุรี แล้วหลบหนีต่อกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 2 และสืบสวน สภ.บ้านบึง ตามไปจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 112 ชั้น 1 หอพัก 14 รีสอร์ท ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

หลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ และจุดที่มีการนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้ง

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่เกิดจากการกู้เงินไปลงทุนซื้อเหรียญบิทคอยน์จนขาดทุน และยังบอกอีกว่าหลังชิงเงินไปได้ส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่องรวมทั้งของใช้ที่จำเป็นเพื่อการหลบหนีแต่สุดท้ายก็ถูกตามจับกุมตัวได้

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาหาร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักเศรษฐศาสตร์' ชำแหละนโยบายเศรษฐกิจ 'เพื่อไทย' ล้มเหลว เละเทะ ไม่เป็นท่า

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ นโยบายเศรษฐกิจของเพื่อไทยที่ล้มเหลว มีเนื้อหาดังนี้

'นักเศรษฐศาสตร์' เตือน ประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กำลังจะ 'ฆ่า' ระบบสาธารณสุข

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กำลังจะ “ฆ่า” ระบบสาธารณสุขไทย มีเนื้อหาดังนี้

ผ่าแนวคิด 'จักรภพ' อนุรักษ์นิยมแบบใหม่ จะดึงมวลชน-คนรุ่นใหม่ ได้ขนาดไหน

ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่าปรากฎการณ์ที่มวลชน

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เย้ย ไส้เดือนถูกขี้เถ้า จะยกเลิกม.112 พอถูกหาเป็นพวก BRN จะฟ้องร้อง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีพรรคประชาชน(ปขน.) จะดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาว่าปชน.เกี่ยวข้องกับขบวนการบีอาร์เอ็น ว่า