18 ก.ย.2565-นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ พร้อมแกนนำคณะหลอมรวมประชาชน แถลงถึงแนวโน้มสถานการณ์ของประเทศหลังจาก ศาล รธน. ตัดสิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯครบ 8 ปีแล้วหรือไม่ โดยนายจตุพร กล่าวว่า ถ้า ศาล รธน.ตัดสินให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นตำแหน่งหรือยังอยู่เป็นนายกฯ ต่อไป ย่อมส่งผลกระทบนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกเรื่อง อีกทั้งการบริหารประเทศช่วง 8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมี รมต.ทุจริตแม้แต่รายเดียว ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านล้านบาท ทั้งที่สวนทางกับดัชนีคอรัปชันของโลก
“ดังนั้น การซุกซ่อนขยะไว้ใต้พรมคิดว่าจะหนักกว่าทุกรัฐบาล โดยไม่รู้ว่าทั้งนายกฯ และ รมต.จะต้องมีใครเข้าคุกและต้องหลบหนีไปต่างประเทศกันบ้าง ที่ปากแข็งๆว่าไม่หลบหนีก็ให้ดูหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง อีกอย่างการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้บริหารจนประเทศทรุดลงไปทุกวัน ส่วนสภาพ พล.อ.ประยุทธ์ เอง เวลาจะพ้นจากอำนาจ เห็นได้ว่า โหงวเฮง ราศีหน้าตาจะหมองคล้ำ ดังนั้นผลลัพธ์ ในวันที่ 30 ก.ย. จะเป็นเรื่องใหญ่ในทุกเรื่อง และเชื่อว่าการอยู่หรือไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำความจริงได้ปรากฎในทุกสถานการณ์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของคณะหลอมฯ จะนับหนึ่งประเทศอย่างเป็นทางการ เพราะเชื่อเป็นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงเพื่อสถาปนาอธิปไตยปวงชน คือภาระกิจนับหนึ่งประเทศไทย และพวกเรายืนยันคำประกาศไม่เอา 3 ป. ไม่เอารัฐประหารอย่างมั่นคง”
นายจตุพรกล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นไป พวกเราเคยวิเคราะห์ว่า จะไม่มีการเลือกตั้ง แต่ผลลัพธ์กรณีนี้ จะเป็นเรื่องใหญ่ จะเป็นสึนามิทางการเมืองชนิดกวาดกันทั้งกระดานที่ละเมิดกฎหมาย จงใจฝ่าฝืน รธน.กันแทบทุกองค์กรตั้งแต่เลยเที่ยง 23 ส.ค. 2565 มา แม้กระทั่งการทำหน้าที่รักษาการ
นายนิติธร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีสถานะนายกฯ ตาม รธน. ใน 3 เส้นทาง คือ เส้นทางปี 2557 เส้นทางเริ่มตั้งแต่ปี 2560 และเส้นทางเริ่มเป็นนายกฯ ในปี 2562 ดังนั้น เส้นทางในปี 2557 ครบเวลา 8 ปีไปแล้วเมื่อเที่ยงคืน 23 ส.ค. 2565 อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แสดงว่าศาลเริ่มพิจารณานับตั้งแต่เส้นทาง 2557 ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฎิบัติหน้าที่วันที่ 23 ส.ค. 2565 ศาลก็ไม่ต้องสั่งให้หยุดในวันที่ 24 ส.ค. 2565 ครม.ก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
แต่เมื่อ ศาลมาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 24 ส.ค. 2565 จึงเกิดผลตามกฎหมายว่า ไม่มีใครได้ทำหน้าที่ รมต.ต่อไปได้ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่สามารถรักษาการได้ เพราะถือว่า มีการฝ่าฝืน รธน.แล้ว จึงเป็นน้าที่ของ ส.ส.ต้องไปดำเนินการให้เกิดผลตาม รธน.บัญญัติไว้ ส่วนการดำรงอยู่ของรักษาการนายกฯ ของ พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวกับคำสั่งศาล รธน. แต่อยู่ด้วยปากของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกอยู่ได้ อีกทั้งองค์กรอื่นๆ ไม่มีใครรับรองก็อยู่ได้ ขณะเดียวกันสภาก็ละเลยไม่สรรหานายกฯ ใหม่ ด้วยเหตุนี้ ทุกส่วนทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติล้วนแล้วแต่สุ่มเสี่ยงขัดกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ถูกให้พ้นจากนายกฯ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขบวนการดำเนินคดีจะตามมาทั้งหมด จึงไม่สามารถสรรหานายกฯได้ เพราะทุกคนฝ่าฝืน รธน.หมดรวมทั้งสภาด้วย
ขณะเดียวกันศาลสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป ก็มีปัญหาว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 24 ส.ค. 2565 ทุกคนต้องหยุด แต่ไม่มีใครหยุด จึงมีการฝ่าฝืน รธน. ดังนั้น วันที่ 30 ก.ย. ศาลจะออกผลเป็นบวกหรือลบ ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งครม.และสภาผู้แทนฯ เพราะวันที่ 24 ส.ค.ทุกคนสมัครสมาน รธน.ทั้งหมด
“ด้วยเหตุนี้วันที่ 30 ก.ย.จึงต้องเริ่มนับหนึ่งประเทศไทย เพราะไม่มีใครสามารถทำหน้าที่ได้ เนื่องจากวันที่ 24 ส.ค. 2565 เป็นวันที่ฝ่าฝืน รธน.แล้ว ดังนั้นการสั่งให้อยู่ต่อไม่มีผลทางกฎหมายใดๆทั้งสิ้น จึงเป็นสิ่งที่คณะหลอมรวมฯ บอกมาตลอด เราอยากให้อยู่ อย่ายุบสภา อย่าลาออก นักการเมืองจะหาเสียงก็เชิญ ส่วนคณะหลอมรวมฯ จะชวนให้รักษาอำนาจอธิปไตยตัวเองไว้ก่อน แล้วช่วยกันเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ไม่ต้องผ่านพรรคการเมือง หรือนักการเมือง ไม่ต้องผ่านทหาร และรัฐประหารก็ไม่เอา วันนี้ถ้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศ จะเอาทรัพยากรคืน ทั้งไฟฟ้า พลังงาน ทองคำเป็นของชาติ ไม่ใช่ของกลุ่มใด ทุกอย่างเราทำได้หมดเพียงแค่รักษาอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องตาม ม.3 ของ รธน.”
นายนิติธร ย้ำว่า วันนี้ถ้าจะเปลี่ยนประเทศ อย่าหลงคารมนักการเมือง และอย่ายอมทหาร เมื่ออกมา ประชาชนก็ต้องออก แค่นี้ก็นับหนึ่งประเทศไทยได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูด! ส่อเขี่ย 'พีระพันธุ์' ดึงปชน.มาเสริม ปลด 'ภูมิธรรม' นายทหารยศไม่สูงเสียบแทน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม.
'จตุพร' มองการเมือง 2568 สัมพันธ์อำนาจระแวงบีบกด ฉุดบ้านเมืองเข้ามุมอับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ส่งท้ายปี 2567 ว่า ในปี 2568 บ้านเมือง
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง
จตุพรชี้ รัฐบาลพ่อเลี้ยง ขาดพ่อก็จบ ไม่มีคนเกรงใจ
“จตุพร” ชำแหละรัฐบาลพ่อเลี้ยง สะท้อนนายกฯ ยังละอ่อนการเมือง ฉะพ่อก้าวร้าว อาละวาดตบจูบทำเสมือนเป็นนายกฯ ตัวจริง ส่วนลูกแค่ร่างทรง เชื่อขาดพ่อรัฐบาลก็จบ จับตาเชือด “พีระพัง” หลังปีใหม่ ระบุขวางผลประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด ซัดสหายใหญ่ ทำตัวเป็นแมวเสียศักดิ์ศรีคุมกลาโหม ชมฉายา “อนุทิน- รมต.น้ำ” รู้เท่าทันสถานการณ์บังคับให้เล่นเป็น อยู่ได้ ชี้นายกฯ แพทองโพย เอาแต่อ่านทำภาพลักษณ์ผู้นำหายหมด
การเมืองมกรา’68 พรรคร่วมร้อนรุ่มแตกหัก ‘ทักษิณ’ หนาวสะท้านชั้น 14
ทักษิณขยี้หนัก โชว์ภาพตีกอล์ฟขนาบข้างทุนผูกขาด ส่อสื่อสัญญาณรุก “พีระพันธุ์-รวมไทยสร้างชาติ” คาดชะตากรรมไม่แตกต่าง “ประวิตร-พปชร.” ประเมินปี 68 ปมชั้น 14 ทำการเมืองร้อนแรง
'จตุพร' ฉะ 'ทักษิณ' เดินเกมการเมืองอบจ. แบบตีท้ายครัว ใช้นโยบายปราบผู้มีอิทธิพลเพื่อต้อนเข้าคอก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ต่างๆ ว่า จากคำพูดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ที่ออกมาระบุว่าได้พานายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์