เตือนประชาชนระวังโรค 'ไข้ฉี่หนู-ไข้ดิน' ที่มากับน้ำท่วมขัง

รัฐบาลห่วงประชาชน เตือนระมัดระวังโรคมากับน้ำท่วม ทั้ง 'ไข้ฉี่หนู-เมลิออยด์' เผยปีนี้พบผู้ป่วยแล้วรวมกว่า 3,300 ราย แนะหลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน แช่น้ำเป็นเวลานานด้วยเท้าเปล่า

15 ก.ย.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝนนี้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ รัฐบาลห่วงใยประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยโรคสำคัญที่มากับน้ำท่วมที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ โรคไข้ฉี่หนู หรือ Leptospirosis และโรคเมลิออยด์ (Melioidosis) หรือโรคไข้ดิน จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากทั้งสองโรคดังกล่าว โดยช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 นี้ พบผู้ป่วยทั้งสองโรครวมแล้วกว่า 3,300 ราย

นายอนุชากล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่าโรคไข้ฉี่หนูเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับคนและสัตว์ เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน หรือการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากฉี่หนูหรือสัตว์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อได้ อาการของโรคไข้ฉี่หนู คือมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว จะปวดมากที่น่องและโคนขา อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง โดยกรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โรคไข้ฉี่หนูตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 5 กันยายน 2565 พบผู้ป่วย 1,410 ราย เสียชีวิต 9 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ อายุ 45-54 ปี รองลงมาอายุ 35-44 ปี และอายุ 55-64 ปีส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะที่โรคเมลิออยด์หรือโรคไข้ดิน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ที่พบได้ทั่วไปในดิน น้ำ เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางคือ 1.การสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน 2.ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป และ 3.สูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อประมาณ 1 - 21 วันจะมีอาการเจ็บป่วยแต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง ปวดท้อง ปวดข้อปวดกระดูก มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ บางรายพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้เป็นหลัก จึงทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษา สำหรับสถานการณ์โรคเมลิออยด์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 กันยายน 2565 พบผู้ป่วยโรคเมลิออยด์ จำนวน1,908 ราย เสียชีวิต 24 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ อายุ 55-64 ปี รองลงมาอายุมากกว่า 65 ปี และอายุ 45-54 ปี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร

“สำหรับการป้องกันทั้ง 2 โรค กรมควบคุมโรคได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาทันทีตามอาการและความรุนแรงของโรค นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่พร้อมเข้าช่วยเหลือดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยจากน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถเข้าถึงยาและการรักษาได้อย่างทันท่วงที”นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อากาศเปลี่ยนแปลง ‘กทม.’ อุณหภูมิลดลง ‘เหนือ-อีสาน’ หนาวเย็น ‘ภาคใต้’ ฝนตก

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว

ศปช. ส่งสัญญาณพื้นที่แล้ง 7 จังหวัด รีบกักเก็บน้ำในช่วง 16-18 พ.ย.นี้

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภููมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย

'ศปช.' แจ้งทั่วไทยยังมีฝน แนะพกร่มก่อนไปลอยกระทง

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพ

พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ตั้งแต่ 18 พ.ย. อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 15 -24 พ.ย. 67

กรมอุตฯ ประกาศเตือนพายุ 'โทราจี' ฉบับสุดท้าย

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “โทราจี” ฉบับที่ 10 โดยมีใจความว่า