'จตุพร' ขึงพืด 'มีชัย' กลางม็อบ พลีชีพจงใจให้การเท็จ

11 ก.ย.2565 – ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และแกนนำกลุ่มหลอมรวมประชาชน จัดกิจกรรม “หยุดอำนาจ 3ป. เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย” ต่อเป็นสัปดาห์ที่ 2 ทั้งนี้นายนิติธร ระบุช่วงหนึ่งว่า  ประเด็นที่คุณประยุทธ์ ขอให้ศาลนึกถึงข้อกฎหมายไม่ใช้การรับรู้ของประชาชนทั่วไป นั้นสะท้อนว่าคุณประยุทธ์ไม่รับรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันประเด็นที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ บอกไปยังคณะรัฐมนตรีทั้งหลายนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา พวกท่านทั้งหลายไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตร รักษาการไม่ได้ คณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ไม่ได้เพราะหลังจากศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นมาจากพื้นที่ของคุณประยุทธ์ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแล้ว หมายความว่าฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแล้วจึงให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญทางคณะหลอมรวมประชาชนจะรอศาลตัดสิน หลังจากนั้นจะไล่ดำเนินคดีกับทุกๆคน และหลังจากนี้หากศาลตัดสินไม่ว่าจะเป็นทางใดก็แล้วแต่ คณะรัฐมนตรีทั้งหมดก็ต้องพ้นไปอยู่ดี เพราะมีการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นแล้ว” นายนิติธร ระบุ

ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า คนที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พอใจมากที่สุดเรื่อง 8 ปี คือนายมีชัย ฤชุพันธ์ นายมีชัย ถ้าเปรียบการสร้างบ้านก็เหมือนคนออกแบบและเป็นผู้รับเหมาไปในตัว พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนผู้ว่าจ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้บ้านอยู่ได้ไปตลอดชีวิต แต่นายมีชัยออกแบบไว้แค่ 8 ปี นั้นเปรียบเปรยเหมือนการสร้างบ้าน แต่นี้ประเทศไทยรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด

นายจตุพร ระบุว่า ตามความที่ทนายนกเขาได้อธิบายความนั้น การเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งเกิน 8  ปีไม่ได้ตามมาตรา 158 และเหตุที่เป็นต่อหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากมาตรา 264 ระบุว่า ให้คณะรัฐมนตรีที่เป็นก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนี้ เฉกเช่นเดียวกับคณะองคมนตรี คณะองคมนตรีที่เป็นก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ให้เป็นคณะองคมนตรีตามรัฐธรรมนูญนี้ ซึ่งจะผิดไปจากตำแหน่งอื่นๆให้ทำหน้าที่แทนไม่ว่าจะเป็น สนช.สปช.และ คสช.ก็ตาม

“เพราะฉะนั้นการพยายามที่จะบิดเบือนหาช่องทางให้ตัวเองรอดเป็นการกระทำที่น่าละอาย ความเป็นจริงคณะหลอมรวมฯได้แสดงจุดยืนมาตั้งแต่ต้นว่า เรื่อง 8 ปี ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะวิญญูชนย่อมรู้ดีว่าตัวเองดำรงตำแหน่งมาแล้วจาก 24 ส.ค.57 ครบ หลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค.65 เพราะฉะนั้นคนไทยที่รู้หนังสือหรือไม่รู้หนังสือ กฎหมายบัญญัติว่าการเกิดเป็นคนไทยจะปฏิเสธไม่รู้กฎหมายไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีเป็นคนแต่งตั้งนายมีชัยและพวกร่างรัฐธรรมนูญ การพยายามอธิบายความให้กับตัวเองยิ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ยิ่งนายมีชัย ซึ่งจะต้องทำคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามเอกสารที่หลุดออกมานั้น” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าเอกสารรายงานการประชุม ทั้งหมด 501 ครั้ง ได้พิมพ์เป็น 2 เล่ม เล่มแรกเป็นปกแข็งคือการประชุมครั้งที่  1- 485 เล่มที่ 2 คือปกอ่อนประชุมครั้งที่ 486-501 เพราะฉะนั้นในคำชี้แจงของนายมีชัย จะต้องหยิบหนังสือบันทึกรายงานการประชุมเล่มปกอ่อน เพราะเรื่องนี้ผ่านเรื่องราวมาร่วม 5 ปี ย่อมที่จะประจักษ์ชัดเจนว่า การประชุมแม้ว่าจะหลงลืมอย่างไรก็ตามไม่มีทางหลงลืมไปได้ นายมีชัยระบุว่าการประชุมครั้งที่ 500 เป็นครั้งสุดท้าย และเจ้าหน้าที่จดผิดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นายมีชัย ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าครั้งที่ 500 ไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย ให้ลืมเกือบตายเวลาที่ไปเปิดย้อนหลังดูเพราะต้องทำคำชี้แจง ครั้งที่ 500 มันมีครั้งที่ 501 อีก และที่นายมีชัย กล้าเขียนว่ายังไม่ได้รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 500 ทั้งที่การประชุมครั้งที่ 501 มีการรับรองกันชัดเจน โดยนายมีชัย นั่งเป็นประธานที่ประชุม มีคนอื่นๆร่วมด้วยไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่

นายจตุพร กล่าวว่า ต่อมาอ้างว่าไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่สภาที่ชำนาญการเรื่องจดชวเลขเข้าไปบันทึก ความเป็นจริงการใช้ชวเลขหรือการบันทึกอื่นใดนั้นมันอยู่ที่สรุปรายงานการประชุม ซึ่งผ่านการตรวจ จากนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ซึ่งเป็นรองประธานคนที่ 2 และเคยเป็นประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเคยเป็นศาลฏีกา นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ก็เคยเป็นอนุกรรมการอยู่ชุดนี้ด้วย แม้กระทั่งการประชุมที่ 501 มีการรายงานในวันถัดมาก่อนที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะสิ้นสุดการทำหน้าที่

“เพราะฉะนั้นประชาชนคนไทยอาจมีข้อสงสัยว่า เหตุใดนายมีชัย จงใจจะกระทำตัวเหมือนระเบิดพลีชีพตัวเองและลามไปโดนพล.อ.ประยุทธ์ ตายตามกันไปด้วย เพราะว่านี้เป็นการให้การเท็จที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการไม่ได้รับรองรายงานการประชุม จดผิด เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย คือครั้งที่ 500 เพราะข้อเท็จจริงมีครั้งที่ 501  และที่สำคัญที่สุดในรายงานการประชุมครั้งที่ 501 ระบุว่าไว้อย่างชัดเจนว่า บันทึกรายงานการประชุมทั้ง 2 เล่ม ปกแข็งครั้งที่ 1 -485 ปกอ่อนครั้งที่ 486 -501 นั้น ต้องแจกให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ปรึกษาทุกคนเพราะฉะนั้นไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นได้ว่า จงใจให้การอันเป็นเท็จ” นายจตุพร ระบุ

นายจตุพร กล่าวว่า ปัญหาคือระดับนายมีชัย เหตุใดต้องจงใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าการประชุมครั้งที่ 500 ไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย แต่จงใจใช้ความเท็จเข้าไปอุ้มพล.อ.ประยุทธ์ และที่สำคัญที่สุด การให้การครั้งที่ 500 กับคำให้การของนายมีชัย การพูด 2 ครั้งของนายมีชัย ไม่เหมือนกัน แต่นายมีชัยเหมือนสารภาพไปในตัวว่าที่ให้การไปทั้งหมดเป็นความเท็จ เพราะครั้งที่ 500 นายมีชัยระบุเลยว่าให้นับก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และการประชุมครั้งที่ 501 รับรองรายงานการประชุม ที่นายมีชัย พูดไม่มีใครเห็นเป็นอย่างอื่น ตรงกันข้ามกับที่นายมีชัยมาให้การภายหลัง ว่าให้นับวันที่ 6 เม.ย.60 เป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

“การตัดสินเรื่องนี้คาดการกันว่าน่าจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากสมัยประชุมสภาฯครั้งนี้จะปิดสมัยประชุมวันที่ 19 ก.ย. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดหมายในวันที่ 14 ก.ย.เหลือเวลาเพียง 5 วันก่อนปิดสมัยประชุมสภา การสิ้นสุดลงของ พล.อ.ประยุทธ์  ถ้าเป็นเหตุ 8 ปี การรักษาการของ พล.อ.ประวิตร ก็ผิดกฎหมายเป็นโมฆะตั้งแต่วันที่ศาลสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ วันนั้นจะรักษาการไม่ได้ เพราะคนที่ทำหน้าที่รักษาการคือปลัดกระทรวง กฎหมายได้บัญญัติชัดเจนว่าถ้ากรณีสิ้นสุดลงครบ 8 ปี ตามมาตรา 158 จะต้องให้ปลัดกระทรวงเข้ามาทำหน้าที่และให้ปลัดเลือกปลัดมาหนึ่งคนทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี การกระทำผิดกฎหมายได้ปรากฏชัดแล้วขณะรักษาการ พวกเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด” นายจตุพร ระบุ

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า การนัดหมายครั้งนี้คือวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ย. แต่ถ้ามีสถานการณ์อื่นใดที่เป็นมาก่อนหน้านั้น หมายความว่าเกิดเหตุการณ์อื่นใดก่อนวันที่ 18 ก.ย.ก็จะนัดเร็วขึ้นโดยใช้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดนัดแรก ส่วนนัดต่อไปจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง พวกเราจะไม่หยุดยั้งภารกิจหยุดอำนาจ 3 ป.เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' ย้อนเกล็ด 'ทักษิณ' แหกปากด่ารัฐประหารเมื่อตัวเองเสียประโยชน์!

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุถึงคำพูดของทักษิณ ชินวัตร ที่ตำหนิกติกาเลือก สว. จนทำให้นายสม

ป.ป.ช. แจงอุทธรณ์ คดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี'

'เลขาฯ ป.ป.ช.' แจงคดีศาลยกฟ้อง 'อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี' ได้ชี้มูลผิดอาญาโดยอิสระ ยึดพยานหลักฐานตามกฎหมายปราศจากอคติ

ปลุก 'ผู้สมัคร สว.' เก็บหลักฐานฮั้ว อาชญากรการเมืองไม่รอดแน่

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เรียนผู้สมัคร สว ทุกท่าน ที่พบเห็นกระบวนการฮั้ว!

ทนายเชาว์ แนะจับตาหมากกลอัยการคดี 112 ทักษิณ

นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเรื่อง "คดี 112 ของทักษิณกับการประกันตัว" มีรายละเอียดว่า "ช่วงนี้มีคนนำมาตรา 112 มาเป็นประเด็นบนสื่อโซเชียลกันจำนวนมาก โดยเฉพาะคดีของน

อดีตอัยการสูงสุด กางวิอาญา ตอบข้อสงสัย ร้องขอความเป็นธรรมทำได้ถึงชั้นไหน

ศ.พิเศษ อรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด (อสส.) ให้ความเห็นข้อกฎหมายถึงเรื่องการร้องขอความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ว่า ใ