'พีระพันธุ์'สั่งใช้เทคโนโลยีทำงานคลี่คลายปัญหาร้องเรียนจากปชช. เพิ่มประสิทธิภาพ-ความรวดเร็วการแก้ปัญหา พร้อมสั่งอนุกรรมการฯ 9 คณะบูรณาการงานร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อน ล่าช้า เตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ตรวจสอบความเดือดร้อนประชาชนด้วยตัวเอง
2 ก.ย.2565 - ที่ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานของอนุกรรมการทั้ง 9 คณะ ตามที่ได้รับมอบหมาย
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้มอบหมายการทำงานไปแล้ว ทราบว่าคณะอนุกรรมการแต่ละคณะก็ได้ไปเร่งดำเนินการตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ ในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกันหลายหน่วยงาน และมีเอกสารจำนวนมากนั้น ตนเห็นว่าควรจะมีระบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ล่าสุดได้จัดทำ เว็ปไซด์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารและมอบหมายงานต่างๆ ของคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะโดยจะบรรจุรายละเอียดความเป็นมาของเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่ประชาชนร้องเรียนมา โดยตนได้พิจารณาเบื้องต้นแล้ว ก่อนที่จะส่งต่อไปยังคณะอนุกรรมการคณะต่างๆ ที่เห็นว่าเกี่ยวข้อง และขอให้ประธานคณะอนุกรรมการแต่ละคณะจะต้องเข้าไปตรวจสอบและเร่งดำเนินการโดยทันที
“รูปแบบการทำงานในลักษณะนี้จะเป็นสื่อกลางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ การทำงานช่วยเหลือประชาชนลื่นไหล รวดเร็วขึ้น เพราะความเดือดร้อนที่ประชาชนร้องเรียนมาเขาก็ต้องการความรวดเร็ว และที่ผ่านมาพบว่าเรื่องราวร้องทุกข์ผ่าน ศูนย์รับร้องเรียน 1111 มีอยู่จำนวนมาก ผมคิดว่าการบูรณาการการทำงานทั้งการใช้เทคโนโลยี หรือ สิ่งที่มีประโยชน์ต่างๆ มาช่วยก็จะทำให้การทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของแต่ละคณะหลังจากที่ได้รับมอบหมายแล้ว ประธานอนุกรรมการฯ จะต้องเชิญคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุม โดยสิ่งที่ตนอยากให้ทำคือการรับฟังข้อเท็จจริงของทุกฝ่ายก่อนที่จะกลับมาร่วมหารือเพื่อหาแนวทางว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งอนุกรรมการฯ แต่ละคณะจะได้บูรณาการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องการอำนวยความสะดวก หรือสนับสนุนการทำงานในแต่ละประเด็นเพื่อให้การทำงานช่วยเหลือประชาชนเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยงานเร่งด่วนที่ได้สั่งการลงไปคือการตรวจสอบข้อเรียนในพื้นที่ภาคใต้เพราะตนและคณะเตรียมจะเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเองเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ได้มีคำสั่งให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 9 คณะ ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ 2.คณะอนุกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ 3.คณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสถาบันการเงิน 5.คณะอนุกรรมการประสานการสนับสนุนและแก้ไขปัญหา 6.คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหา 7.คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเฉพาะกรณี 8.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับข้อพิพาทและปัญหาที่ดิน และ 9.คณะอนุกรรมการประสานงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และที่เกี่ยวกับชาวมุสลิม โดยมีประธานคณะอนุกรรมการของแต่ละคณะ ได้แก่ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ นายสามารถ มะลูลีม พันตำรวจเอกสีหนาท ประยูรรัตน์ พันตำรวจเอกดุษฎี อารยวุฒิ นายอนุกูล ปิดแก้ว นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ พลตำรวจตรีอำนาจ ไตรพจน์ และพลตรีเจียรนัย วงศ์สะอาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พีระพันธุ์' เตรียมขยายเวลาตรึงค่าไฟ 4.18 บาทต่อหน่วย ถึงสิ้นปี 67
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงมาตรการดูแลราคาพลังงานให้ประชาชน หลัง
สอวช. วิเคราะห์ 'ทรัมป์' คืนทำเนียบขาว กระทบวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม
จากชัยชนะแบบถล่มทลายของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ได้ก่อคลื่นกระแท