‘หมอเหรียญทอง’ ร่ายยาวไม่ได้หิวแสง แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องโลดโผน

หมอเหรียญทอง

28ส.ค.2565-พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ชีวิตของผมมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องโลดโผนและคงจะไม่มี ผอ.รพ.คนไหนในราชอาณาจักรไทยโชกโชนโลดโผนเหมือนผม ดังลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้

1.เหตุการณ์ เอ็ม.79 ถล่มผู้ชุมนุมพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยที่สนามบินดอนเมือง เมื่อ 1 ธ.ค.51 เวลาประมาณ 01.00 น….ผมคือ ผอ.รพ.ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ นอนห่างจากจุดระเบิด เอ็ม.79 ประมาณ 8-10 เมตร แต่ปลอดภัยเพราะนอนอยู่ข้างกองสัมภาระจึงมีกำบัง ผมช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุได้ 20 คน แต่มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย เพราะสะเก็ดระเบิด เอ็ม 79 ตัดขั้วหัวใจ ผู้เสียชีวิต ชื่อ รณไชย ไชยศรี ชาวสงขลา

2.เหตุการณ์ผู้ป่วยบัตรทองประมาณ 300,000 คน ไม่มี รพ.รองรับ เนื่องจาก รพ.คู่สัญญา สปสช.ถอนตัวในวันที่ 1 เม.ย.53 …ผม คือ ผอ.รพ.เอกชนแห่งเดียวที่ตัดสินใจรับผู้ป่วยบัตรทองทั้งหมด 300,000 คนให้มาใช้บริการที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งๆที่ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่เคยรับผู้ป่วยบัตรทอง และไม่เคยรับผู้ป่วยประกันสังคมมาก่อน รพ.มงกุฎวัฒนะไม่รู้จัก ไม่เข้าใจระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ระบบการจ่ายค่ารักษาแบบค่าปรับน้ำหนักสัมพัทธ์ [Adjust Relative Weight] เสียด้วยซ้ำ ที่สำคัญขณะนั้นผมมีระยะเวลาเตรียมการแค่ 2 เดือนเศษ เพื่อขยาย รพ.มงกุฎวัฒนะจากจำนวนเตียงที่มีอยู่แค่ 40 เตียงเป็น 200 เตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยจำนวนมากให้ทันเวลา แล้วผมก็ทำสำเร็จและดีเสียด้วย โม้ชิบหายเลยนะครับ

3.เหตุการณ์มหาอุทกภัยระหว่าง ก.ย.-ธ.ค.54 …ผม คือ ผอ.รพ.ที่ไม่ให้ รพ.มงกุฎวัฒนะปิดทำการท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมรอบพื้นที่ ขณะนั้น รพ.ในพื้นที่กรุงเทพฯเหนือทั้งรัฐและเอกชนปิดทำการและย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.อื่นๆในต่างจังหวัดแล้วทั้งสิ้น แต่ผมกลับสั่งการให้ รพ.มงกุฎวัฒนะเป็น รพ.ที่’เหลือไว้ปะทะ’กับสาธารณภัยในพื้นที่อุทกภัย ผมตัดสินใจถูกต้องที่ไม่ย้ายผู้ป่วยตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพราะตลอดเวลาสถานการณ์อุทกภัยมีผู้ป่วยจำนวนมากมารับการรักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เพราะในพื้นที่อุทกภัยคงเหลือ รพ.มงกุฎวัฒนะเพียงแห่งเดียว มีสำนักข่าวต่างประเทศและในประเทศมาทำข่าวหลายสำนัก ผมบอกว่าผมเป็นอดีตทหารหมอ

และนี่คือ รพ.ที่เหลือไว้ปะทะในสถานการณ์สาธารณภัย มีผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยอาการวิกฤต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบถูกส่งต่อมาจากชุดแพทย์เคลื่อนที่ รพ.รามาธิบดี ผู้ป่วยถูกส่งมาทางเรือ ทั้งนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะรักษาชีวิตผู้ป่วยได้โดยสวนหัวใจขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน ผู้ป่วยรายนี้รอดชีวิตและได้แต่งเพลงชื่อ ‘เหรียญทอง’ ให้ผมเป็นที่ระลึกไว้ด้วย ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถในขณะนั้นทรงพระราชทานข้าวสารอาหารแห้งให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อใช้ประกอบเลี้ยงผู้ป่วย และประชาชนที่หนีภัยน้ำท่วมมาอยู่กับ รพ.มงกุฎวัฒนะด้วย …ข้าพระพุทธเจ้าน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ตราบจนปัจจุบัน

4. เหตุการณ์การชุมนุม กปปส.แจ้งวัฒนะ ระหว่าง 13 ม.ค.57-22 พ.ค.57 …ผม คือ ผอ.รพ.ที่สั่งการให้ รพ.มงกุฎวัฒนะพร้อมรักษาผู้ชุมนุมที่เจ็บป่วยโดยเฉพาะบาดเจ็บจากอาวุธสังหาร ถึงแม้ผมจะมีอุดมการณ์ กปปส. แต่ผมก็สั่งการให้รพ.มงกุฎวัฒนะรักษาผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ผม คือ คนที่ออกไปสกัดกั้นหน่วยสลายการชุมนุมในวันที่ 14 ก.พ.57 กลางถนนแจ้งวัฒนะ หน้า รพ.มงกุฎวัฒนะ ผมเดินออกไปเผชิญหน้าคนเดียว ถึงแม้จะถูกคนเสื้อแดงต่อต้านมากมาย แต่ผมก็ไม่ได้หวั่นไหว ผมคิดอย่างบ้องตื้นง่ายๆเพียงแค่ว่า “การชุมนุม กปปส.บน ถ.แจ้งวัฒนะ จะต้องไม่เกิดการสูญเสียชีวิต เพราะทุกชีวิตที่สูญเสีย คือความโทมนัสของพระเจ้าแผ่นดิน” …ผมคิดอย่างบ้องตื้นแค่นี้แหละครับ นับจากวันนั้น ผมถูกต่อต้านจากแนวร่วมอริราชศัตรูมาโดยตลอดตราบจนปัจจุบันนานกว่า 8 ปีแล้ว…มีผู้บาดเจ็บจากอาวุธสังหารจำนวนมาก แต่ไม่มีใครเสียชีวิตที่แจ้งวัฒนะ รพ.มงกุฎวัฒนะรักษาทุกรายอย่างปลอดภัย เอ็ม.79 ไม่สามารถคร่าชีวิตผู้ชุมนุมที่แจ้งวัฒนะครับ

5.เหตุการณ์ผู้ต้องหาถูกฆ่ารัดคอและทำร้ายจนตับแตกที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ [DSI] เมื่อ ส.ค.59 …ผม คือ ผอ.รพ.ที่ต้องรักษาความถูกต้องยุติธรรมให้แก่บุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่า ‘ปั๊มหัวใจแล้วทำให้ตับแตก’ เหตุการณ์ครั้งนั้นดูเสมือนว่าผมเป็นคู่ขัดแย้งกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่จริงๆแล้วผมจำเป็นต้องรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ไม่ให้กลายเป็น ‘แพะรับบาป’ ผมจึงต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และรักษาไว้ซึ่งความเชื่อมั่นแก่สังคม ‘ปั๊มหัวใจ หรือ ซี พี อาร์’ นั้นไม่ทำให้ตับแตก มิฉนั้นแล้วเจ้าหน้าที่กู้ชีพ บุคลากรทางการแพทย์ หรือประชาชนทั่วไป จะหวาดหวั่นต่อการปั๊มหัวใจฟื้นชีวิตครับ

6.เหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 ระลอก 3-4 ระหว่าง เม.ย.64 – พ.ย.64 ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมีผู้ป่วยอาการรุนแรงมากมาย (ขณะนั้นยังไม่มีวัคซีน) …ผม คือ ผอ.รพ.เอกชน คนแรกที่จัดตั้ง รพ.สนามขั้นสมบูรณ์ครบทั้ง 3 ระดับ รวมจำนวนเตียงทั้งสิ้น 3,465 เตียง สามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยโควิดนับแสนราย รับตัวเข้ารักษาใน รพ.สนาม หลายหมื่นคน เป็นผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องใส่ท่อหายใจนับพันคน จนสื่อทั้งในประเทศและนอกประเทศทำข่าว นี่ยังไม่พูดถึงการเป็น ผอ.รพ.คนเดียวที่ต้องมีเรื่องวิวาทกับไอ้กุ๊ยหลักสี่อีกนะครับ

7.เหตุการณ์ผู้ป่วยบัตรทองไม่มีคลีนิกรักษา ระหว่าง ก.ค.-ก.ย.63 เนื่องจาก สปสช.บอกเลิกสัญญากับ รพ.และคลีนิกจำนวนมากกว่า 200 แห่ง …ผม คือ ผอ.รพ.เอกชนที่ทำการรักษาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทองที่ไม่มีสถานพยาบาลรักษา แล้วในที่สุดก็ถูก สปสช.เบี้ยวหนี้ จนผมผรุสวาทด่าทอ ด่าแม่ สปสช.สร้างความไม่พอใจต่อ ‘ขาใหญ่ สปสช’

8.เหตุการณ์ เลขาธิการ สปสช.บอกเลิกสัญญา รพ.มงกุฎวัฒนะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน…ผม คือ ผอ.รพ.ที่ทำเรืองขอ’ลด’ประชากรเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดชั่วคราวกับ ผอ.สปสช.เขต 13 แต่ เลขาธิการ สปสช.กระโดดลงมาสั่งการบอก ‘เลิก’สัญญาอย่างผิดกฎหมายอย่างหน้าตาเฉย ไม่สนขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด แล้วผมคนนี้นี่แหละที่จะเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อผู้ป่วยบัตรทองนับแสนคน และพนักงานหลายร้อยชีวิตในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งเลิกสัญญาที่ผิดกฎหมายโดย เลขาธิการ สปสช.

“ใครก็ตามที่คิดว่าผมหิวแสง อยากดัง ได้โปรดเข้าใจด้วยว่า ผมไม่ปรารถนาที่จะมีเรื่องกับใคร ผมสามารถมีชีวิตอย่างสุขนิยมได้อย่างน่าอิจฉาเสียด้วยซ้ำ ถึงแม้จะไม่ใช่เศรษฐีแต่ก็พอมีอันจะกิน เพียงแค่ผมเห็นแก่ความสุขส่วนตัว ชีวิตของผมก็สบายแล้ว ผมจะไปใช้ชีวิตผู้สูงวัยของผม พักผ่อนบ้านพ่อที่ริมมหาสมุทรอินเดีย เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลียตะวันตก เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมไม่ทำ เพราะสังคมโดยรวมอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ด้วยสังคมโดยรวม …พ่อแห่งแผ่นดินทรงสอนไว้ครับ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หมอเหรียญทอง’ ใช้ยุทธวิธี 'ชาวบ้านบางระจัน' สู้น้ำท่วม งัด 10 มาตรการดูแลผู้ป่วย

โปรดอย่าตื่นตระหนกในทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ เราคืออดีตทหารของพระราชาจอมทัพภูมิพลมหาราชที่ยังคงเป็นทหารพระราชาแห่งองค์จอมทัพมหาวชิราลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

อัยการยื่นฟ้อง 'หมอเหรียญทอง' ตบเด็ก 14 สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล

พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 นำนายแพทย์หรือนายเหรียญทอง แน่นหนา ,นายแพทย์หรือนายเหรียญตรา แน่นหนา ,นางอรพรรณ ระหงษ์ ,นายวุฒิภัทร ทองพรม มายื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลในความผิดฐาน

ทนายหิวแสงสนใจมั้ย! 'หมอเหรียญทอง' ปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดต่อคนสูบบุหรี่ในรพ.อีกรายแล้ว

นพ.เหรียญทอง แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า แชร์ให้ทราบทั่วกันว่าเมื่อเย็นวันที่ 9 ก.ค.67 มีผู้ป่วยชายอายุ 48 ปี ตามบัตรประชาชนที่แนบ ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในห้องสุขา หอผู้ป่วยสามัญชาย รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มีผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่มากกว่า 30 เตียง

หมอเหรียญทอง ฮึดสู้! ลั่นจะเอาคืนบ้างหลังถูกกลั่นแกล้งร้องเรียนที่แพทยสภา

พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เครือข่ายน้องๆของผมจะร้องเรียนแพทย์หลายตัว บางตัวเป็นกรรมการแพทยสภา