'อ.หริรักษ์' ฟาดฝ่ายแค้นถล่มไม่หยุด ตั้งใจไม่ใช้เหตุผล กดดันศาล เย้ยม็อบจุดไม่ติด ปชช.รอคำวินิจฉัยดีกว่า


'อ.หริรักษ์'ไม่ได้ผิดคาดฝายค้านถล่มไม่หยุดหลังศาลรธน.ให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชี้กฎหมายจะมีผลบังคับย้อนหลังที่เป็นโทษต่อบุคคลไม่ได้ แต่ฝ่ายค้านตั้งใจไม่ใช้เหตุผลสร้างบรรยากาศกดดันศาล เย้ยม็อบจุดไม่ติดปชช.รอคำวินิจฉัยดีกว่า

26 ส.ค. 2565 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ไม่ได้ผิดจากความคาดหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้พิจารณาด้วยมติ 9-0 และให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าจะมีผลการวินิจฉัยออกมาด้วยมติ 5-4 ในขณะที่ส.ส.พรรคฝ่ายค้านยังถล่มไม่หยุด ยังคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายกประยุทธ์ต้องไปอย่างเดียว กระทั่งเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมก็โจมตีว่าเป็นไม่ได้เพราะไม่สง่างาม

ความจริงคนที่มีสมองในระดับที่สอบเข้าและเรียนจบแพทย์มาได้ ต้องมองออกอยู่แล้วว่า รัฐธรรมนูญเขียนไม่ได้เขียนไว้ชัดอย่างที่กล่าวอ้าง รัฐธรรมนูญบอกว่า

" นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง"

นั่นหมายความว่า นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินกว่า 8 ปี ไม่ได้ แม้จะดำรงตำแหน่งมาแล้วเว้นจากการดำรงตำแหน่งไประยะหนึ่ง เช่น ดำรงตำแหน่งครบ 1 วาระ จากนั้นเว้น 1 วาระ เมื่อกลับมาดำรงตำแหน่งใหม่อีก ก็ไม่ให้เริ่มนับ 1 ใหม่ แต่ให้นับต่อเนื่อง โดยรวมกันแล้วจะเกินกว่า 8 ปีไม่ได้

รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ว่า ให้มีผลบังคับย้อนหลังไปหรือไม่ แต่โดยหลักแล้วกฎหมายจะมีผลบังคับย้อนหลังที่เป็นโทษต่อบุคคลไม่ได้ แต่บรรดาส.ส.ฝ่ายค้าน นักวิขาการที่ไม่เอารัฐบาล ดูเหมือนยืนกระต่ายขาเดียวกันหมดว่า ต้องให้มีผลย้อนหลังไปก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ ดังนั้นนายกฯต้องไปสถานเดียว แต่ความเป็นจริงจะต้องมีการตีความว่า จะสามารถให้มีผลย้อนหลังได้หรือไม่

มีบางคนไปนำเอากรณีคุณ สิระ เจนจาคะ มาเทียบเคียง คุณสิระถูกร้องว่าเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง อันเป็นคุณสมบัติต้องห้ามสำหรับตำแหน่ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กรณีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้คุณสิระพ้นจากตำแหน่งส.ส. ไม่ใช่ตั้งแต่วันที่ถูกร้อง แต่ให้ย้อนหลังไปถึงวันที่ได้ตำแหน่งส.ส. ซึ่งเท่ากับว่า คุณสิระไม่เคยเป็นส.ส.มาเลยนั่นเอง แต่กรณีคุณสิระ ไม่ได้เป็นการใช้กฎหมายบังคับย้อนหลัง เพราะในวันที่คุณสิระสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งส.ส. คุณสิระขาดคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.แล้วตามรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังบังคับใช้ขณะนั้น ซึ่งก็เป็นฉบับเดียวกับฉบับปัจจุบัน ดังนั้นกรณีของคุณสิระจึงเป็นคนละกรณีกับพลเอก ประยุทธ์ซึ่งนำมาเทียบเคียงกันไม่ได้โดยสิ้นเชิง

เป็นไปไม่ได้ว่า จะไม่มีใครมองออกว่า การตีความมีความเป็นไปได้ 3 ทางอย่างที่มีการวิเคราะห์กัน แต่ที่ฝ่ายค้านทั้งหลายดึงดันว่าต้องออกสถานเดียว ก็เพื่อจะสร้างความเชื่อให้เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่ไม่ต้องการหรือไม่มีเวลาอ่านกฎหมาย หรือสาวกที่พร้อมจะเชื่อทุกอย่างที่บอกโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและข้อกฎหมาย ทำให้ความเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นในวงกว้าง เพื่อสร้างบรรยากาศเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ

เป็นที่น่าสังเกตว่า ม็อบทั้งหลายที่พยายามก่อขึ้นในช่วงนี้กลับจุดไม่ติด ไม่ว่าจะกลุ่มใด จัดที่ไหน ล้วนมีคนมาร่วมโหรงเหรงหร็อมแหรมทั้งสิ้น ทั้งยังจัดพิธีกรรมสาปแช่งที่ไร้สาระ พวกทะลุแก๊สก็ยังไม่วายป่วนเมือง ณ จุดเดิมคือสามเหลี่ยมดินแดง แต่ก็มีคนเพียงหยิบมือเดียว ไม่มีพลังใดๆทั้งสิ้น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คงไม่ใช่เป็นเพราะประชาชนที่ไม่ชอบพลเอก ประยุทธ์เกิดเปลี่ยนใจ หรือเห็นใจท่านขึ้นมาอย่างกระทันหัน แต่คงเป็นเพราะประชาชนที่มีความคิดเขาเบื่อหน่ายความไร้สาระของม็อบ และเขาไม่รู้ว่าจะไปร่วมชุมนุมเพื่ออะไร สู้รอดูผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า

การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียงข้างมากให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน ไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรีได้พ้นจากตำแหน่งแล้ว และที่มติออกมา 5-4 แสดงว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นแตกต่างกัน ดังนั้นถึงเวลาลงมติ คะแนนเสียงก็คงจะไม่เป็นเอกฉันท์ค่อนข้างแน่

ขณะนี้ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่า ผลการวินิจฉัยจะออกมาในแนวทางใดใน 3 แนวทาง แต่คาดได้เพียงว่าผลการวินิจฉัยจะไม่ออกมาอย่างที่ "ฝ่ายแค้น" ออกมาประโคมโหมกันทุกวัน เพราะนั่นไม่ใช่เป็นการประโคมโดยปราศจากอคติ แต่เป็นการตั้งใจไม่ใช้เหตุผลและข้อกฎหมาย แต่เอาผลลัพท์ที่ตัวเองต้องการเป็นตัวตั้ง แล้วทำให้ผู้อื่นเชื่อตาม ดังนั้นจึงจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ลุงป้อม' ส่ง 4 สส. ตัวแทนพปชร. ร่วมดินเนอร์พรรคฝ่ายค้าน 18 ธ.ค.นี้

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะรองโฆษกพรรค พปชร. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารประจำสัปดาห์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

'เด็จพี่' สดุดี 'นายกฯอิ๊งค์' ซัดพวกด้อยค่าแถลงผลงานรัฐบาล

'พร้อมพงศ์' ออกโรงปกป้อง 'นายกฯอิ๊งค์' ชมเปาะภาวะผู้นำสูงเกินวัย ซัดพวกด้อยค่าจับผิดผลงานรัฐบาล ประเทศจะเดินหน้าอย่ามาขวางคลอง

'เท้ง' นัดดินเนอร์ฝ่ายค้าน จับตา 'บิ๊กป้อม' หอบความช้ำเข้าร่วมวง

'ณัฐพงษ์' นัด 'พรรคร่วมฝ่ายค้าน' ดินเนอร์พุธนี้ คาดหารือทิศทางในสภา-ขอเปิดซักฟอกต้นปีหน้า จับตา 'ลุงป้อม' ร่วมวงด้วยหรือไม่ หลังขับ 'ก๊วนธรรมนัส' 'พ้น พปชร.' ขณะ 'ไทยสร้างไทย' ยังไม่นิ่ง

'กมธ.ต่างประเทศ' ซัดรัฐบาลไร้น้ำยา ผ่าน 3 สัปดาห์ ไร้ข้อสรุป ปล่อยเมียนมาจับ 4 คนไทย

'กมธ.ต่างประเทศ' ผิดหวังทางการไทย ผ่าน 3 สัปดาห์ เมียนมาจับลูกเรือ 4 คน ยังไม่รู้น่านน้ำใคร จี้ 'นายกฯอิ๊งค์' สั่งการเชิงรุก ข้องใจมัวห่วงเสียผลประโยชน์คนบางกลุ่มหรือไม่

'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย

'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.

'แพทองธาร' บอกชัด 12 ธ.ค. เวลาไม่เหมาะสมตอบกระทู้สภาฯ ติดแถลงผลงานรัฐบาล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้ไปตอบกระทู้ในสภาฯ มีแผนจะไปตอบบ้างหรือไม่ ว่าตนมีแพลนที่จะไปตอบอยู่แล้ว จริงๆอยากไป