เปิดจุดแข็ง 'บิ๊กป้อม' รักษาการแทนนายกฯ พูดน้อย ขยะในโลกออนไลน์จะได้น้อยลง!

24 ส.ค.2565 - วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ลุงป้อมพูดแต่ว่า "ไม่รู้ ไม่รู้ จะรู้ได้ยังไง" นั้น ความจริงก็คือลุงป้อมรู้ดีทุกเรื่อง พอๆกับอีก 2 ลุงนั่นแหละ บางเรื่องแกรู้มากกว่าด้วยซ้ำ (อย่างโทนี่ไปดูกีฬาโอลิมปิกและยิ่งลักษณ์มุดรั้วหนีงี้!) เพราะแกเป็นผู้จัดการรัฐบาล มีประสบการณ์ด้านการเมืองมาก่อนและมากกว่า 2 ลุง

ที่แกพูดแต่ว่า "ไม่รู้ ไม่รู้ จะรู้ได้ไง" นั้นก็เหมือนกับพล.อ.เปรมยิ้มละไม ตอนนักข่าวถาม บางทีก็บอกว่า "กลับบ้านเถอะลูก!" จนนักข่าวค่อนแคะว่า "กลัวดอกพิกุลจะร่วง!"

การพูดน้อยอย่างพล.อ.เปรมและลุงป้อมนั้นมีประโยชน์มาก! อย่างน้อยก็สำหรับตัวแกเอง เพราะยิ่งพูดมากก็ยิ่งมากเรื่อง ขยายความกันไปไม่สิ้นสุด ยิ่งสื่อคุณภาพต่ำ ไร้จรรยาบรรณ และเลือกฝ่าย บ้างก็เป็นสื่อจอมพิฆาตอย่างในปัจจุบันนี้ด้วยแล้ว ไม่พูดย่อมดีกว่าแน่

"ไม่รู้ ไม่รู้ จะรู้ได้ยังไง" เมื่อมองอีกมุมหนึ่งก็คือการสั่งสอนสื่อคุณภาพต่ำ ไร้จรรยาบรรณและเลือกฝ่าย บ้างก็เป็นสื่อจอมพิฆาต ว่าพวกเขาจะไม่ได้ข้อมูลหรือความเห็นอะไรเป็นเรื่องเป็นราวจากแก

ก็หวังว่าลุงป้อมจะคงเอกลักษณ์ของเอกบุรุษไว้ต่อไปครับ ขยะในโลกออนไลน์จะได้น้อยลง! 5555

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 20)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

ตั้งกลุ่มสว.สีเขียว-ปิดดีล'อยู่บำรุง' 'บ้านป่าฯ'ยังมีของไม่วางมือ

การขยับทางการเมืองของ บ้านป่ารอยต่อฯ ภายใต้การนำของพี่ใหญ่ตระกูล วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงนี้น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกระแสข่าวดึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

'นิพิฏฐ์' จะเสียภาษีให้น้อยที่สุด หวั่นถูกนำไปสร้างความเข้มแข็งให้นักการเมือง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีคำกล่าวว่า “หากต้องการรู้ว่าประชาชนเป็นอย่างไรให้เป็นนักการเมือง หากต้อง

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน