'กสม.' ออกแถลงการณ์จี้สภาผู้แทนราษฎรเร่งคลอดร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ออกมาบังคับใช้ แม้สาระสำคัญบางเรื่องถูกตัดไป
24 ส.ค.2565 - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรเร่งพิจารณาร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้ออกมาใช้บังคับได้โดยเร็ว
โดยแถลงการณ์ระบุว่า กสม.ให้ความสำคัญต่อร่างกฎหมายว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการกระทำทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สมควรได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 28 ได้บัญญัติรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย ห้ามมิให้กระทำทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม
อีกทั้งเป็นการสมควรที่ประเทศไทยจะต้องมีกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment - CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม มาตั้งแต่ปี 2550 รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้
กสม. ได้เสนอความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีและวุฒิสภา เพื่อสนับสนุนและผลักดันการตรากฎหมายออกมาใช้บังคับโดยเร็ว โดยได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะเห็นด้วยกับการแก้ไขของวุฒิสภาหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันระหว่าง สส. และ สว. และหากไม่สามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในอายุของสภาชุดนี้ ร่างกฎหมายจะต้องตกไปและจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ ซึ่งจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้า และไม่สามารถคาดหมายได้ว่าจะดำเนินการตรากฎหมายออกมาใช้บังคับได้เมื่อใด
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดให้มีกระบวนการ ขั้นตอน และกลไกที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการเพื่อป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ห้ามนำพฤติการณ์พิเศษใด ๆ มาอ้างเพื่อให้การกระทำความผิดเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้มีการบันทึกภาพและเสียงขณะจับและควบคุมหรือปล่อยตัวบุคคล ให้มีการบันทึกข้อมูลสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกควบคุมก่อนถูกควบคุมและก่อนปล่อยตัว ให้พนักงานฝ่ายปกครอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน และให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีเขตอำนาจในการพิจารณาคดี เป็นต้น
แม้สาระสำคัญบางประการถูกตัดออกไป เช่น ผู้เสียหายหรือผู้แทนผู้เสียหายในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการห้ามนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิด แต่ กสม. เห็นด้วยและสนับสนุนให้มีกฎหมายดังกล่าวออกมาใช้บังคับโดยเร็ว และขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยคำนึงถึงความเร่งด่วนในการตรากฎหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้มีประชาชนรายใดต้องได้รับผลกระทบจากการกระทำทรมาน และการบังคับให้สูญหาย ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรงได้อีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สนธิญา' ยื่น 'กสม.' สอบ 'ทักษิณ' ละเมิดสิทธิ์ หานักร้องเป็นหมา
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางยื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานภาพข่าวการหาเสียงนายก องค์การ
ประธาน กมธ.ที่ดินเล็งขอถกที่ดินเขากระโดงเป็นวาระด่วนบอกไม่มีการเมือง!
'กมธ.ที่ดิน' เตรียมขอมติที่ประชุม นำข้อพิพาทที่ดิน 'เขากระโดง' พิจารณาเป็นวาระด่วน คาดเร็วสุดสัปดาห์หน้า เผย ไม่นำประเด็นการเมืองเข้ามาพิจาณาร่วม ยันตรวจสอบตรงไปตรงมา
'วันนอร์' ยกเครื่อง ออกระเบียบตั้งที่ปรึกษา กมธ. สภาฯ หลังปมฉาวใช้ตำแหน่งตบทรัพย์
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยการแต่งตั้งที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิประจำคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2567 มีเนื้อหาระบุว่า
กสม. ชื่นชมรัฐบาล เร่งรัดกระบวนการกำหนดสถานะบุคคลแก่ผู้ที่ยังมีปัญหาไร้รัฐไร้สัญชาติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงว่า ตามที่รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ (High-Level Segment on Statelessness) เ
สภาฯถกด่วน 'คดีตากใบ' ก่อนหมดอายุความเที่ยงคืนนี้
สภาฯถกด่วน 'คดีตากใบ' หมดอายุความเที่ยงคืนนี้ 'รอมฏอน' ตั้งคำถามจำเลยลอยนวลต้องรับผิดชอบหรือไม่ 'กมลศักดิ์' ขอบคุณนายกฯ แสดงความเสียใจ ขอรัฐบาลแก้กม.ไม่ให้ขาดอายุความ
กสม.ขยับ! ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 3 ข้อในคดีตากใบ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์