'พี่ป้อม-พี่ป็อก' สัมพันธ์ยังเหนียวแน่นกับ 'น้องตู่' ?

22 ส.ค.2565 - สถานการณ์การเมืองเรื่องวาระ 8 ปีชี้ชะตานายกฯลุงตู่ ทำให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง 3 ป.ว่ายังเหนียวแน่น หวานชื่นเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า และเป็นไปตามที่ทั้งสามคนเคยยืนยันหลายครั้งว่า มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันอีกหรือไม่

สำหรับท่าที “บิ๊กป็อก” พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผ่านการให้สัมภาษณ์ช่วงปลายสัปดาห์ ได้เตือนให้สังคมรับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า

พลเอก อนุพงษ์ บอกว่า สัจธรรมที่ควรจะเป็นเมื่อเราอยู่ด้วยระบบของกฎหมาย ไม่ว่าจะออกเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ หากพูดตามหลักนิติธรรม ถ้าผลออกมาว่า 8 ปีต้องหยุด พลเอกประยุทธ์ก็ต้องรับ แต่ถ้า 8 ปีไม่ใช่เวลาที่เขานับ สังคมก็ต้องรับ ประเทศจึงจะเดินหน้าไปได้ แต่หากจะเอาหลักความพึงพอใจของตัวเอง ก็มองว่ามันไปไม่ได้

โดยวันนี้ไม่ได้เข้าทำเนียบฯ ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ กับ พลเอก ประยุทธ์ แต่ประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์เข้ามา

ขณะที่ “บิ๊กป้อม “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ทั้งการประชุม และพบแขกคณะต่างๆ จะมาทำเนียบรัฐบาลในวันประชุมคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

บางกระแสบอกว่าเบื่อนักข่าวที่ต้องตอบเรื่องการเมือง ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดช่วงนี่ พี่ใหญ่-น้องเล็ก ไม่ค่อยร่วมวง

วันนี้ “บิ๊กป้อม” ขึ้นเหนือ ไปตรวจราชการ และตรวจเยี่ยม พบปะพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชัน "มู่หลาน" และติดตามโครงการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ รวมทั้งติดตามโครงการช่วยเหลือประชาชน

ช่วงเช้าเดินทางไปที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.น่าน รับฟังข้อมูลความเสียหายของจังหวัด และได้รับฟังความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ระหว่าง บ้านผาเวียง อ.ฝากท่า จ.อุตรดิตถ์-บ้านปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน จาก ผอ.แขวงทางหลวงน่าน ที่ 1

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายว่า รัฐบาลมีความห่วงใย ต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทุกครัวเรือน จากภาวะน้ำท่วมดังกล่าว จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สทนช. ,กรมชลประทาน ,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และจ.น่าน ให้เร่งปฏิบัติตามแผนรับมือฤดูฝน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแหล่งน้ำกักเก็บขนาดใหญ่ช่วยเหลือพื้นที่แล้งซ้ำซาก 4อำเภอได้แก่อ.ท่าช้าง อ.เชียงกลาง อ.ท่าวังยา และ อ.ปัว

พล.อ.ประวิตร และคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยัง อบต.ไชยสถาน อ.เมือง เพื่อติดตามความก้าวหน้า โครงการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว พร้อมพบปะประชาชน ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง ต.บ่อ อ.น่าน เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน1,000 ครัวเรือน เพิ่มเติมจากที่รัฐได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน และจริงใจที่จะให้ความช่วยเหลือ อย่างดีที่สุด

เมื่อดูจากภารกิจต่างๆ 3 ป.ดูเหมือนจะแยกวงกันไปทำภารกิจต่างๆ จนถูกมองว่าไม่ได้ชื่นมื่น กลมเกลียวกันเหมือนก่อน แต่อีกทางหนึ่งก็มีการวิเคราะห์ว่า อาจเป็นกลยุทธ์ในการให้สื่อจับอาการไม่ออกว่าแผนที่ทางการเมืองนับจากนี้จะไปอย่างไรต่อไป ทั้งผลการโหวต พระราชบัญญัติงบประมาณ กับ ข่าวลือยุบสภาที่ดังกระหึ่ม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทพไท' เรียกร้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม รวมคดี 112 ด้วย

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พรบ.นิรโทษกรรม:ปรองดองจริงหรือ?" ระบุว่ากรณีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.

ดร.เสรี ถามลั่น มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เกิดขึ้นกี่โมง?

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาอดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทำงานไม่เป็น ไม่เห็นผลงานเชิงประจักษ์ใดๆ ที่หาเสียง

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 45: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 อันเป็นพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร

'ดร.ณัฏฐ์' นักกฎหมายมหาชน ฟันธงตัวแปรรัฐบาลชิงยุบสภา ยังไม่เกิด

ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกระแสข่าวฐบาลมีโอกาสชิงยุบสภา จะเกิดขึ้นก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย