
8 ส.ค. 2565 – พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การปฏิวัติ 2475 กับ 3 ป.
การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี 2475 นั้น แกนนำคณะราษฏร ฝ่ายทหาร ได้เป็นกำลังหลักที่ทำให้การปฏิวัติสำเร็จลงได้ในที่สุด ในขณะที่แกนนำคณะราษฏร สายพลเรือน ไปนั่งเรือจ้างรอดูท่าทีว่าจะหนีหรืออยู่ต่อไปลอยลำอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้การปฏิวัติสำเร็จลงได้นั้น นอกจากการใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัด เรื่องต่อทหารด้วยกันเอง โดยเฉพาะกับนักเรียนนายร้อยตามที่เคยเล่าไปแล้วนั้น ก็บังเอิญไปสอดคล้องกับพระราชประสงค์ของ ร.7 ที่ต้องการพระราชทานรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนพอดี
(อนึ่งในห้วงเวลาก่อนที่จะมีการปฏิวัตินั้น การเตรียมพระราชทานรัฐธรรมนูญของ ร.7 ได้ถูก “คณะอภิรัฐมนตรี“ ซึ่งเป็นบุคคลที่มาจากพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ 5 พระองค์ ระงับไว้ถึง 2 ครั้ง )
ดังนั้นเมื่อคณะราษฎรทำการปฏิวัติ พระองค์จึงทรงเห็นด้วยไม่ได้ขัดขวาง ทั้งๆ ที่ทรงมีกำลังทั้งทหาร – พลเรือนที่จะสนับสนุนพระองค์มากกว่าเยอะ
ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ ขอนำเกร็ดประวัติศาสตร์ช่วงนี้ ฝากไว้เป็นข้อคิดถึง ”พวกทหารที่อยู่กันในปัจจุบัน” ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังการปฏิวัติ 2475 หลังจากที่สำเร็จลงแล้ว ได้เป็นผลทำให้แกนนำกลุ่มทหารเหล่านี้ หันมาฆ่าฟันกันเองในภายหลัง จนต้องกระจัดกระจายกันหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ บางคนเสียชีวิตในต่างประเทศ คนที่อยู่ในประเทศ ก็ถึงจุดจบของชีวิตลงอย่างทุกข์ทรมานทั้งๆ ที่ “เคยรักกันปานจะกลืนกิน” มาก่อน
ก่อน การปฏิวัติ 2475 มีนายทหาร 3 คน (พระยาพหลฯ พระยาทรงฯ และ พระยาศรีสิทธิสงคราม) ซึ่งทั้ง 3 คน สนิทสนมผูกพันกันมาก จนคนทั่วไปเรียกกันว่า “ทแกล้วทหาร 3 เกลอ” เลียนแบบนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส จากเรื่องสามทหารเสือ ( Les Trois Mousquetaires; หรือ The Three Musketeers)
หลังการปฏิวัติ2475 ก็เกิดคำเรียกขานทหารกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอีก ว่า เป็น “สี่ทหารเสือ“ (พระยาพหลฯ พระยาทรงฯ พระยาฤทธิ์ฯ และ พระประศาสน์ฯ) ส่วนพระยาศรีสิทธิสงคราม นั้นรู้เรื่องการทำปฏิวัติดี แต่ขอไม่เข้าร่วม โดยสัญญาว่าจะไม่บอกใคร และไม่ขัดขวาง เพราะเป็นทหารรักษาพระองค์ นอกจากนั้น ทหารที่เข้าร่วมทั้งหมดล้วนแต่ได้รับคำมั่นสัญญาว่า “การปฏิวัติจะไม่ส่งผลกระทบต่อพระฐานะ และพระเกียรติยศ ของ ร.7”
คำว่า “ทแกล้วทหาร 3 เกลอ” และ “สี่ทหารเสือ” ตามที่เขียนมานั้น ขอฝากไปให้เป็นข้อคิด ถึงทหารที่ประชาชน เรียกกันว่า “3 ป.“ นำไปขบคิดด้วยครับ ถ้าอ่านครั้งแรกไม่เข้าใจ ลองทบทวนแล้วอ่านกันอีกทีหนึ่ง อาจจะเกิดความเข้าใจอะไรดีๆ ขึ้นมาบ้างก็ได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องที่ต้อง “รักกันให้เหมือนเดิม“.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ตรีนุช' ไม่ถอดใจ แม้ พปชร. เจอคลื่นพายุ ลั่นเป้าหมายอยากทำงานเพื่อประเทศชาติ
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง แคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่ายังทำงานยึดมั่นให้ประชาชนในนามพรรค พปชร.ต่อไป
'บิ๊กป้อม' ลั่นพอแล้ว! เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่
'บิ๊กป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่นอายุ 80 ปี พอแล้ว ท่ามกลางปัญหาสุขภาพรุมเร้า ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เตรียมวางมือการเมือง ขณะที่อดีตบิ๊กทหารตบเท้าร่วมรับพร
'วัน อยู่บำรุง' ประกาศไขก๊อกพลังประชารัฐ เว้นวรรคไม่ลงเลือกตั้ง
นายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
'สามารถ' ยัน พปชร. ไม่ระส่ำ 'บิ๊กป้อม' ยังเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง
นายสามารถ แก้วมีชัย กรรมการบริหารพรรค พปชร.และว่าที่ผู้สมัครสส.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ถูกจับตามองเกิดความสั่นคลอนและจะล่มสลาย หากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.วางมือทางการเมืองว่า
'วัน อยู่บำรุง' ส่งสัญญาณส่อทิ้งลุงป้อม ซบ 'โอกาสใหม่'
'วัน อยู่บำรุง' โพสต์ส่งสัญญาณชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จับตาย้ายซบ 'โอกาสใหม่' ด้าน 'จตุพร' รับได้คุยกัน เจ้าตัวสนใจนโยบายพรรค
'เฉลิม' ซบ 'ลุงป้อม' ลงเลือกตั้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมา พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

