นักวิชาการ ชี้ปธ.สภาฯสหรัฐ เยือนไต้หวัน เป็นเหตุการณ์สยองขวัญของโลก

3 ส.ค.2565 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า ประหนึ่งว่าโลกจะยังเดือดร้อนไม่พอจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จู่ๆนาง Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาจากพรรค Democrat ก็ประกาศว่าจะเดินทางไปเยือนไต้หวัน ในทันที จีนถึงกับประกาศเป็นคำขู่ว่าสหรัฐอเมริกากำลังเล่นกับไฟ หากนาง Pelosi เดินทางเยือนไต้หวัน ก็จะส่งผลที่เลวร้ายอย่างยิ่งตามมา

อย่าลืมว่า ตำแหน่งของนาง Pelosi เป็นตำแหน่งที่จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ถือว่าเป็นผู้มีตำแหน่งสูงเป็นลำดับ 3 ของประเทศเลยทีเดียว ซึ่งตั้งแต่ปี ค,ศ,1979 เป็นตันมา ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับสูงของสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไตัหวันเลยแม้แต่คนเดียว

แม้ว่าจะมีข่าวว่านาง Pelosi เปลี่ยนใจไม่เยือนไต้หวันแล้ว โดยจะไปแค่สิงคโปร์และมาเลเซีย แต่นาง Pelosi ก็เดินทางไปถึงไต้หวันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ในขณะที่จีนขู่ขวัญด้วยการทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวัน และยังทำหนังสือประท้วงไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไต้หวันเองก็ถึงกับต้องเตรียมสถานที่หลบภัยใต้ดินให้กับประชาชนหากเกิดสงครามขึ้น

เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์สยองขวัญของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะมีโอกาสไม่น้อยเลยที่จะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

ในบ้านเรา การวิพากษ์วิจารณ์ดูเหมือนจะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เช่นเดียวกับกรณีรัสเซียกับยูเครน แต่เชื่อหรือไม่ที่คนรุ่นใหม่ที่หัวก้าวหน้าในสมัยก่อนมักจะเอนเอียงไปทางจีน ในขณะที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะอยู่ฝ่ายสหรัฐอเมริกา เนื่องจากจีนซึ่งมีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ถูกสร้างภาพให้เป็นผู้ร้ายเช่นเดียวกับรัสเซีย ในสมัยนั้นคนรุ่นใหม่ที่หัวก้าวหน้ามักใช้คำว่า "ปลุกผีคอมมิวนิสต์" เพื่อบอกว่าคอมมิวนิสต์ไม่ได้เลวร้าย แต่ถูกฝ่ายที่ไม่เอาระบอบการปกครองแบบนี้ปลุกผีคอมมิวนิสต์ขึ้นมาให้คนหวาดกลัว แต่ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ที่เรียกต้วเองว่าเป็นพวกหัวก้าวหน้ากลับเกลียดจีนและเชียร์สหรัฐอเมริกา

ความจริงคำถามสำคัญที่ต้องตอบให้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจเชียร์ฝ่ายใดก็คือ จีนมีเหตุผลใด จึงยอมไม่ได้ที่จะให้นาง Pelosi เดินทางไปเยือนไตัหวัน

เพื่อตอบคำถามดังกล่าว เราต้องย้อนอดีตไปช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะนั้นย่อมไม่มีข้อสงสัยว่าเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ต่อมาเมื่อจีนถูกญี่ปุ่นรุกราน ไต้หวันจึงตกไปเป็นของญี่ปุ่น เรียกว่าเกาะ Formosa ภายหลังเมื่อญี่ปุ่นยอมลงนามในสัญญาสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหลัก ไต้หวันต้องกลับไปเป็นของจีน แต่เนื่องจากขณะนั้นจีนกำลังมีความวุ่นวายจากสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพก๊กมินตั๋งของรัฐบาลเจียงไคเช็กกับกองทัพปลดแอกของเหมาเจ๋อตุง ไตัหวันจึงยังไม่กลับไปเป็นของจีน เมื่อกองทัพก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ เจียงไคเช็กจึงนำทหารและประชาชนจำนวนหนึ่งหนีลงทะเลไปปักหลักที่เกาะไต้หวัน โดยยังอ้างว่ารัฐบาลของตนเองเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องของประเทศจีน เรียกตัวเองว่า Republic of China ในขณะที่ประชากรของไต้หวันมีเพียงหยิบมือเดียว หากเทียบกับประชากรของจีนแผ่นดินใหญ่

แน่นอนว่า รัฐบาลของประธานเหมาย่อมไม่ยอม เตรียมที่จะบุกยึดไตัหวันคืน แต่สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดี Harry S. Truman ซึ่งยอมรับระบอบคอมมิวนิสต์ไม่ได้ จึงส่งกองเรือรบของสหรัฐอเมริกาไปยันไว้ ไม่ให้จีนบุกไต้หวัน และประกาศรับรองรัฐบาลเจียงไคเช็กให้เป็นรัฐบาลที่ถูกต้องของจีน สหรัฐกับจึนแผ่นดินใหญ่จึงไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาในสมัยประธานาธิบดี Richard Nixon ได้ตัดสินใจเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาล เหมาเจ๋อตุง โดยเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการ และประกาศยอมรับให้จีนมีเพียงจีนเดียว และให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ต่อมาองค์การสหประชาชาติจึงให้การรับรองให้มีเพียงจีนเดียว และไตัหวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนเช่นกัน

ตลอดมา ดูเหมือนจีนจะมีความพอใจกับสถานภาพของไต้หวันที่ในหลักการ เป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ในทางปฏิบัติ ไต้หวันก็มีรัฐบาลของตัวเอง เพียงแต่ไม่สามารถแยกเป็นอีกประเทศได้ การติดต่อค้าขายระหว่างจีนกับไต้หวันก็เป็นไปโดยปกติ จีนก็ไม่ได้มีท่าทีจะบุกยึดไต้หวัน ไม่ให้ไต้หวันมีรัฐบาลของตัวเองแต่อย่างใด เพียงแต่ยังยึดมั่นในหลักการที่มีจีนเดียวเท่านั้น

ดังที่ได้กล่าวแล้วในขณะที่โลกกำลังมีปัญหาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประเทศสหรัฐอเมริกาก็กำลังมีปัญหาภายในของตัวเองอย่างสาหัส จู่ๆนาง Pelosi ก็ประกาศว่าจะไปเยือนไต้หวัน มิใยที่จีนทั้งขู่ทั้งประท้วงก็ไม่เป็นผล ถามว่านาง Pelosi คือตัวแทนรัฐบาลหรือไม่ ก็คงไม่ใช่เพราะตำแหน่งของเธอคือประธานสภาฯ แต่ก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากของสหรัฐอเมริกา และคงเป็นไปไม่ได้ที่นาย Biden ไม่ได้รับรู้กับการเยือนไต้หวันครั้งนี้ และคงเป็นไปไม่ได้ที่นาง Pelosi จะไม่คาดคิดว่าจะทำให้จีนไม่พอใจ ตรงกันข้าม อาจเป็นแผนของรัฐบาลนาย Biden เสียด้วยซ้ำที่ต้องการกระตุกหนวดเสือ แต่คงน่าเกลียดเกินไปที่นาย Joe Biden ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะไปเอง จึงให้นาง Pelosi ซึ่งก็มาจากพรรคเดียวกันและไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลเป็นผู้ไปเยือน

หากไม่มีเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น ก็คงไม่เกิดความตึงเครียดเช่นนี้ไปทั้งโลก คำถามที่ควรถามต่อคือ นาง Pelosi ทำเข่นนี้เพื่ออะไร คงไม่ใช่เพราะนึกอยากจะไปเยี่ยมเยียนประธานาธิบดีไต้หวันสักครั้งแน่ๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รมว.นฤมล”หารือ เอกอัครราชทูตจีน กระชับความสัมพันธ์ด้านเกษตร ขยายตลาดส่งออก “ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง” เพิ่มโอกาสการค้าภาคปศุสัตว์ไทย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือร่วมกับ นายหาน จื้อเฉียง

'มาริษ' ขอบคุณนานาชาติเลือกไทยนั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

'รมว.กต.' ขอบคุณ หลังไทยได้รับเลือกนั่ง HRC วาระ 2568-2570 ยืนยันจะเป็นสะพานเชื่อมความแตกต่างของชาติสมาชิก แสดงความมุ่งมั่นส่งเสริมสถานะประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนไทยให้เป็นที่ยอมรับ

'ดร.ธรณ์' ชี้มหาพายุเฮอริเคน 'มินตัน' สภาพอากาศสุดขั้ว คนอเมริกานับล้านต้องอพยพหนี

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ททท. ดึง 'กองทัพ พีค - ต้าห์อู๋ - วันเดอร์เฟรม - PROXIE' ฉลองสัมพันธ์การทูต ไทย-จีน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม “Sound of Friendship Concert” ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน ร่วมเปิดงาน โดย จิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และ ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้

'พระราชินี' ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทยเสมอทีมจีน นัดแข่งกระชับมิตร

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน