'ดร.พิชาย' ฟาดสมาชิกรัฐสภาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งกลับไปกลับมา น่าอับอายและอัปยศ เตือนสติหากกลับไปใช้หาร 500 -บัตรใบเดียวบรรลุผล รัฐสภาไทยคงกลายเป็น'สภาโจ๊ก' ซัดนักรัฐประหารสนใจแต่การสืบทอดอำนาจ กัดกร่อนสถาบันประชาธิปไตยให้เสื่อมลง
29 ก.ค.2565 - รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อดีตคณะบดีพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสตข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ความอลหม่านจนทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐสภาตกต่ำลงในยามนี้มาจากการเปลี่ยนกลับไปกลับมาของระบบเลือกตั้ง ทำไม สมาชิกรัฐสภาเสียงส่วนใหญ่จึงกล้าทำตรงข้ามกับหลักการที่ตนเองรับรองไปก่อนหน้านั้น อันเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือของความเป็นตัวแทนปวงชนยิ่งนัก
การกระทำเยี่ยงนั้น นอกจากนำความอับอายและอัปยศมาสู่ผู้กระทำแล้วยังบั่นทอนความน่าเชื่อถือของรัฐสภา และประชาธิปไตยโดยรวมด้วยคาดว่าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ก็ตระหนักอยู่บ้างว่า การทำเช่นนั้น หาใช่การที่ควรทำ แต่อาจจำใจต้องทำใครหรืออำนาจใด ที่กดดันให้ สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ยอมจำนน ละทิ้งศักดิ์ศรี ละทิ้งหลักการ ในลักษณะที่ทำลายตนเองเช่นนี้
คนผู้นั้นคงมีอำนาจยิ่งใหญ่ ผู้คิดว่าระบบเลือกตั้งที่เรียกว่าหาร 500 จะก่อประโยชน์แก่ตนเองอย่างประมาณไม่ได้
นั่งดีดลูกคิดในรางแก้ว ฝันเพลิดแพร้วถึงการสืบต่ออำนาจไปอย่างไม่สิ้นสุดสั่งการตามอำเภอใจ ไม่ใยดีว่า ความกระหายอำนาจของตนเอง จะส่งผลกระทบต่อหลักการอันชอบธรรมของสังคมอย่างไร
แต่ดูเหมือนว่า การหาร 500 ภายใต้การมีบัตร 2 ใบ อาจจะยังไม่อาจสร้างความมั่นใจแก่การสืบทอดอำนาจในอนาคตได้ฝ่ายผู้กุมอำนาจรัฐบางคน จึงพยายามเสนอให้กลับไปใช้ ระบบหาร 500 ภายใต้การใช้บัตร 1 ใบ ดังการเลือกตั้งปี 2562
หากความพยายามนี้บรรลุผลรัฐสภาไทยก็คงกลายเป็นสภาโจ๊ก อย่างเต็มรูปแบบจึงขอส่งข้อความเตือนสติแก่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรทุกคนว่าท่านเป็นตัวแทนของปวงชน ไม่ใช่เป็นลูกน้องของผู้มีอำนาจคนใด การรักษาหลักการชอบธรรมและการสร้างความน่าเชื่อถือของสภาผู้แทนราษฎรเป็นพันธกิจร่วมที่สำคัญยิ่งของ ส.ส.ทุกคน
เพราะหากสภาผู้แทนราษฎรกระทำบนพื้นฐานของหลักการอันชอบธรรมแล้ว ย่อมนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือต่อรัฐสภา ทั้งยังส่งผลดีและสร้างความเข้มแข็งแก่ระบอบประชาธิปไตยด้วยบรรดา ส.ส. ทั้งหลาย พึงตระหนักเถิดว่า นักรัฐประหารนั้นสนใจแต่การสืบทอดอำนาจและสั่งการให้กระทำเพื่อสนองความต้องการรักษาอำนาจของตนเองเป็นหลัก
เขาย่อมไม่สนใจใยดีใด ๆ ต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใดการรับคำสั่งและสนองความต้องการอันไม่ชอบธรรมของนักรัฐประหารจึงเท่ากับเป็นการทำลายความเป็นตัวแทนของปวงชน และกัดกร่อนสถาบันประชาธิปไตยให้เสื่อมลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อ 'ระบอบทักษิณ' ได้ยกระดับเป็น 'ระบอบชินวัตร' ประเทศไทยจะมีอนาคตอย่างไร
รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
'อนาคตไกล' ค้านเลิกสส.ปาร์ตี้ลิสต์ หวั่นขาดสมดุลการเมืองไทย
นายณัษฐพล ทิพย์อักษร ทนายความคนดัง มือกฎหมายพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ที่มีการปูดข่าวจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัว
กกต.กทม.มั่นใจ 50 เขตไม่สับสนบัตรใหม่เลือก สว.
ผอ.กกต.กทม.มั่นใจเจ้าหน้าที่เข้าใจชัดเจนกระบวนการเลือก สว. หลังแก้ไขบัตรเลือกรอบแบ่งสายรอบไขว้รูปแบบใหม่ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วจับตาเลือกทั่วกรุง หากพบปัญหารายงานทันที
'ดร.พิชาย' ฟันฉับ ถ้าตีความแบบทื่อๆตามตัวอักษร 'พิธา' ก็ไม่รอด แต่ถ้าใช้ 'ปัญญาเชิงปฏิบัติ' ก็รอด
'ดร.พิชาย' ฟันฉับ ถ้าตีความแบบทื่อๆตามตัวอักษร 'พิธา' ก็ไม่รอด แต่ถ้าใช้' ปัญญาเชิงปฏิบัติ' ก็รอด
ดร.อาทิตย์ ชำแหละระบบเลือกตั้ง แนะปรับปรุง 3 ข้อ
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานรัฐสภา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยควรต้อง
ไร้วุฒิภาวะ! 'น้องแรมโบ้' อบรมชุดใหญ่ 'เต้น' บูลลี่คนป่วยสนุกปากบนเวที ไม่ต่างตลกสภาโจ๊ก
น้องแรมโบ้ "ชนะศักดิ์" ฟาด "ณัฐวุฒิ" ควรเล่นการเมืองสร้างสรรค์ ไม่เอาอาการป่วยคนอื่นไปล้อเล่นบนเวทีปราศรัย จะรอดูแพทองธาร จะหาเสียงได้จนถึงเลือกตั้งหรือไม่ ขอประชาชนพิจารณาควรเลือกเข้าไปเป็น ส.ส. หรือไม่