17 ก.ค. 2565 – นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ร่อนจดหมายเปิดผนึกกราบเรียนนายกรัฐมนตรี รมต และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเสนอแนวทางสายกลางเพื่อแก้ไขปัญหาสูญญากาศกัญชาเสรีที่พบว่า มีการจำหน่ายอย่างมากทั่วประเทศ ไม่มีมาตรการกฎหมายและทางการบริหารที่มีประสิทธิภาพ จนทำให้เกิดปัญหาต่อสังคม และเยาวชนตามมามากในขณะนี้
จึงเรียนเสนอแนวทางแก้ไขเชิงบริหารในการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อแก้ไขเชิงบริหารและข้อกฎหมายในวาระเร่งด่วน ก่อนที่พระราชบัญญัตติกัญชากัญชง พศ จะพิจารณาเสร็จสิ้นในชั้น สส และสว ดังนี้ครับ
15 ข้อเสนอแก้ปัญหาสูญญากาศกัญชาเสรีโดยใช้แนวทางประเทศเนธอร์แลนด์เป็นต้นแบบ ดังนี้
1.การใช้กัญชาต้องไม่ให้เกิดการรบกวนต่อสาธารณะ
2.ห้ามจำหน่ายในเด็กต่ำกว่า 18 หรือ 20 ปี
3.ห้ามการโฆษณาใด ๆ ทุกประเภท ทั้งในสื่อออนไลน์วิทยุโทรทัศน์ และตามป้ายโฆษณาต่าง ๆ ทั่วไป และห้ามการจำหน่ายทางออนไลน์
4.ห้ามจำหน่ายกัญชาในประมาณเกิน 15 กรัมต่อ 1 ครั้ง กรณีถ้าจำหน่ายเกิน 5 กรัม จะไม่ดำเนินคดีอาญา แต่มีการยึดของกลาง และถ้ามีการกระทำความผิดดังกล่าว ครั้งที่ 1 มีการปรับ 75 ยูโร หรือประมาณ 2,700 บาท หากมีการกระทำผิดซ้ำ ก็จะมีการบันทึกโทษและปรับเพิ่มขึ้นอีก
5.ร้านจำหน่ายกัญชาจะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐและหรือหน่วยงานท้องถิ่นและมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการละเมิดจะต้องมียึดใบอนุญาต และมีความผิดอาญา
6.การครอบครองกัญชา ถ้าผู้ใดครอบครองกัญชาเกิน 30 กรัม มีโทษคดีอาญา โดยในประเทศเนเธอร์แลนด์มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 16,750 ยูโร หรือประมาณ 6 แสนบาท
7.อนุญาตให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนได้สำหรับประชาชนไม่เกิน 5 ต้น แต่จะต้องมีระบบปิดหรือระบบที่ป้องกันมิดชิดมิให้เด็กเข้าถึง
ห้ามประชาชนใช้ในการจำหน่าย แต่ใช้เพื่อการรักษาหรือเพื่อสันทนาการอยู่ในบ้านได้ ต้องมีระบบป้องกันเด็ก ต้องมีระบบควบคุมและมีระบบตรวจสอบได้ ถ้าปลูกเกินเป็นต้นที่ 6 ที่ 7 จะต้องตัดทำลาย และการตัดทำลายจะต้องแจ้งให้กับหน่วยทางการแพทย์ หรือหน่วยราชการทราบหากกระทำความผิดมีโทษจำคุกเกินไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 6,7000 ยูโร หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท
8. อนุญาตให้ร้านจำหน่ายกัญชาเฉพาะผู้ป่วย หรือผู้ที่มีถิ่นพำนักในประเทศ หรือนักท่องเที่ยว แต่ต้องมีพาสปอร์ต มีวีซ่า มีการลงทะเบียนนักท่องเที่ยว
9.ที่ตั้งร้านค้ากัญชาทั้งหมดจะะต้องห่างจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย เกิน 350 เมตร
10. กัญชาที่มีสาร THC เกิน 15% ถือว่าเป็นยาเสพติดรุนแรงมีความผิดอาญาร้ายแรง
11.การปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ทุกประเภทต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ มีกฎระเบียบและการควบคุมที่ชัดเจน
12.การใช้กัญชาทางการแพทย์สามารถทำได้ โดยการอนุญาตจากแพทย์แผนปัจจุบันแผน แพทย์แผนไทย และทุกประเภท โดยเขียนใบสั่งยา หรือจ่ายยาไปที่ร้านขายยาแผนปัจุบันหรือแผนโบราณได้
13. การนำเข้า – ส่งออกกัญชาจะต้องได้อนุญาตทางการแพทย์ เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมต้องฃอนุญาตเท่านั้น
14.ต้องมีการควบคุมคุณภาพของกัญชาทางการแพทย์ให้ปราศจากยาฆ่าแมลงและสารเคมีตกค้างเพราะยาฆ่าแมลงและ
สารเคมีทำอันตรายต่อผู้เสพในระยะยาว
15. ขอให้องค์การของรัฐ เช่น องค์การเภสัชกรรมต่าง ๆ เข้าเป็นดูแลการปลูก การกระจายสินค้า การผลิต จำหน่าย เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกัญชาหมายเหตุ เป็นการปรับใช้ตามประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นต้นแบบ
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา
สมชาย แสวงการ
สมาชิกวุฒิสภา
อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญและผู้นำเสนอแก้ไข พรบ. ยาเสพติดให้โทษเพื่อนำกัญชามาใช้รักษาทางการแพทย์ 2562
17 กค 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีตสว. ปูดสรรหา ‘ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ’ การเมืองห้าว ไม่เปลี่ยนตัว บล็อกโหวตชื่อเดิม
อดีตสว.สมชาย สะกิดจับตาวันนี้ลุยสรรหาประธานแบงก์ชาติ ข่าววงใน การเมืองห้าวแทรกแซง ไม่เลื่อน ไม่เปลี่ยนตัว
อดีตสว.สมชาย สะกิดคณะเจรจา MOU44 ล้ำเส้นแบ่งแดนทะเล ระวังโดนจรวด
อดีตสว.บอกเป็นห่วงคณะอยากเจรจาตาม MOU2544 ที่เดินทางไปดูเกาะกูด ไม่ทราบว่าไปทางเรือหรือเฮลิคอปเตอร์
ด่วน! อดีตสว.สมชาย ปูดแว่วข่าวเลื่อนประชุม สรรหาประธานธปท.
อดีตสว.สมชาย แจ้งแว่วข่าวว่า เลื่อนประชุม สรรหาประธานธปท. แล้ว
คนไทยไม่ได้โง่! อดีตสว.สมชาย จี้รัฐบาลชงยกเลิก MOU2544 เข้าสภาเห็นชอบ
อดีตสว.เสนอ รัฐบาล นำเรื่องยกเลิก MOU2544 เข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา178 โดยเร็ว
เปิดทรัพย์สิน อดีต สว. 'พล.อ.ปรีชา-วันชัย-สมชาย'
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 130 ราย ประกอบด้วย กรณีเข้ารับตำแหน่ง 60 ราย
สมชาย ร่อนจดหมายเปิดผนึกจี้นายกฯ โอนคืนที่ดินอัลไพน์
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่1)