16 ก.ค.2565 - พลตรีหญิง หม่อมหลวงลดาวัลย์ กมลาศน์ นักเขียนชื่อดัง ในฐานะเหลนของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร ผู้รับผิดชอบเรื่องเครื่องประดับศิลาและรูปปั้นประดับในงานฉลองพระนคร 100 ปี สมัยรัชกาลที่ 5 โพสต์ภาพตุ๊กตาหินโบราณที่เพิ่งขุดค้นพบในวัดพระแก้ว พร้อมเขียนข้อความบนเฟซบุ๊กว่า รูปปั้นที่เห็นคือ รูปปั้นที่ฮือฮากันในตอนนี้ว่า ค้นพบรูปปั้นเหล่านี้ถูกฝังไว้ใต้ดินในพระบรมมหาราชวัง
เรื่องรูปปั้นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าคาใจมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพราะเมื่อข้าพเจ้ามาสนใจประวัติศาสตร์ของครอบครัว ข้าพเจ้าเคยอ่านพบเรื่องรูปปั้นนี้โดยบังเอิญ โดยมีนักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่ง เขียนไว้อย่างที่คนอ่าน อ่านแล้วจะรู้สึกถึงความคลุมเครือโดยเจตนาของผู้เขียน และตอนนั้น ข้าพเจ้ายังอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไม่มากนัก จึงได้แต่เก็บความเจ็บลึกๆไว้เพียงผู้เดียว ไม่กล้าออกความเห็นใดๆ
บทความนั้นกล่าวว่า การบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอหลายพระองค์ทรงรับผิดชอบเรื่องการบูรณะทั้งสถานที่และเครื่องประดับ
เสด็จทวดของข้าพเจ้า พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากมลาสน์เลอสรร ตอนนั้น ทรงพระยศพระเจ้าน้องยาเธอและยังไม่ทรงกรม ทรงรับผิดชอบเครื่องประดับพวกรูปปั้นและเครื่องประดับศิลา
ในบทความนั้นเล่าว่า หลังจากการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้ว ก็ได้ความงามสมพระประสงค์ และพระเจ้าน้องยาเธอทั้งหลายเหล่านั้น ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้ ทรงกรม โดยที่เสด็จทวดได้ทรงรับพระนามทรงกรมว่า "พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร"
หลังจากนั้นมาอีกหลายปี มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า รูปปั้นหินอ่อนหายไปไหนเกือบหมด มีการเขียนกันถึงขนาดว่า ไม่ทราบว่าผู้ใดยกไปไว้ไหน และมีการเข้าไปตามดูในวังของกรมหมื่นราชศักดิ์สโมสรก็ไม่พบรูปปั้นหินอ่อนนี้แม้แต่ตัวเดียว องค์เสด็จในกรมเองก็ไม่ทรงชี้แจงอย่างใด
ไว้ว่างๆข้าพเจ้าจะไปค้นบทความนี้มาให้อ่านกันค่ะ มีอยู่เรื่อง ที่ใช้หัวข้อเรื่องว่า "รูปปั้นล่องหน"
ตอนนี้ก็รู้แล้วว่า "ตุ๊กตาศิลา" อยู่ที่ไหน ถ้าอย่างไรถ้าใครคิดว่า เสด็จทวดมีความเกี่ยวข้องกับการหายไปของ"ตุ๊กตาศิลา" จุดธูปทูลขอประทานอภัยเสด็จในกรมท่านเสียก็ดีนะคะ
ทั้งนี้ พลตรีหญิง หม่อมหลวงลดาวัลย์ กมลาศน์ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ตุ๊กตาหินที่เพิ่งขุดค้นพบในวัดพระแก้ว ไม่ใช่อับเฉาแน่นอน แต่สั่งมาประดับในงานฉลองพระนคร 100 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก
วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย
'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี
กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย
ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ
ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
โบราณสถานเวียงกุมกามเสียหายหนักจากน้ำท่วม
7 ต.ค.2567 - นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยที่มีต่อโบราณสถานสำคัญของจังหวัด โดยพบว่า พื้นที่เวียงกุมกามที่เป็นเมืองโบราณสมัยพญามังรายปฐมกษัตริย์ล้านนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสา
คนรักศิลปฯแย้งผู้ว่าฯทุบปูนปั้นครูทองร่วง ยันผู้เสียหายคือสาธารณะ เตือนผิดม.157
นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม อดีตเลขาฯศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีทุบปูนปั้นครูทองร่วง เอมโอษฐ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี (ตอนที่ 2) ระบุว่า
วธ.สั่งวางมาตรการลดเสี่ยงโบราณสถานตลอดฤดูฝน
13 ก.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนที่มีจำนวนมากที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย รู้สึกห่วงใยชาวจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมากที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด