กมธ.ศึกษากาสิโน เปิดผลสำรวจประชาชน เห็นด้วย 80% หนุนตั้งในกรุงเทพฯ-อีอีซี

“กมธ.กาสิโน” เตรียมชงรายงานให้สภา 27 ก.ค. โว ผลโพลประชาชน เอาด้วยกว่าร้อยละ 80 หนุนสร้างทั้งในกทม.-อีอีซี เมืองท่องเที่ยวหลัก เมืองชายแดน

6 ก.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ในวันที่ 20 ก.ค.กรรมาธิการฯจะพิจารณาและลงมติเห็นชอบกับรายงานฉบับสมบูรณ์และนำเสนอต่อประธานสภาในวันที่ 27 ก.ค. เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และสัมนา จ.ตาก เชียงราย และสระแก้ว ได้เก็บรวบรวมข้อมูล ที่เกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง มาตรการในการป้องกันการพนันผิดกฎหมาย แนวทางการจัดเก็บรายได้และภาษี ประเด็นด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ความคุ้มค่าในการลงทุน ประเด็นด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบเชิงวัฒนธรรมจากการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร

นายจักรพล กล่าวอีกว่า กรรมาธิการฯ ได้มอบหมายให้คณะทำงานจัดทำรายงานสำรวจแบบสอบถามในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการจัดทำรายงาน โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,296 คน พบว่า เห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรร้อยละ 80.67 โดยในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงหน้าต่างบานหนึ่ง แต่ภายในนั้นก็จะมีทั้ง ห้างสรรพสินค้าครบวงจร ธนาคาร สถาบันการเงิน โรงแรมหรือรีสอร์ท สวนสนุก ตลาดนัดกลางคืน เป็นต้น

ในส่วนของพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ในผลสำรวจดังกล่าว พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 56.13 ได้แก่พื้นที่ กทม.และอีอีซี ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 กม. จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา อันดับสองร้อยละ 54.25 พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลัก และอันดับสามร้อยละ 27.67 พื้นที่ชายแดนที่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองถาวร ขณะเดียวกันผลสำรวจยังกังวลข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เช่นเดียวกัน โดยพบว่าร้อยละ 54.49 กังวลปัญหาอาชญากรรม ร้อยละ 52.40 กังวลปัญหาหนี้สิน และร้อยละ 39.71 กังวลปัญหาการถูกครอบงำจากต่างชาติ