ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เคลียร์ปมผู้ต้องขัง 'ทะลุแก๊ส' กรีดข้อมือ กินยาพาราหลายสิบเม็ด

27 มิ.ย.2565 - นายนัสธี ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังชายกลุ่มทะลุแก๊สเข้ามาที่เรือนจำทั้งหมด 11 คน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อแรกรับจะต้องมาอยู่ที่แดน2 ขังชายเพื่อกักโรคเป็นเวลา 10 วันซึ่งระหว่างนี้ได้มีนักจิตวิทยามาประเมินพบว่าทุกคนสามารถปรับตัวได้

ตนได้รับการรายงานแจ้งเหตุจากพัสดีที่เข้าเวรในวันเกิดเหตุขึ้น 25 มิ.ย. เวลาประมาณ 21.00 น.เศษ ว่าเกิดเหตุผู้ต้องขังปวดท้องมาก ขณะที่อีก 2 รายได้มีบาดแผลที่หลังมือ ทั้งนี้ ตนจึงได้รีบเดินทางมายังเรือนจำเพื่อดูแลในการนำตัวผู้ต้องขังส่งไปยังรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสากล

โดยในเวลาต่อมาจากการพูดคุยกับผู้ต้องขังชายที่ชื่อพลพล อายุ​ 20 ปีทราบว่าเจ้าตัวมีความเครียดเนื่องจากภรรยาได้ท้อง 2-3 เดือน ประกอบกับตนเองไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ และเมื่อ ถูกคุมขังก็ไม่ได้รับการประกันตัว ส่วนยาพาราเซตามอลที่เจ้าตัวบอกว่ากินเข้าไปประมาณ20-30เม็ดนั้น บอกว่าได้มาจากการขอจากเพื่อนๆ กลุ่มทะลุแก๊สที่รวมอยู่ในแดนเดียวกัน 10 คนและตัวเองทุกวันรวบรวมไว้

ส่วนผู้ต้องขังชายอีก 2 คนที่มีบาดแผลหลังแขนนั้น เป็นรอยแผล ถลอกคล้ายเวลาเราโดนหนามต้นไม้ขูดข่วน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนได้บอกว่าก่อนหน้านี้ที่จะเข้ามาเรือนจำ ก็เคยทำแบบนี้เมื่อเกิดอาการเครียด โดยทั้งสองคนระบุว่าเครียดและต้องการให้คนที่อยู่นอกเรือนจำได้เห็นใจที่ตนต้องถูกคุมขังในเรือนจำ

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังชายกลุ่มทะลุแก๊สทั้ง 3 คนได้เกิดเหตุในระยะเวลาห่างกันเพียง 5 นาที อย่างไรก็ตาม เราให้การรักษาพยาบาลแล้วตนก็ได้พูดคุยกับผู้ต้องขังทั้ง 3 รายและให้คำแนะนำว่า การจะให้ประกันตัวหรือไม่ ต้องมีผู้ยื่นประกันตัวและ เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ควรที่จะก่อเหตุวุ่นวายใดๆ เพื่อจะเป็นผลดีถ้าหากมีการยื่นประกันตัว

" การเกิดเหตุที่ต้องผู้ต้องขังเครียดแล้วถึงขั้นเคยกรีดข้อมือด้านหน้า จนถึงขั้นเลือดออกนั้นเคยเจอมา แต่จากประสบการณ์ที่ตนเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมา 8-9 แห่งยังไม่เคยเจอว่าผู้ต้องขังรวบรวมยาพาราจำนวนมากขนาดนี้เพื่อที่จะกินเมื่อเกิดความเครียด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊สครั้งนี้ไม่ได้รุนแรง มากตามข่าว ซึ่งก็สงสัยว่าผู้ให้ข้อมูลสับสนเท็จจริงจากเหตุใด

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' เผยไม่ได้เห็นต่าง 'ทักษิณ' เรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง เหน็บอย่ามัวแต่พูด ถึงเวลาต้องทำแล้ว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร

'เพื่อไทย' แถบอกรายงานนิรโทษกรรมแค่การศึกษาหากแก้ 112 จริงไม่ยอมแน่

'พท.' จ่อเห็นชอบรายงาน-ข้อสังเกตนิรโทษกรรม บอก แต่ละพรรคโหวตอย่างไร เป็นเอกสิทธิ์ ด้าน 'นพดล' ย้ำ ไม่มีความคิดนิรโทษความผิดม.110 และ 112

ไม่สำนึก! 'เฒ่าสามนิ้ว' จี้สภาฯล้างผิดคดี 112 อ้างเพื่อยุติความขัดแย้ง ประเทศเดินหน้าต่อได้

ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม สภาฯ