กมธ.ติดตามงบ สภาฯ แถลงปมจีที200 หลังเชิญหลายหน่วยงานชี้แจง

9 มิ.ย.2565 - ที่รัฐสภา นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะกรรมมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ตรวจสอบการใช้เงินในโครงการจ้างตรวจสอบเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ และวัตถุระเบิด (GT200) โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ประกอบด้วย กองทัพบก, สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.), ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.), สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง โดยได้มีการสอบถามเหตุผลถึงความจำเป็นในเรื่องการตรวจคุณภาพเครื่อง GT200 ของกองทัพบก โดยเฉพาะการจัดงบประมาณใน 2 ปีคือ 2564-2565 จำนวน 7.5 ล้านบาท โดยทางกองทัพบกให้เหตุผลว่าเรื่องนี้ได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งให้มีการตรวจสอบเพื่อหาข้อมูลประกอบในการดำเนินคดี และให้เห็นประสิทธิภาพว่าเครื่อง GT200 มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ โดยคำสั่งศาลให้กองทัพบกส่งเครื่อง 757 เครื่องไปให้กับสวทช.ตรวจสอบประสิทธิภาพทั้งหมดว่าสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ และเพื่อต้องการให้ศาลเห็นว่าเครื่องดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริง

นายไชยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพิสูจน์ประสิทธิภาพนั้น กมธ.ตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือการพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคดีทางแพ่ง และสิ่งที่กมธ.ให้ความสนใจคือผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินการนั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่ในวันที่ 7 มี.ค. ศาลปกครองคำสั่งอนุญาตให้บริษัท เอวิเอ แซทคอม ถอนคำอุทธรณ์ออกไปก่อนที่จะมีคำพิพากษา จึงทำให้ผลของการอุทธรณ์มีผลทำให้คดีสิ้นสุด ซึ่งทางกมธ.ได้สอบถามว่าทางกองทัพบกมีความจำเป็นหรือไม่ที่จะตรวจสอบเครื่อง GT200 ในส่วนที่เหลืออีก 437 เครื่อง ทางอสส.ยืนยันว่าต้องตรวจ เป็นเพราะว่าทางศาลเนื่องจากบริษัท เอวิเอ แซทคอม ได้ถอนคำอุทธรณ์แต่ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องคือความรับผิดชอบคือการค้ำประกันบริษัทกรุงเทพยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของศาลสูงสุด

นายไชยา กล่าวว่า ดังนั้น กมธ.จึงได้สอบถามสวทช.ว่าในปี 64 ผลของการตรวจสอบเครื่อง GT200 มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งได้รับคำตอบว่าสวทช.ได้ส่งผลการตรวจไปยังกองทัพบก ทราบว่าทั้ง 320 เครื่องนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กมธ.ได้สอบถามกองทัพบกว่า ในเมื่อเครื่องไม่มีประสิทธิภาพแล้วยังมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งงบประมาณในส่วนที่เหลืออีกหรือไม่ ซึ่งทางกองทัพบกยืนยันว่า ในส่วนที่เหลือ 437 เครื่องนั้นทางกองทัพบกได้สั่งระงับงบการจัดซื้อจัดจ้างกับสวทช.แล้ว ซึ่งทางกมธ.จึงได้ให้กองทัพบกส่งเอกสารยืนยันว่า จะดำเนินการยกเลิกและไม่ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางกองทัพบกยืนยันว่ากำลังทำหนังสือไปยังอสส. เพื่อขอคำตอบอย่างชัดเจนว่าคดีนั้นสิ้นสุดตามคำพิพากษาแล้ว ดังนั้น กมธ.จะมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปเนื่องจากได้ข้อมูลในเชิงลึกจากหลายส่วนที่จะมาให้ข้อมูลว่า ถึงแม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผลทางคดีจะเป็นความเสียหายทางแพ่งที่จะต้องมีการชดใช้ แต่สิ่งที่มีความกังวลคือบริษัท เอวิเอ แซทคอมมีขีดความสามารถหรือประสิทธิภาพที่จะชดใช้ความเสียหายให้กับรัฐได้มากน้อยได้แค่ไหน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่

‘สมศักดิ์’ นำผู้สมัครเพื่อไทย 3 จังหวัด สักการะมหาราชก่อนจับเบอร์

“สมศักดิ์” นำผู้สมัคร สส. เพื่อไทย “ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก” สักการะมหาราชทั้ง 3 พระองค์ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช-ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลุยจับเบอร์สู้ศึกเลือกตั้ง

‘ยศชนัน’ สงวนท่าทีกากบาทป้าย iLaw หวั่น กกต.เอาผิด ปมแก้ รธน.

“ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมกิจกรรม iLaw แสดงความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ รับส่วนตัวเห็นควรแก้ไข แต่ขอรอฟังเสียงประชาชน พร้อมย้ำเงื่อนไขงดแตะหมวด 1-2 และขอไม่กากบาทบนแผ่นป้าย เหตุไม่สบายใจทางการเมือง