ศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้ลดค่าปรับฟิลลิป มอร์ริสหลีกเลี่ยงภาษีสำแดงราคาบุหรี่นำเข้าไม่ตรงราคาจาก 1.2 พันล้านเหลือ 121 ล้านบาท พร้อมสั่งจ่ายค่าสินบนนำจับ 30%
02 มิ.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.185/2559 ระหว่างพนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด โดยนายเจอรัลด์ มาโกลีส ผู้จัดการสาขา บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัดเป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 8 ราย ในข้อหาสำแดงราคานำเข้าบุหรี่เป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
โดยอัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.ค.2546 - 24 มิ.ย.2549 บริษัท ฟิลลิปฯ กับพวก ได้ร่วมกันนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร (MARLBORO) และยี่ห้อแอลแอนด์เอ็ม (L&M) เข้ามาในราชอาณาจักร และร่วมกันบังอาจสำแดงเท็จโดยฉ้อโกงและออกอุบายด้วยการยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร กรมศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร โดยสำแดงราคาอันเป็นเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดทั้งสิ้น 272 ครั้ง โดยรวมราคาของสินค้าบุหรี่บวกกับราคาภาษีอากร ที่หลีกเลี่ยงเป็นเงินทั้งสิ้น 20,210,209,582.50 บาท คดีนี้จำเลยทั้ง 8 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ลงโทษปรับ 4 เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่มในทุกกระทงความผิดรวม 272 ซึ่งกระทง เป็นเงิน 1,225,990,671.50 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2-8 ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 สองเท่าครึ่งของค่าอากร ที่ต้องเสียรวม 272 กระทง เป็นเงิน 121,578,788 บาท และให้จ่ายสินบนแก่ผู้นำจับร้อยละ 30 ของค่าปรับตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 8 วรรคหนึ่งนอกจากที่แก้ให้เป็นไป ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 'นิว จตุพร' 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นเบื้องสูง
ที่ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1265/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ฟ้องน.ส.จตุพร แซ่อึง หรือ นิว อายุ 25 ปี แนวร่วมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก
'สุเทพ' ไร้กังวลไม่รอลงอาญา สู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. กล่าวถึงกรณีศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้ลดโทษจำคุกเเต่ไม่รอลงอาญาว่า ทุกอย่างเป็นกระบวนการยุติธรรม เป็นไปตามดุลพินิจของศาลพวกตนที่เป็นจำเลย ตั้งใจมา
ศาลฯพิพากษาคดี กปปส. จำคุก 14 ราย ยกฟ้อง 19 ราย รอลงอาญา 4 ราย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดโทษจำคุก ‘สุเทพ’ เเกนนำ กปปส.เพียงปีเดียว ไม่รอลงอาญา คดีนำมวลชัตดาวน์กรุงเทพ ปี 57 ส่วนพวกแกนนำอีก 14 ราย รับโทษหลั่นกันไป ไม่รอลงอาญาอยู่ระหว่างลุ้นประกันตัว รอลงอาญา 4 ราย ส่วนที่เหลืออีก 19 รายยกฟ้อง
ข่าวดี! ศาลอุทธรณ์ลดโทษจำคุก ‘สุเทพ-ถาวร’ เหลือ 1 ปีแต่ไม่รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์เเก้ลดโทษ 'สุเทพ-ถาวร' 1 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนเเกนนำที่ไม่รอลงอาญา มี 14 ราย ยื่นประกันชั้นฎีกา คดีก่อการร้าย ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ทนายชี้ ศาลอุทธรณ์มองเป็นกรรมเดียวเลยลดโทษ
ทนายยัน 'กำนันสุเทพ-กปปส.' 39 คน เข้าฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ชะตาพรุ่งนี้
วันพรุ่งนี้ ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีกบฏ กปปส.ชุดใหญ่ สำนวนหลัก หมายเลขดำอ.247/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกแกนนำและแนวร่วม
'หมอวรงค์' ปลุก save 112 อบรม 'ก้าวไกล' เลิกโหนทำลายสถาบัน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า save มาตรา 112 หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินคดีมาตรา112