'พี่ศรี' ยื่น กกต.สอยผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทย มีคุณสมบัติต้องห้าม เคยถูกศาลสั่งจำคุก

"ศรีสุวรรณ" ยื่นกกต.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ก.เขตตลิ่งชัน เพื่อไทย เหตุเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานปล้นทรัพย์ หากพบผิดจริงสอยออกได้เลย

12 พ.ค.2565 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน และหากพบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายขอให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรายดังกล่าว และเอาผิดฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครส.ก.ตามกฎหมายพบว่า มีผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์(ปล้นทรัพย์)ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา และถูกจำคุกจริงตามคำพิพากษาของศาลแล้ว จึงถือได้ว่าอาจเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม มาตรา 50(10) แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ซึ่งผู้สมัครส.ก.ดังกล่าวถูกพนักงานอัยการเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาล และศาลอาญาธนบุรี ฐานปล้นทรัพย์(พยายาม) เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 2524/2527 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340, 83, 80 และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย.2514 ข้อ 14 จำคุกมีกำหนด 10 ปี ของกลางริบ และศาลยังให้นับโทษต่อจากในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 747/2527 อีกด้วย ส่วนศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามผู้สมัครคนดังกล่าว มีหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย และทีมงาน ได้ลงไปช่วยเดินรณรงค์หาเสียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่าระบบการคัดกรองผู้สมัครหรือสมาชิกพรรคของพรรคดังกล่าว อาจมีช่องโหว่ ทำให้มีผู้ที่มีคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหลุดเข้ามาในพรรคได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร จะได้ประกาศให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ก. และได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว แต่ กกต.ก็มีสิทธิที่จะตรวจสอบและสอยออกไปได้ และที่สำคัญบุคคลดังกล่าวอาจต้องคดีฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จตาม ป.อ.มาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นพดลวอนหยุดปั่นเกาะกูด ‘คำนูณ’ แนะชั่งข้อ ‘ดี-เสีย’

“นพดล” ย้ำ “เกาะกูด” เป็นของไทย เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้เสียดินแดน วอนเลิกบิดเบือนหวังผลการเมือง “คำนูณ” ชำแหละบันทึกความตกลง เป็นคุณกับกัมพูชามากกว่า

อยู่เหนือการควบคุม พท.โยนบาปปมแก้ ‘รธน.’ ‘แม้ว-เนวิน’ คุมการเมือง

"พท." เล็งยื่นร่าง กม.นิรโทษกรรมเดือน ธ.ค.นี้ ยันไม่ล้างผิด ม.112-คดีทุจริต "นพดล" รับ กม.ประชามติงานยาก ต้องโน้มน้าว สว.เห็นตามเกณฑ์ชั้นเดียว แย้มใช้เกณฑ์ 20%

กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'

“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง

ร้อง กกต. สอบ 'นายก อบจ.' แห่ลาออกก่อนครบวาระ ทำสิ้นเปลืองงบจัดเลือกตั้งใหม่

นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ท้ารัฐบาลอยากตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ แน่จริงก็เอาสิ เชื่อพลังแผ่นดินจะเกิดขึ้น

'จตุพร' ท้ารัฐบาลอยากตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ แน่จริงก็เอาสิ ชี้แม้ลาออกจากพท.แล้วแต่ความสัมพันธ์ยังแนบแน่น ยุรีบตั้งทั้งบ่อน ทั้งแลนด์บริดจ์ ซุกที่ดิน 99 ปี เชื่อพลังแผ่นดินจะเกิดขึ้น ถึงคราต้องลุกต่อต้านรัฐบาลขายแผ่นดิน