‘พุทธะอิสระ’ ไขข้อข้องใจทุกประเด็น ปม ‘กาโตะ’ เบิกเงินวัดจ่ายปิดปากเรื่องฉาวตัวเอง เข้าข่ายยักยอกทรัพย์-มีโทษทางวินัยหรื่อไม่
6 พ.ค. 2565 – พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อถามมา ตอบไป โดยระบุว่า กรณีทิดกาโตะนำเงินวัดมาจ่ายเคลียร์ปัญหาให้ตนเองเช่นนี้ถือว่า เป็นการยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ โทษทางพระวินัยมีหรือไม่ หากมี ว่าอย่างไร
ตอบ คุณคนขี้สงสัย กรณีทิดกาโตะนำเงินวัดมาจ่ายเคลียร์ปัญหาของตนกับสีกา ผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่
เรื่องนี้มันมีมุมที่สังคมควรต้องวิเคราะห์ให้กระจ่างด้วยการไปตามสืบค้นกันดูว่า
1.เงินนั้นมีที่มาอย่างไร
2.หากเงินนั้นเป็นเงินของวัดมาแต่เดิม แล้วพระกาโตะไปลักลอบเบิกออกมาใช้โดยที่กรรมการวัดไม่ได้ยินยอม เช่นนี้ผิดเป็นคดีอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์และผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฎิบัติมิชอบ เพราะพระกาโตะมีตำแหน่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากับเจ้าอาวาสตัวจริง
ส่วนโทษทางวินัย คือ อาบัติปาราชิก
3.แต่หากเงินนั้นไม่ได้เป็นของวัดมาแต่เดิม เป็นเงินที่ชาวบ้านเขามีศรัทธา ถวายให้พระกาโตะแล้วพระกาโตะก็นำไปฝากในบัญชีวัด โดยมิได้แสดงเจตนาว่า ยกเงินก้อนนี้ให้แก่วัด เป็นแต่เพียงไปอาศัยฝากไว้ในบัญชีวัด เมื่อพระกาโตะไปเบิกมาใช้ส่วนตน โดยมีกรรมการวัดรับรู้เห็นด้วย
เช่นนี้ก็ไม่ถือว่ายักยอกทรัพย์ ไม่ผิด 157 ด้วยเพราะพระกาโตะถือว่าเงินนั้นยังเป็นของตน
หากจะผิด ก็ผิดตรงที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้จักบริหารจัดการสิ่งที่ได้มาให้ชัดเจน
4.แต่ถ้าเงินนั้นชาวบ้านเขาแสดงเจตนาชัดเจนว่า ถวายให้แก่วัด โดยมีพระกาโตะเป็นผู้รับทราบ ซึ่งต่อมาพระกาโตะไปเบิกมาใช้ส่วนตัว โดยไม่แจ้งให้กรรมการวัดรับรู้ เช่นนี้ก็เข้าข่ายยักยอกและผิด 157 ทั้งมีโทษทางพระวินัย คือ ปรับอาบัติปาราชิก ฐานยักยอกทรัพย์สิน เงินทอง เกินราคา 5 มาสก
5.แม้พระกาโตะรู้อยู่แก่ใจว่า เงินนั้นชาวบ้านถวายให้แก่วัด แต่พระกาโตะเดือดร้อน จึงไปแจ้งต่อกรรมการขอยืมเงินนั้นมาใช้ก่อนโดยสัญญาว่า จะใช้คืนให้ ในวันและเวลาที่กำหนด
เช่นนี้พระกาโตะก็ไม่ต้องรับโทษทางอาญาและไม่ต้องอาบัติปาราชิก
แต่ก็ผิดในพระวินัย ที่ว่าด้วยจับเงินจับทองและยินดีในเงินและทองนั้น เป็นอาบัติที่ว่าด้วยการไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย ไม่สำรวมต้องอาบัติปาจิตตีย์
สรุป
เงิน คือ งู มันพร้อมที่จะฉก กัด พ่นพิษใส่แก่ภิกษุได้ทุกเวลา
ทั้งสตรี ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรู ต่อพรหมจรรย์อยู่เสมอ
ทั้งที่มีมาแล้วในอดีต มีอยู่ในปัจจุบัน และก็จะมีต่อไปในอนาคต
เรื่องนี้พระอุปัชฌาย์จารย์ทั้งหลายควรต้องนำมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจตนเองว่า อย่าคบเด็กสร้างวัด อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน สุดท้ายมันจะพากันอับจนกันทั้งศิษย์และอาจารย์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พุทธะอิสระ' ย้ำให้ผ่อนคลายเมื่อคนใช้บริการคนพาลย่อมเตรียมรับมือไว้แล้ว!
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม
’พุทธะอิสระ‘ วางแล้ว! ไม่ร่วมขบวนทักท้วง ‘ทักษิณ-แพทองธาร’
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ "พุทธะอิสระ" ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
'พุทธอิสระ' บอกหรือถึงยุคทมิฬของประชาชนเมื่อนักการเมืองขู่ค้าความ!
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือเดิมเรียกพระพุทธะอิสระ
'พุทธะอิสระ' สวดยับ 'ความเท่าเทียม' ไม่มีอยู่จริง ค่าตอบแทนสส.-สว.-ค่าอาหารเด็ก
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเรื่อง "ความเท่าเทียม เป็นธรรมทั่วถึง
ชี้ 3 ประเด็นใหญ่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ โดนยื่นตรวจสอบแน่ หลังผ่านถวายสัตย์ปฏิญาณ
ได้ยินข่าวแว่วๆ มาว่า หลังจากผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณ จะมีหลายคนเตรียมตัวจ้องจองกฐินถวายสังฆทานท่านนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของตระกูลชิน
'พุทธะอิสระ' ออกโรงปราม! หยุดวาทกรรมบ่อนเซาะคำวินิจฉัยศาล
พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คนมีปัญญา เขาจะไม่ให้ราคากับสงครามน้ำลาย