'นิติกร กรัยวิเชียร' ร่ายยาวบนเฟซบุ๊ก ข้องใจเรื่องศิลปินแห่งชาติที่กระทรวงวัฒนธรรมผู้ประกาศ จี้ปรับกระบวนการคัดเลือกให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ตัดข้อกังขาทั้งปวงให้หมดสิ้น
04 พ.ค.2565 - นายนิติกร กรัยวิเชียร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ว่าด้วยเรื่องศิลปินแห่งชาติ” ระบุว่า เรื่องนี้อาจยาวหน่อย ท่านใดที่ไม่สนใจก็ผ่านไปได้เลยนะครับ
ผมเองมีความสนใจในเรื่องราวชีวิตและผลงานของศิลปินแห่งชาติมาเป็นเวลายาวนาน จึงได้ติดตามและอาสากระทรวงวัฒนธรรมถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติที่ยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ 2542 เป็นต้นมานับเป็นเวลากว่า 20 ปีเพื่อสะสมเป็นผลงานภาพถ่ายบุคคลซึ่งเป็นงานที่ผมชอบ เพราะแต่ละท่านมีเรื่องราวและสีสันที่น่าศึกษา และน่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกทางประวัติศาสตร์ และผมได้มอบภาพทุกภาพให้กระทรวงวัฒนธรรมไปใช้ประโยชน์ตามแต่เห็นสมควรโดยไม่เคยคิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังได้นำประสบการณ์อันพิเศษนั้นมาเขียนบทความประกอบภาพลงในนิตยสารสกุลไทยรายสัปดาห์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองปีเต็ม โดยนิตยสารดังกล่าวได้มอบค่าตอบแทนการเขียนของผมพอเพียงกับการที่ผมจะต้องเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติทุกสาขากว่าร้อยท่านซึ่งพำนักอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ผมสามารถทำงานนี้ได้อย่างไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย
ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องพิเศษจริงๆ เพราะนอกจากผมจะได้ผลงานภาพถ่ายเก็บไว้และทำประโยชน์ส่วนหนึ่งแล้ว ผมยังได้พบปะพูดคุยกับศิลปินแห่งชาติทุกสาขาอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานานระหว่างเตรียมการถ่ายภาพทุกๆท่านเพื่อนำข้อมูลมาเขียนบทความ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลตรงจากบุคคลนั้นๆเอง ไม่ใช่ฟังหรืออ่านจากที่คนอื่นเล่าหรือเขียน ผมพบว่าชีวิตของแต่ละท่านล้วนมีความเป็นมาที่พิเศษ ไม่ธรรมดา กว่าที่จะก้าวมาพบความสำเร็จในจุดนั้นได้ ส่วนใหญ่ล้วนผ่านประสบการณ์อันยาวนาน ก้าวย่างแต่ละก้าวก็ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ พรสวรรค์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นกว่าใครๆในวงการของท่านจนเป็นที่ยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขา มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชนิดที่ไม่มีใครจะโต้แย้งได้ อีกทั้งยังอุทิศตนเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างจริงจัง การที่ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับท่านเหล่านั้นจึงนับเป็นโชคดีของผมอย่างยากที่จะหาโอกาสเช่นนั้นได้
ต่อมาด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาและหน้าที่การงาน ทำให้ผมขาดช่วงการถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติไปเป็นระยะยาว จนพอมีเวลาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ก็ได้อาสาขอถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติรุ่นหลังๆบ้างเป็นบางปีแล้วแต่โอกาสจะอำนวยให้ ต่อมาเมื่อหลายปีก่อน มีการประกาศชื่อศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) คนหนึ่งซึ่งผมไม่เห็นด้วยว่าเขาควรจะได้เป็น เพราะผมทราบประวัติความเป็นมาและผลงานของเขาดีว่าไม่ได้มีคุณสมบัติโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้ ผมจึงประท้วงเงียบๆของผมโดยไม่ขอไปถ่ายภาพศิลปินแห่งชาติในปีนั้นทั้งหมด ซึ่งผมเองก็เสียดายเพราะพลอยพลาดโอกาสที่จะได้ถ่ายภาพศิลปินท่านอื่นที่เหมาะสม ที่ได้รับการแต่งตั้งในปีนั้นไปด้วย และจากนั้นมา ผมก็ไม่ได้กลับไปถ่ายภาพท่านใดๆอีก
จนกระทั่งมีการประกาศรายชื่อศิลปินแห่งชาติใหม่ล่าสุดในปีนี้ 12 ท่าน มีผู้โทรศัพท์ถึงผมหลายท่านแสดงอาการตกใจและถามว่าผมได้เห็นรายชื่อศิลปินแห่งชาติปีนี้โดยเฉพาะสาขาภาพถ่ายหรือยัง และบอกชื่อให้ผมทราบ ว่าเป็นภรรยาของศิลปินแห่งชาติสาขาเดียวกันคนหนึ่งที่ได้ตำแหน่งมาก่อนนั้นหลายปี ความรู้สึกแรกที่ได้ทราบคือความข้องใจ ข้องใจยิ่งไปกว่าคนที่ผมเคยไม่เห็นด้วยที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้เสียอีก อันที่จริงโดยส่วนตัวผมรู้จักกับทั้งสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นอย่างดีเพราะอยู่ในวงการเดียวกัน เคยทำงานร่วมกันหลายโอกาส และไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆต่อกันเลย แต่ผมมีคำถามมากมายในใจว่าการคัดเลือกครั้งนี้เป็นไปด้วยความเหมาะสมจริงๆแล้วหรือ เขามีผลงานในระดับที่จะเป็นศิลปินแห่งชาติจริงหรือ ถ้าเทียบกับศิลปินท่านอื่นๆในวงการเขามีคุณสมบัติเหนือกว่าทุกๆคนหรือ และเขาได้รับความยอมรับนับถือให้เป็นศิลปินแห่งชาติจากคนในวงการจริงๆหรือ และที่สำคัญที่สุด กรรมการทุกคณะตามลำดับขั้นตั้งแต่คัดกรองจนถึงตัดสิน ซึ่งหลายท่านไม่ได้เป็นผู้ที่รู้จักวงการถ่ายภาพดีพอ ได้พิจารณาหาข้อมูลอย่างครบถ้วนแล้วนอกเหนือจากเพียงการสอบถามจากศิลปินแห่งชาติสาขานี้คนก่อนๆหรือไม่
ในฐานะที่ผมเคยทำงานให้สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยมากว่าสิบปี เคยเป็นนายกสมาคมนี้มาสองสมัย กล่าวได้อย่างเต็มปากว่าสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในช่วงที่ผมทำงานอยู่จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยได้รับการติดต่อขอข้อมูลหรือรับฟังข้อคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับบุคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นศิลปินแห่งชาติเลย และเท่าที่ได้พูดคุยกับสมาคมถ่ายภาพอื่นๆ ก็ไม่มีสมาคมใดได้รับการติดต่อเช่นกัน ผมมีความรัก ผูกพันและห่วงใยวงการของผมอย่างยิ่ง ไม่มีเจตนาจะโจมตีผู้ใดให้ได้รับความเสียหาย หากแต่ต้องการให้วงการนี้มีความสง่างาม มีศักดิ์ศรี ดังนั้นศิลปินแห่งชาติสาขาภาพถ่ายทุกคน จึงควรได้รับการคัดเลือกอย่างเหมาะสม สามารถเป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงการได้อย่างสง่างาม มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับอย่างไร้ข้อสงสัย
ผมขอฝากความข้องใจทั้งปวงที่กล่าวมาไปยังกระทรวงวัฒนธรรมที่เป็นผู้รับผิดชอบโครงการศิลปินแห่งชาติ และเป็นหน่วยงานหลักด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ เป็นความหวังของคนในวงการศิลปะที่ต้องการความบริสุทธิ์ยุติธรรมให้กระบวนการคัดสรรศิลปินแห่งชาติเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีมาตรฐาน ว่าท่านได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างสมบูรณ์แล้วหรือ ผมไม่อยากเห็นตำแหน่ง “ศิลปินแห่งชาติ” ที่ผมศรัทธามาตลอดต้องมาเสื่อมค่าลงอย่างน่าเสียดายในความรับผิดชอบของท่าน และขอเรียกร้องให้มีการปรับกระบวนการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติทุกสาขาครั้งใหญ่ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อตัดข้อกังขาทั้งปวงให้หมดสิ้นไป
ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลงาน'ตรี อภิรุม' ราชานิยายลึกลับสยองขวัญ
21 พ.ย.2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า นายเทพ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (นวนิยาย) พุทธศักราช 2562 นามปากกา “ตรี อภิรุม” หรือ “นายเทพ ชุมสาย ณ อยุธยา” เจ้าของผลงาน “นาคี”
อาลัย! สิ้น 'เทพ ชุมสาย ณ อยุธยา' ศิลปินแห่งชาติ ราชานวนิยายลึกลับสยองขวัญของไทย
แฟนเพจ "ตรี อภิรุม" แจ้งข่าวการเสียชีวิตของ "อ.เทพ ชุมสาย ณ อยุธยา" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2562
ข่าวดี ! ไทย รับมอบ 4 วัตถุโบราณบ้านเชียง อายุกว่า 3,500 ปี จากสหรัฐฯ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับมอบโบราณวัตถุบ้านเชียง 4 ชิ้น
ข่าวดี ไทยรับมอบ 4 วัตถุโบราณบ้านเชียง อายุกว่า 3,500 ปี คืน
ประเทศไทยรับมอบ 4 วัตถุโบราณบ้านเชียง อายุกว่า 3,500 ปี ย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐ