กกต.หารือสาธารณสุขหวังคลอดมาตรการผู้ป่วยโควิดไปเลือกตั้งได้!

กกต.จับมือ สธ.ลงนามข้อตกลงขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดึง อสม.ทั่วประเทศให้ความรู้ พร้อมหารือมาตรการให้ผู้ป่วยโควิดออกไปเลือกตั้งได้

28 เม.ย.2565 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อบูรณาการในการขับเคลื่อนภารกิจสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อผลักดันการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญเป็นกลไกหลัก คือ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เครือข่ายที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนภารกิจในระดับพื้นที่ชุมชน ดังนั้นเพื่อให้การบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สธ. กับ กกต.ให้มีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการลงนามข้อตกลงในครั้งนี้

นายอิทธิพร กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้กับบุคลากรของ สธ.ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เชื่อว่าทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาก้าวไปข้างหน้าด้วยระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เพราะถ้าระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขได้ก็การมีพลเมืองคุณภาพ ภารกิจที่สำคัญนี้จะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศที่จะช่วยขับเคลื่อนความรู้ดังกล่าวไปสู่ประชาชน

ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในวันนี้เพื่อขับเคลื่อนการสร้างพลเมืองคุณภาพให้ประชาชนมีความรู้ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในการเลือกตั้ง 2 ปีที่ผ่านมาทั้งการเลือกตั้งระดับ อบต. และเทศบาล ก็ได้รับความร่วมมือจาก สธ.ในการส่ง อสม.เข้ามาประจำหน่วยเลือกตั้งหน่วยละ 2 คน ในการดูแลความปลอดภัยในการออกมาลงคะแนนของประชาชน ก็ไม่ปรากฏมีคนติดเชื้อโควิดจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ในส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. เราได้ร่วมหารือกับ สธ.อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคเปลี่ยนไป เพราะผู้ป่วยสามารถรักษาตัวที่บ้าน ตรวจ ATK ได้เอง โดยตอนนี้กำลังหารือถึงมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ติดเชื้อออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กรณีตรวจ ATK พบติดเชื้อ หรือผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านจะไปเลือกตั้งอย่างไร ขณะนี้ได้ร่างแผนมาตรการร่วมกรมควบคุมโรค โดยมีการเตรียมไว้ 3 ขั้นตอนคือการจัดหน่วยเลือกตั้งพิเศษสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด การเตรียมตัวของผู้ติดเชื้อในการออกไปลงคะแนน และในระหว่างลงคะแนน

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า จากการที่ สธ.มีเครือข่าย อสม. ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยหลายท่านก็มีความรู้ความเข้าใจทางด้านการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จึงเป็นที่มาของความคิดในการลงนามความร่วมมือ เพื่อให้เครือข่าย อสม.สามารถกระจายความรู้ความเข้าใจคุณค่าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ให้ชาวบ้านได้ทราบ ทั้งนี้ต้องนึกถึงประเทศเป็นหลัก เลือกคนที่ดีคนที่ทุ่มเท พรรคที่ดีมีนโยบายทำเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน

"อสม.มีศักยภาพด้านการประชาสัมพันธ์ กระจายข่าว อย่างเช่นช่วงที่มีโรคระบาด อสม.ก็จะช่วยให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากโรคระบาด ในกรณีนี้ก็เช่นกันทาง กกต.จะให้กระทรวงสาธารณสุขใช้เครือข่าย อสม.ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และความใจต่างๆต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะเราจะมีกำลังอีกตั้ง 1 ล้านคนที่จะออกไปบอกกับชาวบ้านในวงกว้างว่าต้องรักชาติ รักบ้านเมือง ต้องสงวนสิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่เลือกคนที่ดีที่สุดให้เป็นตัวแทนของเขาในการเป็นปากเสียงของประชาชนต่อไป ซึ่ง อสม.พื้นฐานมีความทุ่มเทอยู่แล้ว เป็นอาสาสมัครโดยที่ไม่คำนึงถึงค่าตอบแทนใดๆ ต้องเชื่อว่าวุฒิภาวะของอสม.ก็คงช่วยเหลือภารกิจ และปณิธานของ กกต.ให้เกิดความสะอาด โปร่งใสในการเลือกตั้งต่างๆ "นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนค่าตอบแทนป็นหน้าที่ของ สธ. ถ้าเรามีโอกาสที่ทำได้ก็ไม่เคยละเลยที่จะตอบแทนการทำงานของอสม. ซึ่งการตอบแทนอาจจะไม่จำเป็นในรูปแบบของเงินอย่างเดียว อาจจะเป็นในรูปแบบของการชื่นชม แจกประกาศนียบัตร การให้สิทธิในการรักษาพยาบาลให้กับอสม.และครอบครัว เป็นต้น นอกจากนี้ยังจัดระบบกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ให้กับอสม. เพื่อสร้างความมั่นคงกับ อสม.ให้มากที่สุด

นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการใช้สิทธิลงเลือกตั้งของประชาชนที่ติดเชื่อโควิด-19 กรมควบคุมโรคกำลังหารือเร่งด่วนกับเลขาธิการ กกต.ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งอย่างที่ได้เรียนว่าเรากำลังจะเดินทางไปสู่เป้าหมายให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ที่เราเดินมากว่าครึ่งทางแล้ว เราได้ลดมาตรการต่างๆลง ทั้งการลดการรักษาพยาบาลแบบที่ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน ที่ขณะนี้ไม่มีแล้ว ก็จะเหลือกลุ่มที่มีอาการหนักเท่านั้น หรือกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ถึงจะเข้ารับการรักษาที่มีความยุ่งยาก สลับซับซ้อน เพราะความเป็นอันตรายเริ่มลดน้อยลง โดยพยายามหาทางกับทางกกต. ในการเลือกตั้งถ้ามีผลตรวจ 2 ขีดก็ไปแจ้งหน่วยเลือกตั้ง เพื่อใช้ช่องแยกช่องแยก หรือใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ขอให้ความมั่นใจว่าเราคำนึงถึงความเป็นปลอดภัยของส่วนรวมเป็นหลัก ไม่มีสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสีย แน่นอน

"เราไปตัดสิทธิเขาไม่ได้ ถ้าเขายืนยันว่าจะใช้สิทธิของเขาในความเป็นประชาชน เพราะว่าการเลือกตั้งคือสิทธิที่ทุกคนหวงแหน ผมเคยโดนตัดสิทธิทางการเมืองมา 5 ปี สมัยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ผมอกแทบแตก ทุกครั้งที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งรู้สึกว่าตัวเองถูกลิดรอน ฉะนั้นการที่ผู้คนเจ็บป่วยแล้วบอกว่าออกมาใช้สิทธิไม่ได้ ผมถือว่าเป็นการก้าวล่วง เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีที่จะทำให้การบริหารจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยดี " นายอนุทิน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

'เสี่ยหนู' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' ชี้มาทำงานให้บ้านเมืองอย่าไปแช่ง

'อนุทิน' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' บอกจะได้ชอบธรรมหากได้รับเลือกจากประชาชนทั้งประเทศ ขออย่าแช่งคนเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง

'อนุทิน' ยันภูมิใจไทยโหวตเสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ

'อนุทิน​' ยืนยัน​ ภท.​โหวต​เสียงข้างมาก 2 ชั้น หากนำมติ กมธ.ร่วมประชามติ​เข้าโหวตในสภา​ ย้ำเพื่อให้ ​ปชช.​ตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง​ ชี้ทุกอย่างมีเงื่อนเวลาถ้า​แก้ไม่ทันก็รอสภาชุดหน้า​ ​

'พงษ์ศักดิ์' แชมป์เก่า 6 สมัย ร้องประธาน กกต. สั่งระงับรับรองผลเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น

นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 2 ได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังตรวจพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 1 ได้หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเฟสบุ๊ค จ