22 เม.ย. 2565 – นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” ตั้งข้อสังเกต ปมการชี้แจงทอท.เกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี โดยมีเนื้อความว่า
ทอท. ชี้แจงเรื่องการแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี
สำนักข่าวอิศราเผยแพร่คำชี้แจงของ ทอท. เกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรีว่า
ประเด็นที่ 1 ทอท.ได้จัดทำประมาณการรายได้ ‘กรณีมี’ และ ‘ไม่มี’ มาตรการพยุงสถานะทางธุรกิจฯ โดยคำนวณจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ต่างๆ พบว่า หาก ทอท.ไม่มีมาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้รายได้ในปี 2565 ของ ทอท. อยู่ที่ 17,098 ล้านบาท ในขณะที่หาก ทอท. มีมาตรการดังกล่าวรายได้ปี 2565 ของ ทอท.จะอยู่ที่ 20,136 ล้านบาท
ประเด็นที่ 2 ทอท.ได้วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย ผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ ตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ อย่างครบถ้วน และพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
ประเด็นที่ 3 ทอท.ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณา และได้รับการยืนยันจากหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ แล้วว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะจะเป็นบรรทัดฐานให้แก่รัฐวิสาหกิจอื่นในอนาคต จึงขอตั้งข้อสังเกตเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ทางราชการและแก่ ทอท. ดังนี้
ข้อสังเกตสำหรับประเด็นที่ 3
ผมได้เห็นเอกสารว่า หน่วยงานที่ สคร.อ้างถึงดังกล่าวคือบันทึกของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แต่ผมเห็นว่า พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ มาตรา 10 วรรคสองเกี่ยวกับคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ บัญญัติให้ ผอ.สศค.เป็นเลขานุการ และให้ สศค.ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการฯ
เนื่องจากผู้ลงนามในบันทึก สศค.ไม่ใช่ ผอ.สศค. จึงไม่ได้ทำหน้าที่เลขานุการ และ สศค.ในฐานะหน่วยงานธุรการ ก็ไม่มีอำนาจตีความการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ผมจึงขอเสนอแนะให้มีการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า บันทึก สศค.ดังกล่าวอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ข้อสังเกตสำหรับประเด็นที่ 2
มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ที่บัญญัติให้รัฐวิสาหกิจต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ นั้น อยู่ในหมวดที่ 1 บททั่วไป ซึ่งมีอยู่ 4 มาตรา ตั้งแต่มาตรา 6 จนถึงมาตรา 9
ทั้งสี่มาตราดังกล่าวเป็นข้อบัญญัติแก่รัฐ โดยมาตรา 6 และมาตรา 8 ระบุว่ารัฐเป็นผู้มีหน้าที่ ส่วนมาตรา 9 ระบุว่า ครม.เป็นผู้มีหน้าที่ ดังนั้น ถึงแม้มาตรา 7 ไม่ได้ระบุคำว่า รัฐ หรือ ครม. แต่โดยเนื้อหา หมวดทั่วไปใช้บังคับแก่รัฐ
ผมจึงมีความเห็นส่วนตัวว่า หมวด 1 ทั้งหมวดใช้บังคับแก่รัฐ และผู้ที่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาตามมาตรา 7 คือ ครม. มิใช่รัฐวิสาหกิจใด
ข้อสังเกตสำหรับประเด็นที่ 1
การที่ ทอท.ได้จัดทำประมาณการรายได้ ‘กรณีมี’ และ ‘ไม่มี’ มาตรการพยุงสถานะทางธุรกิจฯ นั้น ผมเห็นว่าเป็นเรื่องดี ทำให้มีข้อมูลครบถ้วนและรอบคอบ
แต่ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า การพิจารณาดังกล่าวไม่อาจถือเป็นการพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ ตามนัยของมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ได้ เพราะกรณีมาตรา 7 น่าจะต้องเป็นการพิจารณาเปรียบเทียบรายได้ของ ทอท. เฉพาะระหว่าง กรณีไม่แก้ไขสัญญา กับกรณีแก้ไขสัญญา เป็นสำคัญ
ผมจึงขอเผยแพร่เป็นข้อมูลเชิงวิชาการ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อราชการเป็นสำคัญ และขอแนะนำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำข้อสังเกตไปศึกษาและใช้ประกอบการพิจารณาว่าถูกต้องหรือไม่
วันที่ 22 เมษายน 2565
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala
(เครดิตภาพตามแหล่งที่แสดงชื่อ)
หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมชาย' เห็นด้วยอดีตขุนคลังแจกเงินหมื่นเฟสสองเสี่ยงคุก!
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก
เตรียมรับอีกคดี! 'อดีตรมว.คลัง' ฟันธง! แจกเงินอายุเกิน 60 ปีผิดกฎหมาย
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความว่
'อดีตรมว.คลัง' ร่อนจม.ถึง 'รมว.คลัง' จี้ตรวจคุณสมบัติ 'โต้งไวท์ไล'
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่ง จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีคลังเรื่องแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ
'ธีระชัย' เผย MOU44 จุดแข็งคือจุดอ่อน มาถึงบัดนี้ไทยย่อมจะไม่ใช้สิทธิที่จะทักท้วงอีกแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังปร
'พปชร.' ลั่น ยกเลิก MOU44 ฝ่ายเดียวได้ หวั่นเอกสารแนบท้าย ทำไทยเสี่ยงเสียพื้นที่ทางทะเล
พปชร. ย้ำจุดยืน ยกเลิกเอ็มโอยู 44 ทำฉบับใหม่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายสากล ระบุ เลิกฝ่ายเดียวได้ ชี้ เอกสารแนบท้ายมีข้อบกพร่องเยอะ ทำไทยเสียเปรียบ เสี่ยงเสียพื้นที่ทางทะเล จี้ กต.แจง ปมทำผิดกติกาสากล ปัด เคลื่อนไหวหวังผลทางการเมือง
'ธีระชัย' ชำแหละกต.ก่อคำถามคาใจ ไม่บอกว่าถ้าเจรจาตาม MOU44 เสี่ยงเสียเกาะกูด 99%
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า