'ทนายนกเขา' อัด 'บิ๊กตู่' ทำงานเหมือนนายทะเบียนไม่ใช่นายกฯ แฉอเมริกาจ้องยึดไทย

“ทนายนกเขา” ปลุก “ปชช.” ปกป้อง “ปท.” ซัด “รบ.” รู้หรือไม่ “อเมริกา-CIA” ต้องการล้มล้าง “สถาบันกษัตริย์” ยึด “รัฐไทย” ชี้ หลัง “สงครามโลกครั้งที่สอง” ถูก “อเมริกา” ยึดเบ็ดเสร็จ ไร้อิสระตัดสินใจ

17 เม.ย. 2565 – นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) หรือทนายนกเขา  กล่าวผ่าน Facebook Live “ประชาชนคนไทย ปท.” ถึงกรณี “เจาะประเด็น ใครโดดเดี่ยวสถาบัน ยึดรัฐไทย” ว่าในสถานการณ์วิกฤติข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น ทำไมตนถึงเชื่อมั่นสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะ สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยมีความต่อเนื่องยาวนาน เป็นความต่อเนื่องยาวนานที่ผ่านวิกฤติ ของประเทศมาแล้วทั้งนั้น ผ่านวิกฤตต่างๆที่ถูกรุกรานจากต่างชาติมาตลอด ทำให้ประเทศมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้นี่คือบทบาทความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์

“สถาบันพระมหากษัตริย์มีบทบาท ในการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ อย่างยาวนานลึกซึ้ง และไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนตน แต่อยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน วันนี้จึงมีแผ่นดินนี้ให้อยู่ แผ่นดินนี้จึงมีทรัพยากรให้นักการเมือง เอาไปขายต่างชาติ มีให้นักลงทุนยึดเอาไปเป็นของส่วนตัว แต่ประชาชนได้ประโยชน์น้อยนิด ขณะที่พระมหากษัตริย์ถูกจำกัดด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย สถาบันพระมหากษัตริย์มีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับมิตรประเทศ มาเป็นร้อยๆปี ไม่มีรัฐบาลไหนที่มีความสัมพันธ์กับต่างชาติได้ยาวนานเท่านี้” นายนิติธร กล่าว

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เราไม่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่แพ้สงคราม แต่เราก็ไม่ได้ชื่อว่าชนะสงคราม ขณะเดียวกันนับแต่นั้นมา เราถูกยึดประเทศเบ็ดเสร็จโดยอเมริกา เริ่มตั้งแต่การเขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 , รูปแบบทหาร , รูปแบบตำรวจ วิธีการในการทางการเมืองการปกครอง , รูปแบบเศรษฐกิจต่างๆอเมริกาทั้งนั้น เราต่อรองอะไรไม่ได้ ขณะนั้นแม้เราไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่เราก็ไม่มีอิสระที่จะตัดสินใจหลายเรื่อง เพราะเราถูกอเมริกาเข้าครอบครองเรียบร้อย กุมชะตากุมทิศทางต่างๆเรียบร้อยแล้ว

นายนิติธร กล่าวว่า ถ้าไม่มีพระองค์ท่านรัชกาลที่ 9 ถามว่าวันนี้ยังเป็นประเทศไทยหรือไม่ พระองค์ท่านมองเห็นปัญหาและได้มีการแสดงมิตรไมตรีอย่างจริงใจ มีการบอกเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมประเพณีของไทย ที่เป็นประเทศไม่รุกรานใคร เป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนาและศาสนาต่างๆ มีความสงบสุขแห่งความแบ่งปันและพระองค์ทรงเสด็จไปเยือนอเมริกาหลายครั้ง ซึ่งรูปแบบการต้อนรับอาจจะดี แต่วิธีการกฎระเบียบต่างๆที่ใช้กับประเทศไทย อเมริกาถือโอกาสเป็นเจ้าอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และยืมมือญี่ปุ่นมาครอบไทยอีกทีหนึ่ง ซึ่งเราเสียเปรียบ 2 ประเทศนี้มานานมากแล้ว

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า ไม่เคยมีรัฐบาลไหนจะแก้ไขปัญหาได้ ที่ประเทศไทยรอดพ้นมาได้แต่ละครั้ง ก็เป็นความฉลาดของพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้นแน่นอนรัฐบาลบางรัฐบาลอาจจะมีส่วน แต่ไม่ได้เข้มข้นหรือมีความสามารถ ที่จะไปต่อรองเจรจากับเขาได้ แต่พระมหากษัตริย์ทำได้ ซึ่งอเมริกาก็มองเห็นว่า การจะยึดประเทศไทยนั้นไม่สามารถทำได้ ตราบใดที่ยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์และองค์พระมหากษัตริย์อยู่ อย่างไรก็ตามหากเกิดอะไรขึ้นมา ถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มั่นคงอยู่อย่างนี้ โอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นพื้นที่หลัก ทางสงครามและถูกอเมริกาเข้ายึดครอบครองเป็นไปได้สูง

นายนิติธร กล่าวว่า ถ้าจะสังเกตว่าทำไมปรากฏการณ์ โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์จึงเกิดหนักขึ้น ในช่วง 3-4 ปีอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ประชาชนต้องไปดูว่าอเมริกาเกี่ยวข้องหรือไม่ และรัฐบาลนี้ทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ตนไม่เห็นด้วยกับคนที่พยายามทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสิ่งที่แสดงออกนั้นคือข้อมูลอันเป็นเท็จ แต่รัฐบาลชุดนี้ใช้ไม่ได้ จัดการแต่เรื่องกฎหมาย ปัญหาเรื่องเหล่านี้กฎหมายเพียงอย่างเดียวจัดการไม่ได้ ต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย เช่น ให้ความรู้ พูดคุย แลกเปลี่ยน เปิดเผยหรือจะเป็นในทางลับก็ต้องคุยกัน จะเข้าใจวิธีการทางกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลเข้าไม่ถึง แต่สถาบันพระมหากษัตริย์เข้าถึงหมด และดำเนินการอย่างเร่งด่วนรวดเร็ว เป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ขณะที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มากน้อยแค่ไหนให้ความเคารพ จงรักภักดีมากน้อยแค่ไหน การดำเนินตามรอยในโครงการพระราชดำริ , เศรษฐกิจพอเพียงเป็นอย่างไรรัฐบาลทำหรือไม่ และใช่รัฐบาลหรือไม่เมื่อปลายปีที่แล้วที่ไปจับมือกับรองผู้อำนวยการ CIA เมื่อจับมือกับหัวหน้าตัวการใหญ่ในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังไปจับมือกับพวกเด็กๆที่ล้มล้างด้วย

“อยากรู้ว่าท่านรู้หรือไม่ว่าอเมริกา CIA ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ทุกวันนี้มันชัดเจนแล้ว เห็นตัวตนของประเทศเหล่านี้ชัดเจน ขณะนี้มีหลายประเทศที่ลุกขึ้นมา แม้เป็นประเทศมหาอำนาจเหมือนกัน เขาก็ลุกขึ้นมาปลดปล่อยตัวเอง จากการกดขี่แต่ไทยกลับไม่รู้เรื่อง” แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าว

นายนิติธร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้หรือไม่ว่าวันนี้ประชาชนกำลังเผชิญกับอะไรบ้าง เช่น เผชิญกับเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลงและอ่อนแรงเรื่อยๆ เผชิญกับลัทธิกีดกันทางการค้า ลัทธิก่อการร้าย ประชาชนหลงอยู่ในลัทธิประชานิยม เผชิญกับภัยอาชญากรรมข้ามชาติ โซเชียล สังคมสูงวัย โลกร้อน โรคระบาด การแพร่กระจายของภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ การครอบงำยึดครองกดขี่จากต่างชาติ ปัญหาความยากจน ยากไร้เต็มไปหมด ขอถามว่าอะไรที่บ่งชี้ว่าพล.อ.ประยุทธ์แก้ไขปัญหาเหล่านี้บ้าง และปัญหานี้จะรุนแรงขึ้นถ้าประเทศไทย ต้องตกเป็นพื้นที่สงคราม ทั้งจากอเมริกาและจีน ภายใต้การบริหารของท่าน จะให้ประชาชนทำอย่างไร เพราะไม่เห็นภาพที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ต่างประเทศ แต่ตนเห็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้น กับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง
แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า นอกจากนี้คนที่หาผลประโยชน์ จากสำนักพระราชวัง , สำนักงานทรัพย์สินต่างๆมีจำนวนมาก บางคนก็ทำเพื่อได้ผลประโยชน์ โดยไม่ดูถึงความเหมาะสม ว่าจะกระทบกระเทือนถึงพระองค์ท่านหรือไม่ ตั้งแต่มีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์สถาบันกษัตริย์เดือดร้อนมาตลอด ต้องเสี่ยงกับความปลอดภัยมาตลอด และต่างชาติรุกเข้าถึงสถาบันกษัตริย์โดยตลอด วันนี้ตนเห็นการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์เป็นเพียงนายทะเบียน ไม่มีความเป็นนายกรัฐมนตรีเลย ขอถามว่า 7-8 ปีที่บริหารประเทศ เกิดความสามัคคีขึ้นได้บ้างหรือไม่ ไม่ต้องไปว่าประชาชนหรอก เพราะพวกคุณเองในรัฐบาลสามัคคีกันได้หรือไม่ มีรัฐธรรมนูญเขียนออกมาก็ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชนเลย ขณะที่ฝ่ายค้านก็จ้องอภิปรายอยู่

นายนิติธร กล่าวว่า ประเทศวนเวียนกันอยู่อย่างนี้ เพราะกลุ่มคนไม่กี่คน ที่แสวงหาอำนาจและฝักใฝ่อำนาจแล้วก็สร้างกับดัก วันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องถูกโดดเดี่ยวถูกปองร้าย แต่รัฐบาล,นักการเมืองก็ยังพูดกันถึงเรื่องอำนาจ ขณะที่ประชาชนรวมตัวกันก็ไม่ได้ ไม่มีเวทีให้รวมกัน ออกมาก็ถูกอ้างข้อกฎหมายขึ้นมาจับประเทศนี้ประชาชนติดกับดักหมด ติดกับดักฝ่ายทักษิณบ้าง , ฝ่ายประยุทธ์บ้าง , ฝ่ายติ่งประยุทธ์บ้าง ติดกับดักกลุ่มผลประโยชน์บ้าง ติดกับดักกลุ่มที่อ้างเจ้าหากินบ้าง ติดกับดักกลุ่มที่ต้องการล้มเจ้าบ้าง
แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า นับจากนี้ถ้าไม่มีความสามัคคี ก็ไม่มีความสงบ และนับจากนี้การรุกคืบของอเมริกาก็จะมากขึ้น  เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่าง ขณะนี้ถาโถมเข้ามาเกิดวิกฤต การที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและการที่จะรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ในวันนี้ เราต้องช่วยกันทำเอง โดยนำหลักศาสนา หลักคุณธรรม จริยธรรม หลักสุจริตเข้ามา และร่วมกันเอาชนะสิ่งชั่วร้ายด้วยสันติวิธี ด้วยธรรมะไม่ว่าจะเป็นพี่น้องศาสนาใดทุกศาสนา มีหลักธรรมต้องช่วยกันขจัดสิ่งเลวร้ายให้พ้นจากบ้านเมือง สิ่งที่ประชาชนไฝ่หา คือ ต้องการความเป็นประชาธิปไตย ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องการปฏิรูป ต้องการการมีส่วนร่วม ดังนั้นมีทางเดียว คือต้องร่วมมือสามัคคีกันทุกกลุ่ม

“ปรากฏการณ์ของโลกในขณะนี้ชัดเจนแน่นอนว่า ความมุ่งมั่นของอเมริกาที่ต้องการจะเข้าครอบครองไทย ใช้ไทยเป็นฐานสนับสนุนต่อสู้ตอบโต้ เป็นฐานทางทหารและอาวุธเพื่อตอบโต้ประเทศจีน พม่า ลาว กัมพูชา ก็จะเกิดขึ้นควบคู่พร้อมกันไป ดังนั้นวันนี้ประชาชนต้องร่วมมือกันกระทำทุกปัญหาให้เสร็จ ในเวลาที่เหมาะสม สร้างระเบียบกฎเกณฑ์ และหาคนใหม่ๆที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเข้ามา เพราะระบบในขณะนี้คัดกรองบุคคลไม่ได้ ระบบในขณะนี้เปิดทางให้เฉพาะผู้ที่มีเงิน มีอำนาจ มีเครือข่ายคอนเน็คชั่น ผู้ที่มีเงินพอที่จะซื้อเสียง ผู้ที่มีอิทธิพลพอที่จะข่มขู่เอาชีวิตใครก็ได้ ดังนั้นในระยะเวลาที่มีอยู่ตอนนี้ ความสามัคคีการเปลี่ยนแปลงประเทศ การปฏิรูปประเทศ ความปลอดภัยของประเทศ และการปลดแอกจากการกดขี่จากอเมริกา , ญี่ปุ่นหรือต่างชาตินั้น ประชาชนต้องถือว่าเป็นวาระสำคัญของชีวิต” นายนิติธร กล่าว

นายนิติธร กล่าวว่า เรื่องสำคัญแบบนี้ถ้าทำสำเร็จ เราจะได้ฝากแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน เพราะถ้าเรามีรัฐธรรมนูญแบบที่เป็นอยู่นี้ มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ โดยไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เราก็จะมีชะตากรรมแบบนี้ แล้วเราก็จะไม่มีนายกรัฐมนตรี เราจะมีแต่นายทะเบียน ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ แม้การเผชิญหน้าต่อสู้ด้วยอาวุธยังมาไม่ถึง แต่แรงกดดันมาแล้ว เช่น สินค้าแพง ส่งออกไม่ได้ หลังจากนี้อาวุธชีวภาพจะมาก่อน และการยั่วยุ การสร้างความขัดแย้งในประเทศต่างๆ จะเกิดขึ้นสิ่งเหล่านี้เป็น ความเชี่ยวชาญของ CIA และเมริกา ซึ่งใช้มาแล้วกับหลายประเทศได้ผล ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในเกมของ CIA จึงอยากฝากให้ประชาชนไปคิดดูว่า จะร่วมกันทำหรือไม่เรื่องความสามัคคี เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนนั่นเอง