'อมรัตน์' นำ ส.ส.ก้าวไกลประกัน 5 แกนนำม็อบ พล่าม ม.112 ใช้ต่ออายุรัฐบาล-ทำองค์กรตุลาการวิกฤติ

"อมรัตน์" พาทีม ส.ส.ก้าวไกล ใช้ตำแหน่งประกัน 5 แกนนำผู้ต้องขังคดี 112 อ่านจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา ให้คืนสิทธิประกันตัว อ้างคลี่คลายวิกฤติศรัทธาองค์กรตุลาการ

26 ต.ค.2564 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.พรรคก้าวไกลและโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มราษฎร ได้เดินทางมาเพื่อยื่นเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว ส่วน สส.พรรคก้าวไกลเตรียมจะใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัว นายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน , นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ , นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ,  น.ส.เบนจา อะปัญ หรือแกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดมาตรา 112

นางอมรรัตน์ เปิดเผยว่า วันนี้พวกเราเป็นตัวแทน สส.พรรคก้าวไกลมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา ซึ่งมีใจความดังนี้ ขอแถลงการณ์จุดยืนปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมืองของเยาวชนและประชาชนของผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ทำไมตนจึงแสดงจุดยืนต่อสาธารณะดังที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 63 ว่า "ยินดีใช้ตำแหน่งผู้แทนราษฎรไปประกันตัวหากเสรีภาพในการแสดงความเห็นที่ถูกรองรับไว้โดยรธน. ถูกพรากไปด้วยข้ออ้างพรก. ฉุกเฉินพร้อมโชว์ใบรับรองเงินเดือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

เป็นเพราะว่าหลายปีที่ผ่านมานับจากรัฐประหาร 22 พ.ค.57 ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจในปัจจุบันที่ยาวนานจะเข้าปีที่ 8 แล้ว ประเทศนี้ถูกปกครอง ครอบงำด้วยความกลัว ผู้ที่รักประชาธิปไตย ให้คุณค่ากับหลักการสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมตกอยู่ในความมืด ถูกปิดกั้น เสรีภาพในการคิดการพูดการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เมื่อสิ้นสุดความอดทนเยาวชนหนุ่มสาวและประชาชนออกมาทวงคืนประชาธิปไตย ไล่นายกฯที่สืบทอดอำนาจจากการรัฐประหารเรียกร้องให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้มีความเป็นสากลสอดคล้องกับยุคสมัย

นางอมรรัตน์ กล่าวอีกว่า แต่ไม่ว่าจะออกมาส่งเสียงมากมายแค่ไหน ข้อเรียกร้องของพวกเขาถูกตั้งใจละเลยไม่ถูกได้ยิน สิ่งที่ได้รับ คือ การลุแก่อำนาจปราศจากมนุษยธรรม ใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ ใช้งบประมาณมากมายปราบปรามผู้ชุมนุมราวกับเป็นศัตรูเพียงแค่พวกเขาคิดต่างจากผู้ทรงอำนาจบาตรใหญ่ แจกคดีออกหมายเรียกหมายจับ ใช้กฎหมายปิดปากจงใจใช้และต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินด้วยข้ออ้างเรื่องโควิด-19 อย่างปราศจากความละอายต่อสายตาชาวโลก

สำหรับตนแล้ว เยาวชนผู้กล้าหาญเหล่านั้น พวกเขาคือนักต่อสู้ไม่ใช่นักโทษ คือเจ้าของอนาคตประเทศนี้ พวกเขาได้ก้าวข้ามเส้นแห่งความกลัวทีคนยุคของพวกเราที่ผ่านมาไม่เคยเข้าข้ามพ้นเส้นนั้นมาได้บัดนี้มีผู้ต้องหาคดี 112, 116, 215, พรบ.คอมพิวเตอร์ พรบ.ชุมนุมสาธารณะ พรก.ฉุกเฉินฯ มากมายถึง 1,500 คน จาก 800 กว่าคดี โดยเฉพาะคดี 112 มีถึง 150 คนแล้ว และส่วนใหญ่เป็นเยาวชน

นางอมรรัตน์ กล่าวอีกว่า เราต้องยอมรับกันเสียทีว่าคดีมาตรา 112 นั้นเป็นคดีทางการเมืองที่จะต้องถูกแก้ไขด้วยวิถีทางการเมืองแทนใช้คุกศาลทหาร และใช้กฎหมายปิดปากรวมทั้งกฎหมายหมิ่นสถาบันนี้เป็นประเด็นที่ประเทศไทยถูกองค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์นับจากปี 54 ถึงปี 64 ถูกวิจารณ์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 22 ครั้งถูกเสนอแนะให้แก้ไขในเรื่องอัตราโทษที่สูงเกินไปไม่ได้สัดส่วนกับความผิดและไม่มีโทษขั้นต่ำ ไม่มีคำนิยามที่แน่นอนของคำว่าดูหมิ่น มีปัญหาการบังคับใช้ที่ถูกตีความอย่างไร้ขอบเขต ไม่สอดคล้องกับหลักการสากลในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองการใช้ข้ออ้างในการไม่ให้ประกันว่า มีอัตราโทษสูงอาจก่อให้เกิดอันตรายความเสียหายต่อความมั่นคงหรือน่าเชื่อว่าจะหลบหนีไม่ใช่ข้ออ้างเราจะเห็นได้ว่าผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง แม้แต่ถึงฆ่าคนตายก็ยังได้สิทธิ์ในการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี

"พวกเขายังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดและยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ตามกฎหมาย เพื่อหยุดความตกต่ำของกระบวนการยุติธรรมไทยไม่ให้ต้องถูกทำลายลงเพียงเพื่อจะได้ดำเนินคดี 112 หรือเพียงเพื่อต่ออายุให้รัฐบาลที่ได้ความชอบธรรม"

ในฐานะผู้แทนราษฎรตนมีหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพที่จะคิด ที่จะพูด และสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้กับพวกเขา ที่ขณะนี้ยังถูกจองจําได้แก่  นายอานนท์ ,นายพริษฐ์ ,นายภาณุพงษ์ ,ไผ่ดาวดิน ,น.ส.เบนจา ขอเรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัวให้พวกเขาเพื่อคลี่คลายปัญหาวิกฤติศรัทธาต่อองค์กรตุลาการในขณะนี้

"คุกควรเป็นที่ของคนปล้นอำนาจประชาธิปไตย ไม่ใช่ของผู้ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ตนขอเรียกร้องให้ท่านประธานศาลฎีกาฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมให้กลับมาเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง เผด็จการจงพินาศ"

ด้านนายสมยศ กล่าวว่า พวกเรากำลังจะจัดการชุมนุมขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรา 112 สืบเนื่องมาจากคดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แกนนำราษฎรของเราได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเพื่อสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ของประเทศชาติโดยตรง เพื่อนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้ามากขึ้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาถูกดำเนินคดีแล้วไม่ได้รับประกันตัว นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของเรานั้นยังไม่ได้ปกป้องเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งปัญหาการประกันตัวนำมาสู่ความขัดแย้งในสังคมไทยมากขึ้น เป็นเหตุให้คณะราษฎรได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนำคณะราษฎรที่เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันเราเห็นว่ามาตรา 112 คืออุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยและถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างการเมือง คุกคามเสรีภาพของประชาชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช.แยกน้ำออกจากปลา! เชือด สส.ผิดจริยธรรมร้ายแรง ลงชื่อแก้มาตรา 112

คืบหน้า! ไต่สวน 44 สส.ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 7 ราย 'ป.ป.ช.' ใช้วิธีแยกน้ำออกจากปลา กันบางส่วนไว้เป็นพยาน พร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวภายใน 15 วัน

พรรคส้มแซะป.ป.ช.ไร้หัวใจ

เปิด 44 รายชื่ออดีต สส.พรรคก้าวไกล ที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีร่วมลงชื่อแก้ ม.112 "อมรัตน์" โวยแหลก! ป.ป.ช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่

ขีดเส้น 15 วัน! ป.ป.ช. เรียก 44 สส. ชี้แจงข้อกล่าวหาคดีฝ่าฝืนจริยธรรม ปมแก้ ม.112

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือถึง 44 สส.ก้าวไกล แจ้งข้อกล่าวหา และเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับชี้แจง คดีฝ่าฝืนจริยธรรม จากการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

'คารม' ไม่ซ้ำเติมอดีตเพื่อนร่วมพรรค โดนข้อกล่าวหาร้ายแรง บอกตัดสินใจอะไรต้องรอบคอบ

'คารม พลพรกลาง' อดีต สส. พรรคก้าวไกล ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย เห็นใจอดีตเพื่อนร่วมพรรค 44 สส. ถูก ป.ป.ช. เรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีแก้ไขมาตรา 112 ย้ำไม่ขอซ้ำเติม

เช็กรายชื่อ 44 สส. ส่อสังเวยแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

สำรวจรายชื่อ 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ถูก ป.ป.ช. ส่งเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรมอย่างร้ายแรง หนักเบาต่างกันไปตามพยานหลักฐาน  หลังร่วมกันลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ป.ป.ช. ยันมีพยานหลักฐานเพียงพอ 'เจี๊ยบ อมรัตน์' ผิดจริยธรรมร้ายแรง!

ป.ป.ช. ร่อนข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง มีพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีมูลความผิด ถึงมือ ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ เจ้าตัวเดือดจัดฟาดกลับเห็นคำขวัญของ ป.ป.ช. แล้วอยากจะอาเจียน