ไม่ตกขบวน 'ศิธา' โผล่โพสต์สดุดีวีรชนเหตุการณ์ม็อบ 10 เมษา

ไม่ตกขบวน ศิธา โพสต์สดุดีวีรชน รำลึกเหตุการณ์ 10เมษา ย้ำ ผู้ว่ากทม. ต้องเปิดโอกาสให้คนแสดงออกได้ตามสิทธิ พร้อมดูแลความปลอดภัย ห้ามเป็น นั่งร้านเผด็จการ

10 เม.ย. 2565 – น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า เริ่มต้นชีวิตการทำงาน ด้วยการรับใช้ชาติเป็นข้าราชการทหาร สังกัดกองทัพอากาศ ได้ตัดสินใจลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน

เข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2544 จนกระทั่งมาโดนรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549

การกระทำรัฐประหารทุกครั้ง เหมือนเป็นการผลักประเทศให้ถอยหลังเข้าสู่หลุมดำ และสร้างความขัดแย้งในสังคมให้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าคณะรัฐประหารจะอ้างทุกครั้งว่า จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาความสงบและยุติความขัดแย้ง แต่สถานการณ์กลับเป็นตรงกันข้ามและนำพามาซึ่งความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

แทบทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้ง กรุงเทพมหานครคือพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่พี่น้องประชาชนจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรม รวมไปถึงปัญหาความเป็นอยู่ปากท้อง ปัญหาความยากจน และปัญหาพืชผลการเกษตร ของพี่น้องชาวนาชาวไร่

ในบทบาทของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทั้งแม่บ้านที่ต้องดูแลทุกข์สุขของผู้อยู่อาศัย ทั้งคน กทม.เอง และประชาชนทุกภาคส่วนที่เกิดความคับข้องใจ จนต้องเข้ามาอาศัยร่มไม้ชายคาของกทม. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล และผู้ว่าฯ กทม. ยังเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม. จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลย์ ปฏิบัติทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และการดูแลพี่น้องประชาชนตามหลักมนุษยธรรมให้เหมาะสม โดยไม่อาจจะปฏิเสธภารกิจทั้งสองส่วนนี้ได้

ผมยังคงยืนยันในเรื่อง การแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาร้องขอความเป็นธรรม และต้องร่วมเป็นตัวกลางช่วยประสานงานให้ภาครัฐ ลงมาดูแลแก้ไขเรื่องทุกข์ร้อนให้กับประชาชน เพื่อให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน และเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับบ้านไปประกอบอาชีพได้ตามปกติโดยเร็ว

วันที่ 10 เมษาฯ คือวันครบรอบ 12 ปี ของการสลายการชุมนุมที่แยกคอกวัว ที่พี่น้องประชาชนออกมาเรียกร้องรัฐบาลยุบสภา และเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับกลายเป็นกระสุนปืน เมืองหลวงของประเทศไทย กลายเป็นทุ่งสังหารที่ทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บ และเสียชีวิตรวมทั้งสิ้นกว่า 99 ศพ

ผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ดูแลทุกข์สุขให้กับพี่น้องประชาชน จะต้องยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตย โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ ดูแลความปลอดภัย ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่ยอมเป็นนั่งร้านให้กับเผด็จการ อย่างเด็ดขาด

ผมขอสดุดีวีรชนทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อ สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โวย 'แพงทั้งแผ่นดิน' ไล่บี้ 'ภูมิธรรม' รีบโชว์ฝีมือ อย่ามัวแต่โฟกัสการเมือง

'ไทยสร้างไทย' จี้ 'รมว.พาณิชย์' หยุดโฟกัสปมการเมือง หันหน้าแก้ปัญหา 'แพงทั้งแผ่นดิน' เร่งคุมราคาสินค้าพุ่งอย่างจริงจัง

เหมือนเป๊ะ! ข้องใจ 'หวยเกษียณ' รัฐบาล กับ 'หวยบำเหน็จ' ไทยสร้างไทย

'เลขาฯ ไทยสร้างไทย' สงสัย 'หวยเกษียณ' เหมือนนโยบายหวยบำเหน็จที่ 'คุณหญิงสุดารัตน์' ใช้หาเสียง ยันไม่ขัดข้องนำไปใช้ แต่ขอหลักการและวิธีคิดถูกต้อง

โหวตงบ67วันโลกาวินาศ สะท้อนเสถียรภาพฝ่ายค้าน?

หลังเสร็จสิ้น ภารกิจเดินทางมาราธอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเยือนต่างประเทศร่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ภารกิจกลับเชียงใหม่ บ้านเกิดในรอบ 17ปี