พท.ปีกเสื้อแดง โหมโรง ย้อนความหลัง เมษา53 ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้นเหตุความสูญเสีย ล้อมปราบเสื้อแดง
10 เม.ย.2565-น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงวันครบรอบ 12 ปีของการล้อมปราบประชาชน 10 เมษายน 2553 ว่า ในฐานะของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันประวัติศาสตร์ของประชาชน ขอรำลึกถึงการสูญเสียวีรชน ประชาชนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการกระทำที่โหดร้ายจากผู้มีอำนาจในเวลานั้น ต้นเหตุจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่คงไว้เพื่อปราบปรามจัดการกับประชาชน แม้ครอบครัววีรชนล้มตายจำนวนมาก ทายาทของวีรชนหลายคนเติบโต แต่วันนี้ความเป็นธรรมยังไม่มีให้กับพวกเขา ความผิดไปไม่ถึงผู้ก่อการ แต่มีสิ่งเดียวที่ปรากฎจริงคือมีผู้บาดเจ็บจริงและตายจริงจากกระสุนจริงเท่านั้น
รองโฆษกพพรคเพื่อไทยกล่าวว่า เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 การชุมนุมต่อเนื่องของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นลาออก และคืนอำนาจการเลือกตั้งให้กับประชาชน ช่วงเช้าของวันที่ 10 เมษายนมีคำสั่งให้ทหารเข้าควบคุมพื้นที่โดยประดิษฐ์วาทกรรมว่า ขอกระชับพื้นที่จากผู้ชุมนุม และทหารประกาศเขตพื้นที่กระสุนจริง ได้เห็นภาพการปราบปรามประชาชนดั่งพวกเขาไม่ใช่คนร่วมชาติ เสียงกระสุนปืนดังสนั่นกลบเสียงขอร้องให้หยุดยิง เสียงของกลุ่มติดอาวุธวิ่งวุ่นจนไม่มีใครได้ยินเสียงร่ำไห้ของผู้ชุมนุม คนบาดเจ็บล้มตายต่อหน้า เด็กและผู้สูงอายุแทบเอาชีวิตไม่รอด มีผู้เสียชีวิตจากแก๊สน้ำตาในวันนั้นคือ นายมนต์ชัย แซ่จอง เสียชีวิตจากหัวใจวายเฉียบพลันเพราะแก๊สน้ำตา นายเกรียงไกร คำน้อย ถูกยิงตรงสะพานมัฆวานตอน
ช่วงบ่าย ช่วงค่ำนายวสันต์ ภู่ทอง ชาวสมุทรปราการที่ยืนโบกธงชาติถูกยิงที่ศีรษะตรงจุดถนนดินสอด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงทำลายสมอง กระทั่งสื่อมวลชน ฮิโรยูกิ มูราโมโต้ นักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ที่ถูกยิงตรงถนนดินสอ และประชาชนอีกหลายคนถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงที่สี่แยกคอกวัวและอีกหลายพื้นที่ในการชุมนุมที่ผ่านฟ้าราชดำเนิน การไต่สวนหาสาเหตุการตายผลการชันสูตรออกมาว่าเกิดจากวิถีกระสุนจากแนวของทหาร ส่วนตนนั้นได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาจนส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนังจากการเข้าไปปักหลักรายงานข่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นยังไร้การเยียวยา ไร้การเหลียวแล ไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากคนสั่งยิง
“เหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 ไม่ควรเป็นบทเรียนด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก ไม่มีประเทศใดในโลกที่สั่งฆ่าประชาชนด้วยอาวุธของรัฐ ด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่เปรียบเสมือนยาพิษ เหมือนใบอนุญาตจัดการประชาชน ความสูญเสียในวันนั้นถูกรองรับด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผู้มีอำนาจหวงแหนกอดเอาไว้เพียงเพื่อคงอำนาจของตนเอง ไม่ต่างกับตอนนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ ไม่ใช่เพื่อจัดการโรคระบาด แต่เพราะขาดกลัวอำนาจของประชาชน สุดท้ายจะเหลือเพียงการตายกับความสูญเสียในความทรงจำที่โหดร้ายและซากปรักหักพังของประเทศกับประวัติที่เลวร้ายสำหรับเยาวชนคนรุ่นหลัง ขอให้ความสูญเสียจบลงเพียงแค่ปี 2553 และขอให้ปี2565 คือปีแห่งการอำลาเผด็จการ สู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รื้อคดีเผาเมือง! 'กมธ.กฎหมาย' รับลูกป้าธิดา สอบสลายม็อบเสื้อแดงปี 53
น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน แถลงเปิดเผยผลการประชุม กมธ.ว่า วันนี้มีการพิจารณากรณีการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
‘ตาเหวง’ ของขึ้น! หวดเพื่อไทยจำไม่ได้หรือ 2 เหตุการณ์ใหญ่ในสมัยรัฐบาลปชป.
นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสส.เพื่อไทย อดีตแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กว่า “อย่าลืมเป็นอันขาดรัฐไทยฆ่าปชช.สองมือเปล่า
'ป้าธิดา' รับหมดความรู้สึกกับทักษิณ พ้อเขาไม่จำอดีตของคนที่เป็นมิตร-เคยต่อสู้ด้วยกันมา
นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ว่า ขณะ
'แกนนำเสื้อแดง' ออกโรงป้อง 'อิ๊งค์' ได้ทีขยี้เขี่ย 'วงษ์สุวรรณ' พ้นรัฐบาล
'วรชัย' ออกโรงป้อง 'นายกฯ อิ๊งค์' ปัด 'ทักษิณ' ครอบงำ แค่พ่อแนะนำลูก ซัดพวกอิจฉาบังตา พร้อมหนุนไม่เอา 'วงษ์สุวรรณ' ร่วมรัฐบาล
'ดร.อานนท์' ฟันเปรี้ยง! สลิ่มถูกหลอกเอา 'แดง' มาสู้กับ 'ส้ม' ล้มเจ้า
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า