'อดีตบิ๊กศรภ.' ย้อนอดีตยุคพคท.แม้รัสเซียมีความเชื่อคนละอย่าง ก็ให้ความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ไทยตลอดมา

'พลโทนันทเดช'ย้อนอดีตยุคสมาชิกพคท.หนีไปรัสเซีย แม้รัสเซียจะมีความเชื่อคนละอย่างกับไทย และไทย ยังอยู่ฝ่ายสหรัฐฯ มาตลอด แต่ทั้งรัซเซีย และ จีนแดง ก็ให้ความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ ของไทยตลอดมา

6 เม.ย.2565 - พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

ที่นำมาลงไว้เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า รัสเซีย นั้นมองประเทศไทยในทางที่ดีตลอดมาแม้จะไม่มีผลประโยชน์ ที่จะได้จากไทยเลยในตอนนั้น

อนึ่งผมเขียนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ เดือนมกรา2555 แสดงว่า แม้รัสเซียจะ มีความเชื่อคนละอย่าง กับไทย และ ไทย ยังอยู่ฝ่ายสหรัฐฯ มาตลอด แต่ทั้งรัซเซีย และ จีนแดง ก็ให้ความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ ของไทยตลอดมา

เมื่อเกิดความแตกแยกทางด้านความคิดกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ในขั้นรุนแรงขึ้น เทิดภูมิ ใจดี และพรรคพวกกลุ่มหนึ่งก็หลบหนีจากฐานที่มั่นในไทยไปพึ่งพาพรรคคอมมิวนิส์ต์แห่งประเทศลาว จนถูกส่งไปศึกษาเพิ่มเติมที่ ลาว, เวียดนาม, จีน และรัสเซีย ทำให้เทิดภูมิฯ เห็นข้อผิดพลาดของ พคท. มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวกับ “สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย”

ที่รัสเซีย หลังจากฟังคำบรรยายของคณะกรรมการกลางบริหารพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตถึงนโยบายพรรคและความเลวร้ายของพระเจ้าซาร์ฯ จบลงแล้ว ทางฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ไทยจึงได้เสนออุปสรรคและปัญหาของการปฏิวัติในไทยให้ทางรัสเซียได้ทราบบ้าง ซึ่งสรุปถึงปัญหาหลักๆ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ๒ ประการ คือ

๑. ศาสนาพุทธครอบงำสังคมไทย มีพระ เณรอยู่ทุกหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง การปฏิวัติจึงพัฒนาไม่ได้

๒. สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันที่มีอุปสรรคมากที่สุดต่อการปฏิวัติในประเทศไทย ประชาชนเชื่อถือและศรัทธามาก เสมือนหนึ่งว่า ประเทศไทยจะขาดสถาบันฯ ไม่ได้

คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตได้ตอบปัญหานี้ว่า

๑. ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เป็น มาร์กซ์-เลนิน แต่กำเนิดแล้ว ข้าพเจ้าก็จะเลือกนับถือศาสนาพุทธ

๒. เกี่ยวกับกษัตริย์ไทย ข้าพเจ้าได้ศึกษาค้นคว้ามาโดยตลอดว่าทำไมพระมหากษัตริย์ของไทยถึงดำรงอยู่ได้ยาวนาน ก็เพราะพระมหากษัตริย์ไทยเป็นกษัตริย์ที่ก้าวหน้า มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่เคารพรักของประชาชน ตามที่พวกสหายฟังคำบรรยายเกี่ยวกับกษัตริย์รัสเซียพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ มาแล้ว คงเข้าใจดีว่า กษัตริย์ไทยแตกต่างกับกษัตริย์รัสเซียโดยสิ้นเชิง พระมหากษัตริย์ไทยทรงเมตตาประชาชน แต่พระเจ้าซาร์ฯ มีแต่ความโหดเหี้ยม ร.๕ เคยเสด็จมารัสเซีย นำความคิดก้าวหน้าไปพัฒนาประเทศ สร้างมิตรกับรัสเซีย ทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากอาณานิคมของต่างชาติได้ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ข้าพเจ้าตอบว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดองค์หนึ่งของโลก สหายควรภูมิใจในสถาบันทั้ง ๒ คือ ศาสนาและพระมหากษัตริย์

คุณเทิดภูมิฯ กับคณะพอฟังคำพูดของนักทฤษฎีพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตแล้วถึงกับมึนงงไปหมด เพราะไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้ออกมาจากปากของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านมาได้ตรงนี้ผมก็นึกถึง “กลุ่มนิติเรี่ยราด” ขึ้นมาทันที พวกนี้ก็เหมือนคอมมิวนิสต์หลงยุคครับ เรียนจากทฤษฎีอย่างเดียว ไม่รู้ว่าอะไรมันดี อะไรมันไม่ดีในภาคปฏิบัติ และสถาบันฯ เป็นอุปสรรคอะไรที่มันจะต้องการเปลี่ยนแปลง มองไม่เห็นจริงๆ ครับ

ในยุคสมัยที่ลัทธิคอมมิวนิสต์เริ่มคุกคามประเทศไทยอย่างชัดเจนนั้น มีแกนนำนิสิตนักศึกษาส่วนหนึ่งได้รับการทาบทามให้เข้ารับความรู้จาก พคท. ซึ่งส่วนใหญ่ที่เข้าไปยุ่งกับ พคท. นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ศรัทธาต่อ พคท. อะไรมากนัก เป็นการแข่งกันว่าใครจะเท่กว่ากันเท่านั้น เหมือนสมัยนี้ใครด่าเจ้าได้ก็จะดูเท่ดีก็เท่านั้นเองครับ แต่ก็มีส่วนน้อยที่ยังหลงได้ปลื้มกับ พคท. อยู่จนปัจจุบันนี้

จากความสับสนในการรายงานข่าวกรองเกี่ยวกับ พคท. ของหน่วยงานหลายๆ แห่ง ทำให้พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา มีแนวความคิดว่า ควรมีหน่วยงานเฉพาะกิจของทหารตั้งขึ้นทำงานสืบสวนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พคท. เพื่อให้ได้ข่าวสาร เป็นข้อเท็จจริง สำหรับการตรวจสอบกับผลที่ได้รับจากการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ โดยรับนายทหารที่จบจากมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งเข้ามาทำงาน เพื่อไม่ให้มีอิทธิพลทางด้านลักษณะท่าทางและทัศนคติแบบทหารอยู่ในความนึกคิด การทำงานจะได้ขยายขอบเขตได้กว้างไกลออกไปได้ เพราะไม่ใช่การสู้รบตามแบบ โดยนำบุคคลเหล่านั้นมาฝึกฝนการใช้อาวุธ, งานข่าวกรอง, การโดดร่ม, การดำรงชีพในป่า ฯลฯ (ไม่เกี่ยวข้องกับการอบรมนายร้อยพิเศษของทบ.) ด้วยเหตุนี้ผมจึงเบนเข็มจากตำรวจเข้ามาเป็นทหารเพราะรู้สึกว่างานมันเร้าใจ ตื่นเต้นกว่า (ในสมัยนั้นการสอบเข้ารับราชการ ทั้งตำรวจและปลัดอำเภอเป็นเรื่องง่ายๆ ครับ การแข่งขันสอบตำรวจมากหน่อย อัตรา ๑: ๑ ๑/๒ ส่วนปลัดอำเภอ ไม่ตาเหล่ แขนขาพิการ รับหมด ๑๐๐%)

การทำงานของพวกผมจึงแตกต่างจากหน่วยงานอื่นๆ มาก เพราะอุปกรณ์ดี เงินดี มีการอำพรางตัวเป็นทหารแต่อำพรางตัวเป็นปลัดอำเภอจริงๆ, เป็นนักหนังสือพิมพ์, เป็นพัฒนากร, เป็นเจ้าของร้านขายของชำ ไม่ต้องลงเวลาทำงาน ฯลฯ ความใกล้ชิดกับปัญหาที่เกิด จึงทำให้พวกผมจึงเข้าถึงข่าวสารได้ลึกกว่า (สมัยติดยศ ร.อ. ผมไว้ผมยาวประบ่าแข่งกับไอ้เต๋อ “เรวัต พุทธินันทน์” นั่งอยู่ที่ตึกศิลป์ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นประจำเกือบทุกวัน) นอกจากนั้นการรายงานข่าวจะทำตามข้อเท็จจริงได้ดี ใครชั่วใครโกงรายงานหมดโดยไม่ต้องกังวลว่าใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นคนของรัฐบาล ซึ่งผู้ใหญ่ก็ฟังแต่ไม่ยอมปฏิบัติตามเสียเป็นส่วนใหญ่

ผมรู้จักคุณเทิดภูมิ ใจดี ค่อนข้างดีมากผ่านการติดตามสะกดรอย การส่งคนเข้าไปอยู่กับคุณเทิดภูมิฯ ฯลฯ เพราะในยุคหลัง ๑๔ ตุลา ๑๖ ใครจะมาดังเท่า เทิดภูมิ, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และธีรยุทธ บุญมี ไม่มีอีกแล้ว ในระยะนั้นกลุ่มซ้ายจัด เริ่มวิพากษ์วิจารณ์คุณยุค ศรีอาริยะ, คุณเทิดภูมิฯ, คุณคำนูน สิทธิสมาน เลขาธิการ สนนท. ในยุคนั้น ว่าเป็นกลุ่มลัทธิแก้นิยมแนวทางโซเวียต เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ยอมรับการครอบงำจากจัดตั้งของ พคท. แบบชัดเจน ยังมีความคิดเห็นของตัวเอง (ข้อมูลส่วนหนึ่งได้รับจากการพูดคุยบกับพี่ไขแสง สุกใส)

หลังจากนั้นมาเมื่อสงครามเย็นสิ้นสุดลง โลกาภิวัฒน์เข้ามาครอบงำโลกอย่างเต็มที่ ผมกับคุณเทิดภูมิฯ ก็รู้จักกันมากขึ้น พูดจากันบ่อยขึ้น ทำให้ผมแน่ใจว่า คุณเทิดภูมิฯ คือคนรักแผ่นดินจริงๆ โดยเฉพาะการมีความคิดเห็นต่อปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองเป็นของตัวเองโดยไม่ถูกครอบงำจากคนอื่น เพราะคนที่มีความคิดเห็นเป็นกลางย่อมมองปัญหาอะไรต่ออะไรที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้กว้างขวางกว่า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตบิ๊กศรภ.' ฟันธง! หลัง ม.ค.68 'ทักษิณ' จะคึกคะนองไม่ออก

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทักษิณ VS. สนธิกับสหายร่วมรบ หลังมกราคม 68 มีเนื้อหาดังนี้

เปิดเรื่องราวที่พวกโหน 6 ตุลาฯไม่ยอมพูดถึง 'คอมมิวนิสต์ล้อมฆ่าลูกเสือชาวบ้านที่เคียนซา'

เพจ ฤๅ - Lue History เพยแพร่ บทความโดย ส. มีชัย มีใจความว่า ‘เราอดทนถึงที่สุด… ก็สุดทน’ : การล้อมฆ่าลูกเสือชาวบ้านของกองทัพคอมมิวนิสต์ไทยกับฟางเส้นสุดท้ายของมวชนฝ่ายกลางเรื่องราวที่พวกโหน 6 ตุลาฯไม่ยอมพูดถึง

อุ้ย! อดีตบิ๊กศรภ. บอกแบ่งงบซอฟต์พาวเวอร์แจก ’หมูเด้ง’ บ้าง จะได้มีผลงาน

อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ แนะนำเงิน Soft power จำนวนมหึมา ของนายก อุ๊งอิ๊ง นั้นควรแบ่งมาแจกให้ 'น้องหมูเด้ง'