5 เม.ย.2565 - เฟซบุ๊ก เส้นทางเดินที่เลือกแล้ว “ป้าย บูรพาไม่แพ้” ของนายกฤษกร ศิลารักษ์ แกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล โพสต์ข้อความโดยมีรายละเอียดดังนี้
แรมโบ้ ที่ผมรู้จัก !!!!
ในเส้นทางการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน การประสานงานเป็นบทบาทหลัก ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และด้วยบทบาทนี้ จึงทำให้รู้จักทั้งราชการ และฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่เมืองพรรคใดมาเป็นรัฐบาล ก็ทำให้เกิดการประสานงาน การทำงานด้วยกัน
ปี 2555 - 2556 เมื่อคราวรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้น ผมทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน “ขบวนการประชาชนเพื่อนสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ “P-move” ฝ่ายการเมืองที่ได้ร่วมทำงานด้วยกัน คือ “แรมโบ้อีสาน” ในฐานะผู้ประสานงานระหว่างฝ่ายรัฐบาล ในตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จนเกิดข้อตกลง มี มติ ครม.รองรับการแก้ไขปัญหาหลายกรณีปัญหา โดยเฉพาะ กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล ที่มีมติ ครม.28 พฤษภาคม 2556 อันเป็นกรอบที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล มาจนถึงปัจจุบัน
การเมือง เป็นเรื่องไม่แน่นอน ฝ่ายที่เคยเป็นรัฐบาล ก็เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายที่เคยเป็นฝ่ายค้านเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาล แม้แต่รัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร เมื่อใคร ฝ่ายใดมาเป็นรัฐบาล การประสานงาน การทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ปัญหาของชาวบ้านได้รับการแก้ไข ก็จำเป็นต้องขับเคลื่อน ผลักดันต่อไป
“แมวสีใดไม่สำคัญ ขอเพียงแค่จับหนูได้ก็พอ” เช่นเดียวกันกับการประสานงาน การทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ไม่สามารถเลือกได้ อยู่ที่ว่า ผู้ที่ได้อำนาจรัฐมา จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านได้ และ พร้อมที่จะร่วมมือทำงานแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ผมก็ต้องทำหน้าที่ ร่วมทำงานด้วยทุกคน
ปี 2560 ผมเข้ามาขับเคลื่อน ผลักดันการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากเขื่อนหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในช่วงแรก พบเจอกับปัญหา อุปสรรค นานัปการ จนกระทั่งปี 2561 ได้ร่วมทำงานกับ “แรมโบ้อีสาน” อีกครั้ง ในขณะนั้น แรมโบ้อีสาน ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นคนดูแล แก้ไขปัญหามวลชน ในตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ส่วนผมมีฐานะเป็นที่ปรึกษา “กลุ่มโนนสังข์” จนนำไปสู่การทำให้ตัวแทนกลุ่มโนนสังข์ ได้ร่วมเป็นกรรมการ ในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ และนับจากนั้นเป็นต้นมา การทำงานติดตาม ผลักดันการแก้ไขปัญหาเขื่อนหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้รับการหนุนส่ง จากแรมโบ้อีสาน ซึ่งแรมโบ้อีสาน มีส่วนสำคัญ ที่นำไปสู่การจ่ายเงินค่าชดเชยเขื่อนหัวนา มาแล้วถึง 2 ครั้ง
“นักรบ ย่อมมีบาดแผล” ในการทำงาน สำหรับคนทำงาน ไม่เคยใครที่จะหลีกเลี่ยง เรื่องราว ทั้งดี และไม่ดีได้ เพราะการทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมมีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ ปัจุบัน แรมโบ้อีสาน เป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แม้มีตำแหน่งใหญ่โตขึ้น แต่การทำงานร่วมกันก็ยังเสมอต้นเสมอปลาย
สำหรับผม แรมโบ้อีสาน เป็นคนที่ผมสามารถทำงานร่วมได้ดีมากคนอื่น และผลงานจากการทำงานร่วมกัน ก็ได้ทำให้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม หลายกรณีปัญหา นอกจากนี้ “แรมโบ้อีสาน” ก็เป็น “งัวงาน” ที่ถูกใช้ ได้ถูกงานอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แรมโบ้ เสกสกล' ลาออกจากบอร์ด IRPC หลังถูกแต่งตั้งไม่ถึง 1 เดือน
'แรมโบ้ เสกสกล' ลาออกจากบอร์ด IRPC มีผล 9 ก.ย. 67 หลังถูกแต่งตั้งได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยผ่านการเสนอชื่อจาก บมจ.ปตท.
ม.เกษตรฯ ตั้ง 'เสกสกล' เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ คณะอุตสาหกรรมบริการ
นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามในประกาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ
'เสกสกล-ประธานกนอ.สัมพันธ์' หารือขับเคลื่อนศก.สงขลา เร่งปรับปรุงสวัสดิการพนักงานกนอ.
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์
ปลอดหนี้! ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 'แรมโบ้' 7.9 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิ
'วีระ' บุก ปปป. แจง 'บิ๊กเต่า' ไม่เกี่ยวแก๊งตบทรัพย์
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.
'แรมโบ้' เข้าให้ข้อมูล ปปป. ถูกแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ขู่กรรโชกทรัพย์ 6 ครั้ง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหลังจากเคยโดน