ยกฟ้อง 'แหวน' กับพวก สมคบปาระเบิดป่วน กทม.ปี 58

ศาลอาญายกฟ้องคดีมรดกศาลทหาร กล่าวหาแหวนพยาน6ศพวัดปทุมฯกับพวก สมคบปาบึ้มป่วน กทม.ปี 58 "วิญญัติ" เผยเหตุพยานหลักฐานโจทก์รับฟังไม่ได้ ชี้ เป็นคดีเตรียมปาระเบิด เหตุเกิดช่วงกฎอัยการศึก คสช.กลับไม่จับกุมก่อนเเต่ปล่อยเกิดเหตุ

24 มี.ค.2565 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีปาระเบิด ซึ่งได้รับโอนมาจากศาลทหารภายหลังการยกเลิกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้คดีความมั่นคงขึ้นศาลทหาร หมายเลขดำ อ.3060/2562 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสุภาพร มิตรอารักษ์, นางวาสนา บุษดี, น.ส.ณัฏฐิดา หรือแหวน มีวังปลา พยานปากเอกคดี 6 ศพวัดปทุมฯ, นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ, นายวสุ เอี่ยมละออ และนายสมชัย อภินันท์ถาวร เป็นจำเลยที่ 1-6 ในข้อหาเป็นอั้งยี่, ร่วมกันสมคบก่อการร้ายฯ, มียุทธภัณฑ์เครื่องกระสุนปืนฯ และร่วมกันใช้ให้ทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/2, 209, 288, 289, 83, 84, 91 พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55 พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 5, 7, 15, 42

โดยคำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 1 – 5 ก.พ. 2558 จำเลยที่ 1-6 สมคบกันเพื่อก่อการร้าย ตระเตรียมลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ RED5 เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุขว้างใส่สถานที่สำคัญ ในวันและเวลาที่อยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร โดยจำเลยที่ 1-6 ใช้จ้างวานนายวิเชียร ชะลอยรัมย์ ให้นำลูกระเบิดไปขว้างใส่บริเวณสวนลุมพินี , สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีจตุจักร หรือศาลอาญา แห่งใดแห่งหนึ่ง แต่นายวิเชียรมิได้กระทำการตามที่ถูกใช้ ต่อมาวันที่ 12 มี.ค. 2558 เจ้าพนักงานจับจำเลยที่ 1 ได้พร้อมระเบิดชนิดดังกล่าวจำนวน 1 ลูก เป็นของกลาง

โดยในวันนี้จำเลยทั้ง 4 เดินทางมาศาลซึ่งมีจำเลย2คนถูกคุมขังในคดีนี้เเละคดีอื่นที่เกี่ยวพันกัน

โดยภายหลังฟังคำพิพากษา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเปิดเผยว่า ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 1,2,3,5,6 ข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันตระเตรียมการหรือสมคบกันเพื่อก่อการร้าย ครอบครองยุทธภัณฑ์ พยานหลักฐานโจทก์รับฟังไม่ได้ เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานมายืนยันตามคำกล่าวอ้างของ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง และ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ (ตำเเหน่งขณะนั้น)พยานที่ซักถามในค่ายทหาร มีเพียงบันทึกซักถามเท่านั้น นอกจากนี้ การโอนเงินก็ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ว่าโอนเงินไปด้วยวัตถุประสงค์ใด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยทั้งหมด

ส่วนจำเลยที่ 4 ติดคุกมานานจึงรับสารภาพข้อหาอั้งยี่ ศาลลงโทษจำคุกจำเลยที่ 4 ตามที่รับสารภาพ 4 ปี ลดกึ่งหนึ่ง 2 ปี แต่ถูกคุมขังมา 7 ปี ส่วนข้อหาตระเตรียมหรือสมคบกันร่วมกันก่อการร้ายและข้อหาอื่นยกฟ้องเช่นกัน จึงต้องปล่อยตัวต่อไป

นายวิญญัติเปิดเผยต่อว่าสำหรับคดีนี้ทางทีมทนาย เรียกว่า คดีตระเตรียมปาระเบิด ซึ่งทั้ง 6 คน ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันเป็นอั้งยี่ ตระเตรียม สมคบกันเพื่อก่อการร้าย โดยวางแผนให้สมาชิกดำเนินการก่อเหตุขว้างระเบิด 100 จุด พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อต้องการให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือเสรีภาพของประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความหวัดกลัวและเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้นในประเทศ ก็เป็นที่น่าสงสัยเหตุใดทหาร คสช. ไม่ยับยั้งจับกุมเพื่อระงับก่อนมีการก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้นบ้านเมืองอยู่ในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก

พวกเขาถูกตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรงและถูกคุมขังมานับปี หนักที่สุด คือ จำเลยที่ 1 เป็นผู้หญิง ต้องตกเป็นจำเลย ถูกทหารเข้าบุกค้นบ้านที่จังหวัดมุกดาหาร การข่าวอ้างว่าเธอสนับสนุนทางการเงิน จากการตรวจค้นบ้านครั้งที่สอง พบมีลูกระเบิด RGD-5 ที่ไม่มีชนวนระเบิด 1 ลูก มันไม่สามารถใช้เป็นระเบิดก่ออันตรายหรือจะถือว่ายุทธภัณฑ์ที่ก่อการร้ายได้ ทำให้ต้องทุกข์ทรมานจากรัฐที่ใช้กระบวนการและอำนาจตามกฎหมายคุมขังเธอตั้งแต่ 13 มีนาคม 2558 ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ก็ยังมีจำเลยที่ 4 (ผู้ชาย)ก็ยังถูกคุมขังมาถึงปัจจุบัน

คดีนี้จึงเป็นคดีภาคต่อกับคดีปาระเบิดหน้าศาลอาญา ที่เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7มี.ค. 2558 ด้วยลูกระเบิด RGD-5 เหตุในครั้งนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีเพียงป้อม รปภ.และแท่งปูนลานจอดรถเสียหายไม่มากนัก ทันทีทันใดนั้นทหารซึ่งอ้างว่าไปดักซุ่มอยู่หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรอตะครุบตัวผู้ก่อเหตุ

ทำให้จำเลยบางคนทั้งสองคดี ถูกแยกฟ้อง 2 คดี ซ้ำซ้อนกัน ทั้งที่ตำรวจและอัยการทหารสามารถฟ้องเขาเป็นคดีเดียวได้ โดยคดีปาระเบิดหน้าศาลอาญา ซึ่งมีจำเลยในคดี 14 คน ถูกคุมขังถึงปัจจุบัน 3 คน ส่วนคนอื่นถูกคุมขังแล้วประกันตัวได้ ซึ่งคดีปาระเบิดดังกล่าวนั้น อีกไม่นานนี้ก็จะมีการอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

'แม่เสี่ยโป้' คอตกนอนคุก คดีเว็บพนัน-ฟอกเงิน หลังหลบหนีนานกว่า 3 ปี

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปราม คุมตัว น.ส.บานเย็น ชาญนรา อายุ 51 ปี มารดาของนายเสี่ยโป้ อานนท์ เป็นผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญา คดี “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น

เอาแล้ว! ศาลฯ รับคดีไว้ไต่สวน หลัง 'วีระ' ฟ้อง ป.ป.ช.ไม่เผยสำนวนนาฬิกาหรูบิ๊กป้อม

นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำเร็จไปอีกขั้น วันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตแ

'บอสพอล' คอตกนอนคุก! ศาลไฟเขียวฝากขัง ส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

‘บอสพอล’ คอตกนอนคุก หลังศาลอนุญาตฝากขังครั้งเเรก ให้การปฏิเสธทุกข้อหา เจ้าตัวยังไม่ยื่นประกัน เจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ