'ดร.สมเกียรติ' เปิด บันทีกงานเลี้ยงของสถานทูตสหรัฐที่คอนราดปี2558 เป็นดีลหนื่งในนโยบายโลกล้อมประเทศหรือเปล่า หวังจุด สงครามกลางเมือง แต่ทำไมไทยไม่เป็นยูเครน เพราะเราคือคนไทยแปดปีที่แล้วสู้ยิบตา
23 มี.ค.2565 - ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
January 31, 2015 ·
"บันทีกงานเลี้ยงของสถานทูตสหรัฐที่คอนราด พศ 2558
………………………………………………………………
ทำไมไทยไม่เป็นยูเครน เพราะเราคือคนไทย
แปดปีที่แล้ว สู้ยิบตา
……………………………………………………
หนื่ง เราเชิญเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น ผมนืกถืงคำพูดของของทูตสหรัฐประจำกัมพูชาก่อนเขมรแดงเข้ายืด นาย จอห์น กันเธอร์ ดีนที่พนมเปญ นายบังเกอร์และนายเกรแฮม มาร์ติน ทูตสองคนหลังสุดที่ไซ่ง่อน เวียดนามใต้ ยุคนั้น คำว่า Friends of USA พูดกันบ่อยมาก มีงานเลี้ยงของสถานทูตทุกปีแบบที่ไทยนี่แหละ
สอง เมื่อผมนั่งดูรูปถ่ายคนที่ไปงานหลายคน ใจผมนืกไปถืงเหงียน เกา กี เหงียน วัน เทียวแห่งเวียดนามใต้ นายพล ลอน นอลของกัมพูชา พวกเขาเคยทำแบบเดียวกันนี้ และได้รับคำมั่น สัญญาต่างๆจากอเมริกา รบให้อเมริกาเต็มที่
หลายคนอายุน้อยเกินกว่าจะรู้เรื่องราวยุคนั้น ใช่ไหม
หลังเวียดนามแตก อเมริกันกลับบ้าน เหงียน เกา กี ไปเปิดร้านขายเหล้าที่อเมริกา ร้องให้ บอกเรื่องลับต่างๆ หนังสือที่เหงียน เกา กี เขียน พงษ์ พินิจแปลเป็นไทย ชื่อ สิ้นชาติ
สาม ผมสงสัยว่านักการเมืองที่เดินเข้าไป เข้าใจแผนปฏิบัติการของสถานทูตสหรัฐในไทยหรือเปล่า เข้าใจหรือไม่ว่าตนเองเป็นตัวประกอบในภาพยนต์เรื่องใหม่ที่มีสคริปต์ว่าอย่างไร รหัสย่อ คือ สงครามกลางเมือง
สี่ เมื่อดูผู้ยืนต้อนรับเรียงลำดับ น่าสนใจว่าอุปทูตฝ่ายการเมือง เศรษฐกิจ ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายกิจการพิเศษ. ฝ่ายค้ามนุษย์ พวกคีย์เพอร์ซันทั้งหลาย มีผู้หญิงหลายคนมาก ปกติ ผู้หญิงอเมริกันได้ขื้นสู่ตำแหน่งบริหารแค่14% ต่างจากไทยที่อยู่ราว 43%
ถ้าพูดอย่างแซวกันก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมสังคมอเมริกันจืงให้ผู้หญิงขื้นตำแหน่งบริหารน้อย ดูจากบทบาทของทูตคิตตี้ เป็นพวก พูดเยอะ หยุมหยิม สร้างเรื่องมากไปหรือเปล่า ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อยากเอาชนะเพื่อศักดิ์ศรีตนเองมากไปหรือเปล่า
ห้า เมื่ออ่านรายงานที่ฝ่ายการเมืองเอเชียตะวันออกรายงานต่อสภาผู้แทนสหรัฐ ว่า สถานทูตอเมริกาในไทยมีกำลังคนถืงสาม สี่พันคน ผมตกใจมาก
เข้ามาตอนไหน มาทำอะไร ใครอนุมัติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น่าจะสองสามปีนี่แหละ แล้วไปอยู่กันที่ไหน พื้นที่สถานทูตมีไม่พอแน่นอน นับรวมกงสุลในจังหวัดต่างๆด้วยแล้วนะ
สถานทูตที่กำลังคนมากๆก็มีอิรัก ปากีสถาน เยอรมัน ไฮติ ไทย พื้นที่สงครามทั้งนั้น ในแต่ละภูมิภาค ถ้าแถวละตินก็เม็กซิโก โคลัมเบียที่ตั้งฐานสู้กับขบวนการโคเคน FARC. และพวกขนคนเข้าอเมริกา
คำถามคือ อเมริกามาทำอะไรกันมากมายที่เมืองไทย
@
อเมริกาทิ้งเอเชียไปสี่สิบปีที่แล้วหลังสงครามเวียดนาม
ไปฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจเป็นสิบปี ไปเชียร์การตั้งอียู ไปตั้งเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ไปหาทางยืดบ่อน่ำมันในตะวันออกกลาง
กลับไปสนับสนุนปากีสถานรบกับตาลิบัน ไปรบกับอิรักเมื่อ20 ปีที่แล้ว จนถูกโจมตีเวิลด์ เทรด เซนเตอร์ เพนตากอน เมื่อปี 2001 เมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว
เกิดวิกฤติ subprime ในปี 2008 เมื่อ 7 ปีที่แล้ว
เป็นช่วงที่เอเชียเจริญ มีสันติภาพ มีอาเซียน ไม่มีสงครามใหญ่ ก็มีเหมือนกันนะสงครามไทย เวียดนาม ไทย กัมพูชา จีน เวียดนามไรงี้
……………………………
ดังนั้น
ผมจืงทีกทักเอาว่า มิสชั่นของสถานทูตที่ทูตคิตตี้เพิ่งย้ายมาเมื่อปี 2011 คือ
หนื่ง ต่อสู้กับอิสลามทั่วเอเชีย ในสงครามก่อการร้าย บทบาทของรัฐบาลที่ผ่านๆมาเรื่องนี้ ทำให้ไทยเดือดร้อนมาเก้าปีแล้ว นโยบายที่น่าสนใจคือญี่ปุ่น ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมในสงครามของยูเอ็น บทบาทของมาเลเซียน่าสนใจ
สอง นโยบายปิดล้อมจีนที่เรียกว่า pivot policy อันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมามากมาย
สาม การบีบให้ทำสัญญาการค้าเสรี เขตปาซิฟิก เนื้อหาว่าอย่างไรต้องอ่านวิกิลีกส์ เป็นสัญญาที่ผู้เซ็นต์ไม่ได้อ่านเนื้อหาของสัญญา เขาไม่ให้อ่าน แปลกมาก
วางแผนให้ประเทศย่านนี้ลงนามให้เสร็จ ภายในมิถุนายนหน้า จืงต้องบีบไทย และมาเลเซียด้านการค้า เทียร์ 3
สี่ อเมริกาจะมาเป็นจ้าวในเอเชียอีกครั้งได้ ต้องแบ่งแยกอาเซียน เป็นเสี่ยง ไม่งั้นอเมริกาไม่มีที่ยืน
จะกลับไปสู่ยุคเก่าได้ อาเซียนต้องแตก อเมริกาคุม จุดที่ต้องคุมคือประเทศไทย เอาไว้เป็นฐานทัพ
ต้องมีรัฐบาลที่ยอมเป็นสมุนชัดเจน ทำตามคำสั่ง ตอนนี้จืงโชว์ใหญ่ ฟิลิปปินส์ไปเรียบร้อย จะเอาออสเตรเลียมาคุมอินโด มาเลย์ สิงคโปร์
ห้า นอกจากนโยบายของโอบาม่า ความต้องการส่วนตัวของทูตก็สำคัญ ปกติอยู่ได้เพียงสามปี คงต้องการอยู่ต่อ พยายามสร้างชื่อเสียง แบบสามีเคยทำที่เวเนซูเอล่า
สามีทูตคิตตี้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านการปราบยาเสพติดและการบังคับใช้กฏหมาย สายforeign service บวกการเมือง
ผมหวังว่านักการเมืองไทยที่เดินเข้าไปที่คอนราด จะเข้าใจเรื่องพวกนี้
พวกคุณต้องตอบว่าทำไมกำลังพลของสถานทูตจืงมโหฬารเป็นอันดับสอง สามของโลกเช่นนี้ เป็นดีลหนื่งในนโยบายโลกล้อมประเทศหรือเปล่า รัฐสภาไทยเคยรู้บ้างไหม
ประเทศใดที่อเมริกาเข้าไปอยู่มาก จุดมุ่งหมายก็เพื่อสร้างสงครามในประเทศนั้น
ดูเวียดนาม อิรัก ปากีสถาน ไฮติ ละกัน ทำไมจืงให้เขามามากมายเช่นนี้ ต้องอธิบาย
ไม่อ่านหนังสือพิมพ์กันบ้างหรือไร
@
จะรักษาประเทศไทยกันอย่างไร
ต่อให้มีหรือไม่มีประชาธิปไตย ประเทศไทยจะถูกกดดัน วิธีคุมประเทศไทยง่ายสุด คือเร่งให้เกิดสงครามกลางเมือง จะได้อาศัยยูเอ็นเข้ามา ตอนนี้ยั่วยุให้เกิดเรื่องในประเทศนี้
ประชามติของคนไทยทั้งประเทศต้องหนักแน่นว่าไม่ต้องการ
สงครามกลางเมือง ไม่ต้องการกำลังยูเอ็น รู้ทันแผนของอเมริกา
นักการเมืองทุกฝ่ายต้องไม่ทำตัวเป็นเครื่องมือ งี่เง่าเหมือนนักการเมืองเวียตนามใต้ เขมรยุคนั้น อย่าขายชาติ
ต้องเร่งสร้างระบบที่นักการเมืองไม่เอาประเทศไปขายต่างชาติ
สื่อมวลชนต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือ
หวังว่ากลไกอาเซียนจะเข้าใจแผนร้าย จับมือกันให้แน่น
หวังว่า นโยบายอเมริกาจะเปลี่ยนหลังยุคโอบามา หวังว่าสถานทูตจะมีคนทำรายงาน ริเริ่มสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายในอนาคต ไม่พยายามสร้างเรื่อง
เพราะมีวิธีการที่ง่ายกว่ามาก
หวังว่าเศรษฐกิจอเมริกา จะทำให้นักการเมืองอเมริกาทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวมากขื้น
หวังว่า นายไกต์เนอร์ จะมาคุมนโยบายเอเชียแทนคนปัจจุบัน
ช่วงนี้ คนไทยทั้งประเทศต้องรู้ทันครับ"
=====
เรารู้ทัน เราสู้มานานแล้ว ก่อนยูเครน
สู้ขาดใจ สู้แบบผู้รักชาติ patriotPatriot
ขอบคุณเพื่อนเฟสที่ช่วยกันบอกเล่าเรื่องราว ช่วยระดมสติปัญญา ช่วยคิด ช่วยทำ ลงมือทำ กันมานานมาก
นี่คือพลังรักษาชาติของคนไทย
เพื่อป้องกัน ภยันตรายต่อพี่น้องไทย ลูกหลานไทย รักษามาตุภูมิ
นี่คือเหตุที่ยังเขียนเพจอยู่จนอายุปูนนี้แล้ว
ดีใจที่ประเทศไทยยังอยู่ ลูกหลานไทยยังมีประเทศไทย นี่คือรางวัลที่ได้
นี่คือผลงานของพวกเราทุกคน ทุกๆคน
สู้ที่นี่ สู้ตรงนี้ สู้จนตาย สู้มานานแล้ว
กูไม่กลัวมึงดอก
รักเธอประเทศไทย
………
ประเทศไทยต่างจากยูเครน เพราะคนไทยไม่ใช่คนยูเครน
เขียนด่าอย่างล้ำลึกไว้ตั้งหกสิบโพสท์
มาแกล้งไทยอีกจะ ถล่มรายชัวโมงได้เลย