นายกฯ ลงนามดันสาธารณสุขดิจิทัลเข้าถึงประชาชน

'บิ๊กตู่' ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาเพิ่มคุณภาพการบริการด้านการแพทย์ฯ 12 หน่วยงาน เชื่อมโยงนวัตกรรม-บิ๊กดาต้า ผลักดันระบบสาธารณสุขดิจิทัลเข้าถึงชาวบ้าน

17 มี.ค.2565 - ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาเพิ่มคุณภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เชื่อมสัญญาณไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาฯ, พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. และ นพ.อุดม คชินทร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการสาธารณสุข รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาเพิ่มคุณภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีของการพัฒนาด้านสาธารณสุขของไทยอีกระดับหนึ่งจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลกกระทบด้านสุขภาพและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลและแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เราเร่งพัฒนาระบบบริการและบริหารจัดการของประเทศในทุกด้านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบบริการสุขภาพประชาชนที่ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงระบบบริหาร บริการด้านสาธารณสุขของประเทศ คือเทคโนโลยีในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้า แต่การนำข้อมูลเหล่านั้นมาช่วยบริหารจัดการและวิเคราะห์เพื่อพัฒนางานบริหารนั้นจะต้องอาศัยการเชื่อมโยงฐานข้อมูล และการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่นำร่องเชื่อมโยงระบบข้อมูลด้านสุขภาพผ่านระบบเฮลท์ลิ้งค์ปัจจุบันมีโรงพยาบาลกว่า 100 แห่งที่เข้าร่วมและจะสามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลได้สำเร็จทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเจ็บป่วยไปรักษาที่ใดแพทย์จะสามารถตรวจสอบประวัติการรักษาและการรักษาจะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ขอขอบคุณคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันการปฏิรูปจัดการฐานข้อมูลและการสื่อสารของประเทศให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน ตนหวังว่าระยะต่อไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันผลักดันให้เกิดแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสุขภาพของประเทศเพื่อสร้างรากฐานระบบสาธารณสุขของประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า จากข้อตกลงของ 12 หน่วยงาน นับเป็นก้าวสำคัญที่เราจะสร้างคลังข้อมูลด้านสาธารณสุขขนาดใหญ่ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสุขภาพในการให้บริการด้านสาธารณสุขของประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกภูมิภาคของประเทศได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงและเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างเที่ยงธรรม ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน ตนขอให้ความพยายามของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำพาไปสู่การปฏิรูปประเทศตามเจตจำนงที่ตั้งใจไว้ และสร้างการบริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในอนาคตต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

"อนุทิน" ประธาน MOU 3 หน่วยงาน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา และกำลังคนทุกช่วงวัย สร้างกำลังคนสมรรถนะสูงขับเคลื่อนประเทศ

วันนี้ (18 กรกฎาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษาและกำลังคนทุกช่วงวัย ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

'รังสิมันต์-มาริษ'โต้เดือดปมธนาคารไทยมีเอี่ยวช่วยซื้ออาวุธให้รัฐบาลเมียนมา!

'โรม' จี้ถามจุดยืนประเทศ หลังมีแฉธนาคารในไทย เอี่ยวใช้ธุรกรรมการเงินฆ่าชาวเมียนมา ซัด รบ.ต้องชัดเจน ด้าน 'รมว.กต.'โต้ไม่พบหลักฐานธนาคาร-รัฐบาลไทยเข้าไปเอี่ยว รับการคว่ำบาตรเป็นเรื่องยาก