ต่อต้านโลกร้อนแพ้คดี! ศาลปกครองกลางยกฟ้อง 'ผู้ว่าฯกทม.' ละเลยปล่อยสร้างอาคารชินวัตร 4

16 มี.ค.2565 - ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม36ราย ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยอยู่ในอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียม ซ.พหลโยธิน 8(ซอยสายลม) ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพฯและพวกรวม 4 ราย กรณีละเลยต่อหน้าที่ไม่ควบคุมการก่อสร้างอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 4 จนทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษทางเสียงฝุ่นละอองและทำให้ระบบโครงสร้างของอาคารชุดสายลมคอนโดเสียหาย

โดยศาลฯให้เหตุผลว่าในการก่อสร้างงานฐานรากของอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 4 ที่บริษัทเอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน )เป็นผู้ดำเนินการได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือวิธีการที่กำหนดไว้ในรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว ส่วนการขุดดินเพื่อทำเข็มเจาะวางฐานรากเพื่อทำตอม่อเสาอาคารก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 15 ของกฎกระทรวงฉบับที่ 4(พ.ศ.2526)ที่ออกตามความในพ.ร.บควบคุมอาคาร 2522

ส่วนที่ผู้พักอาศัยในอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี อ้างว่าระหว่างการก่อสร้างมีฝุ่นละอองจำนวนมากเข้ามาภายในอาคารชุดทำให้เกิดมลพิษและมีอาการเจ็บป่วย เห็นว่า บริษัท เอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน )เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรื่องคุณภาพอากาศตามที่EIAกำหนดไว้ โดยหลังจากงานก่อสร้างฐานรากเสร็จสิ้นพบว่ามีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป ส่วนกรณีที่ผลตรวจวัดฝุ่นละอองบริเวณอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียมที่มีค่าเกินมาตรฐานช่วงเดือนธ.ค.57จำนวน 5 จำนวน 5 วันที่เกินมาตรฐานดังกล่าวหากเป็นเหตุให้ผู้พักอาศัยเกิดอาการเจ็บป่วยย่อมต้องอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ไม่ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวผู้พักอาศัยที่เป็นผู้ฟ้องคดีมีอาการเจ็บป่วยจากฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน โดยจากหลักฐานเกี่ยวกับการขอรับการรักษาพยาบาลของผู้พักอาศัยซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีก็ยังไม่อาจฟังได้ว่าอาการเจ็บป่วยดังกล่าวเกิดจากการก่อสร้างอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 4

นอกจากนี้หลังจากผู้อำนวยการเขตพญาไทได้รับหนังสือร้องเรียนถึงความเดือดร้อนของผู้พักอาศัยจากนิติบุคคลอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียมก็ได้มีการมอบหมายให้ฝ่ายโยธาดำเนินการตรวจสอบและแก้ไข โดยเมื่อบริษัทเอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน )ได้รับแจ้ง ก็ดำเนินการหามาตรการป้องกันและเยียวยาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆจนบรรเทาลง จึงเห็นได้ว่าผู้อำนวยการเขตพญาไทซึ่งปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพฯไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ จึงไม่ได้กระทำละเมิดและไม่จำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นจำกัดมหาชนได้ทำการก่อสร้างอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 4 เสร็จเรียบร้อยแล้วและเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกใบรับรองการก่อสร้างอาคารลงวันที่ 7 ม.ค. 60 ให้กับบริษัทฯแล้ว ศาลจึงให้คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาสิ้นผลไปนับแต่วันศาลมีคำพิพากษา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ครช.' บุกกกต.จี้ให้เลื่อนการเลือกสว.จนกว่าศาลรธน.มีคำวินิจฉัย เตือนผิดม.157

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงานคณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขลงรับที่ 7414 โดยเนื้อหาในหนังสือระบุ

กกต. ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ยันไม่แก้ไขระเบียบแนะนำตัวผู้สมัคร สว.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ผู้สมัคร สว. ยื่น 4 ข้อ จี้ กกต.ห้ามอุทธรณ์คำสั่งศาลปค.กลาง เพิกถอนกฎเหล็ก 

ผู้สมัคร สว. ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ จี้กกต.ห้ามอุทธรณ์คำสั่งศาลปค.กลาง  หลังมีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบแนะนำตัวบางส่วน เพื่อให้คำสั่งมีผลทันที ให้ทุกคนแนะนำตัวอย่างเท่าเทียม

ระเบียบแนะนำตัว สว. ส่อวุ่น ตุลาการผู้แถลงคดี เสนอองค์คณะเพิกถอน 5 ข้อกำหนด

ศาลปกครองกลาง ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการสำนักข่าวประชาไท และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และพวก