'เลขาครป.' ชี้ 'บิ๊กตู่' ฟังคำเตือน 'อานันท์' หมดเวลาทหารการเมือง

แฟ้มภาพ

“เลขา ครป.” ชี้ “บิ๊กตู่”เดิมพันปิดประวัติศาสตร์ตัวเองด้วยเก้าอี้ประธานเอเปค ด้วยดีลจัดสรรผลประโยชน์มหาศาล จี้ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน สิ้นเดือนนี้ เตือนฟัง “อานันท์” หมดเวลาทหารการเมือง ต้องยอมเสียสละเพื่อชาติบ้าง

13 มี.ค.2565 – นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยวันนี้ว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นัดคุยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่มีคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมานั้น ประเด็นหลักที่หารือกันคือการขอให้ทุกพรรคร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน กอดคอกันไปให้ถึงการประชุมเอเปคปลายปีให้ได้ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ อยากปิดท้ายประวัติศาสตร์ตนเองด้วยการเป็นประธานเอเปคก่อนลงจากอำนาจ ซึ่งการขอซื้อเวลาดีลนี้แลกเปลี่ยนมาด้วยผลประโยชน์มหาศาลที่ให้ไฟเขียวแต่ละพรรคไปจัดสรร

นายเมธา ระบุว่า แต่พล.อ.ประยุทธ์ คงจะฝันค้าง คิดจะหักหาญน้ำใจคนไทยที่ยังให้โอกาสสุดท้ายด้วยความเบื่อหน่ายอย่างมากแค่กลางปีนี้ คิดจะปฏิเสธเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ 8 ปี โดยจะส่งคนไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตามที่ออกแบบไว้ในช่วงกลางปีเพื่อสืบทอดอำนาจฉ้อฉลต่อไป ตนเองคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้วที่คนไทยจะยอมอดทนให้พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจอยู่ต่อไปไม่สิ้นสุดและทำลายอนาคตคนไทยต่อไปเรื่อยๆ

“เส้นด้ายสุดท้ายคือกลางปีนี้ หลังผ่านกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง รวมถึงการโยกย้ายโผทหารผ่านไป ทุกอย่างคงมีคำตอบ ถ้าขีน พล.อ.ประยุทธ์ ลากยาวอยากเป็นนายกฯ ต่อไป บ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤตขึ้น หรือเขาต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารอีกรอบ ซึ่งหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่บ้าจี้ตามเงื่อนไขเหล่านั้น เพื่อให้พัฒนาการประชาธิปไตยไทยเดินหน้าเหมือนนานาอารยประเทศ” นายเมธา ระบุ

นายเมธา ระบุว่า ตนเองเห็นด้วยความความเห็นของคุณอานันท์ ปันยารชุน ที่ออกมาพูดว่าหมดเวลาของพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ควรให้คนรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับและมีความสามารถขึ้นมาบริหารแทน 30 ปีพฤษภา 35 หมดเวลาของทหารการเมืองแล้ว ยอมเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองบ้าง ถึงจะคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทยและเกิดการปรองดองของคนในชาติ ความไร้ความสามารถในการเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ คือ ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้โดยไม่ใช้อำนาจพิเศษ เป็นนายกฯ ปกติได้เพียงไม่ถึงปี ก็ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ มาจะครบ 2 ปีในวันที่ 26 มีนาคมนี้แล้ว หลังขยายเวลามาตลอดถึง 16 คราวจนถึง 31 มีนาคมนี้ ผมขอเรียกร้องให้หลังสิ้นเดือนมีนาคม 2565 นี้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องยกเลิกการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ อีกต่อไป เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาใช้กฎหมายปกติ ยุติการยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียวมาตลอด 2 ปีลง เพื่อให้ผู้อื่นได้ร่วมบริหารบ้านเมืองบ้าง

“เคารพความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม บ้าง แม้แต่สหประชาชาติ ยังเคยเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ควรจำกัดเสรีภาพการชุมนุมของประชาชน โดยอ้างสถานการณ์โรคระบาด รัฐไม่อาจใช้โรคระบาดโควิด-19 มาเป็นเหตุผลในการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพการชุมนุมของประชาชนได้ แต่นี่ประชาชนนออกมาใช้เสรีภาพในการชุมนุมประท้วงรัฐบาล ถูกข้อหาละเมิด พรก.ฉุกเฉินฯ มากกว่า 1,445 คนแล้ว” นายเมธา ระบุ  

นายเมธา ระบุว่า ผลงานของรัฐบาลประยุทธ์ในตอนนี้คือ ทำให้บ้านเมืองไร้ขื่อแปร คุณค่าทางสังคมล้มเหลว นักการเมือง-ผู้มีอำนาจไร้คุณธรรมจริยธรรม ข้าราชการฉ้อฉล กระบวนการยุติธรรมเลือกปฏิบัติ ตำรวจเล่นเกมยุติธรรมอำพรางกันถ้วนหน้า คดีแตงโมก็ไม่ต่างกัน บันทึกภาพและเสียงการสอบสวน รวมถึงกล้องวงจรปิดริมน้ำเจ้าพระยามากมายทำไมไม่นำเข้าประกอบสำนวนสอบสวนให้ครบทั้งหมด เกิดการสร้างกระแสข่าวไม่ต่างจากคดีน้องชมพู่-ลุงพล เพื่อปฏิบัติการข่าวสารจากความสนใจของประชาชน เพื่อลดทอนข่าวการเมืองที่สำคัญหลายเรื่องที่บั่นทอนรัฐบาล

“ วันนี้รัฐบาลใช้กลศึกลวง ปล่อยข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนขัดแย้งแตกแยกกันทั้งคดีแตงโม ทั้งเรื่องสงครามยูเครน-รัสเซีย ปล่อยปฏิบัติการข่าวสารสับสนจนทะเลาะกันเองทั่วประเทศ สำหรับประชาชนไทยแล้ว ข่าวสารปฏิบัติการชวนเชื่อเพื่อสนับสนุนสงครามและปฏิบัติการทหารควรจะต้องยุติ เพราะอาจเท่ากับการสนับสนุนให้เกิดสงครามทางอ้อม ความขัดแย้งภายในประเทศใดประชาชนในประเทศนั้นควรเป็นผู้จัดการประเทศตนเอง ตามหลัก self-determination ซึ่งถือประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจกำหนดการปกครองตนเอง โดยกลไกระหว่างประเทศ ประชาคมโลก และมนุษยชาติ สามารถเข้ามาสนับสนุนภารกิจเพื่อมนุษยธรรมและการยุติความรุนแรงทางอาวุธร่วมกัน” นายเมธา ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แพทองธาร’ ยันพรรคร่วมไร้ปัญหา หลังภาพ 'ทักษิณ-อนุทิน' ออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน

ความจริงแล้วตนและนายอนุทิน ก็คุยกันอยู่แล้ว ถึงจะมีปัญหาอะไรก็คุยกันเคลียร์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆถึงเวลาถ้ามีอะไรก็คุย

การเมืองมกรา’68 พรรคร่วมร้อนรุ่มแตกหัก ‘ทักษิณ’ หนาวสะท้านชั้น 14

ทักษิณขยี้หนัก โชว์ภาพตีกอล์ฟขนาบข้างทุนผูกขาด ส่อสื่อสัญญาณรุก “พีระพันธุ์-รวมไทยสร้างชาติ” คาดชะตากรรมไม่แตกต่าง “ประวิตร-พปชร.” ประเมินปี 68 ปมชั้น 14 ทำการเมืองร้อนแรง

'นายกฯอิ๊งค์' ตอกย้ำ 'ทักษิณ' มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล-เพื่อไทย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เสียโอกาส การที่นายทักษิณออกมาสับแหลกพรรคร่วมรัฐบาล

ขอดเกล็ดทักษิณ หลอนในอำนาจผูกขาด

“สุริยะใส” ชำแหละทักษิณ ตกอยู่ในภาวะ หลอนในอำนาจผูกขาดที่การเมืองไม่เหมือนขั้วอำนาจเดียว ขับเคลื่อนด้วยระบอบทักษิณ แต่อยู่ภายใต้โครงสร้างพรรคร่วมที่ซับซ้อน

'นฤมล' ชิ่งภูนับดาว อ้าแขนรับเพื่อนพลังประชารัฐสุมหัวกล้าธรรม

“นฤมล” รอกระบวนการกม. ก่อนรับสส.พปชร. ร่วมพรรคกล้าธรรม ลั่น แม้เสียงในมือเพิ่ม แต่ไม่ต่อรอง ย้ำ ไม่มีดีลไร่ภูนับดาว ปัดตอบปม ”ทักษิณ“ ติงพรรคร่วมเป็นอีแอบ แจง"อัครา" ลา เหตุป่วยจริง