'ดร.ภูมิ มูลศิลป์' ทนไม่ไหวเห็นทนายความหิวแสงตามสื่อต่างๆ เต็มไปหมด งัดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ17 ข้อ เตือนสติ หากกระทำตามนี้ถือว่าประพฤติผิดมรรยาททนายความ
9 มี.ค.2565 - ดร.ภูมิ มูลศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร และคณะกรรมการสมานฉันท์ รัฐสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังนี้
ช่วงนี้เดินไปไหนก็มีแต่คนถามถึงบทบาทของทนายความว่า มีเพียงใดเนื่องจากเห็นทนายความหิวแสงตามสื่อต่างๆ เต็มไปหมด
ผมไม่ออกความเห็นนะครับ แต่อยากบอกว่า วิชาชีพทนายความเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมีมรรยาทกำกับอยู่ หากทนายความผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ จะถือว่าทนายความผู้นั้นประพฤติผิดมรรยาททนายความครับ
1. ไม่รับหน้าที่เมื่อผู้พิพากษาได้ขอแรงให้เป็นทนายความแก้ต่างในคดีอาญา เว้นแต่จะมีข้อแก้ตัว โดยสมควร
2. ไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล หรือกระทำการใดอันเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในศาลหรือนอกศาล อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียอำนาจผู้พิพากษา
3. กล่าวความ หรือทำเอกสารหรือหลักฐานเท็จ หรือใช้อุบายลวงให้ศาลหลงหรือกระทำการใด เพื่อทราบคำสั่ง หรือคำพิพากษาของศาลที่ยังไม่เปิดเผย
4. สมรู้เป็นใจโดยตรงหรือทางอ้อม เพื่อทำพยานหลักฐานเท็จ หรือเสี้ยมสอนพยานให้เบิกความเท็จ หรือโดยปกปิดซ่อนงำอำพรางพยานหลักฐานใดๆ ซึ่งควรนำมายื่นต่อศาล หรือสัญญาจะให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน หรือสมรู้เป็นใจในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน
5. กระทำการใดอันเป็นการยุยงส่งเสริมให้มีการฟ้องร้องคดีกันในกรณีอันหามูลมิได้
6. ใช้อุบายอย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวต่อไปนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีว่าต่างหรือแก้ต่าง
- หลอกลวงให้เขาหลงว่าคดีนั้นจะชนะ เมื่อตนรู้สึกแก่ใจว่าจะแพ้
- อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความอื่น
- อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้เขาหลงว่าตนสามารถจะทำให้เขาได้รับผลเป็นพิเศษ นอกจากทางว่าความ หรือหลอกลวงว่าจะชักนำจูงใจให้ผู้นั้นช่วยเหลือคดีในทางใดๆได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนว่าคดีนั้นแล้วจะหาหนทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขาเป็นแพ้
7. เปิดเผยความลับของลูกความที่ได้รู้ในหน้าที่ของทนายความ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกความนั้นแล้ว หรือโดยอำนาจศาล
8. กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้ อันอาจทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของลูกความ
- จงใจขาดนัด หรือทอดทิ้งคดี
- จงใจละเว้นหน้าที่ที่ควรกระทำอันเกี่ยวแก่การดำเนินคดีแห่งลูกความของตน หรือปิดบังข้อความที่ควรแจ้งให้ลูกความทราบ
9. ได้รับปรึกษาหารือ หรือได้รู้เรื่องกรณีแห่งคดีใดโดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายหนึ่ง แล้วภายหลังไปรับเป็นทนายความหรือใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือคู่ความ อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นปรปักษ์อยู่ในกรณีเดียวกัน
10. ได้รับเป็นทนายความแล้ว ภายหลังใช้อุบายด้วยประการใดๆ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เพื่อจะให้ตนได้รับประโยชน์นอกเหนือจากที่ลูกความได้ตกลงสัญญาให้
11. กระทำการใดอันเป็นการฉ้อโกง ยักยอก หรือตระบัดสินลูกความ หรือครอบครอง หรือหน่วงเหนี่ยวเงินหรือทรัพย์สินของลูกความที่ตนได้รับมาโดยหน้าที่อัน เกี่ยวข้องไว้นานเกินกว่าเหตุ โดยมิได้รับความยินยอมจากลูกความ เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร
12. แย่ง หรือกระทำการใดอันเป็นลักษณะประมูลคดีที่มีทนายความอื่นว่าต่างแก้ต่างอยู่แล้วมาว่า หรือรับ หรือสัญญาว่าจะรับว่าต่าง แก้ต่าง ในคดีที่รู้ว่ามีทนายความอื่นอยู่แล้ว เว้นแต่
- ได้รับความยินยอมจากทนายความที่ว่าความอยู่ในเรื่องนั้นแล้ว
- มีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่าตัวความได้ถอนทนายความคนก่อนจากการเป็นทนายความของเขาแล้ว หรือ
- ทนายความผู้ว่าความในเรื่องนั้นปฏิเสธ หรือแสดงความไม่สมัครใจที่จะว่าความในคดีนั้นต่อไปแล้ว
13. ประกาศโฆษณา หรือยอมให้ผู้อื่นประกาศโฆษณาใดๆ ดังต่อไปนี้
- อัตราค่าจ้างว่าความ หรือแจ้งว่าไม่เรียกร้องค่าจ้างว่าความ เว้นแต่การประกาศโฆษณาของทนายความที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ซึ่งดำเนินการโดยสภาทนายความเอง หรือโดยสถาบัน สมาคม องค์การ หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หรือ
- ชื่อ คุณวุฒิ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงาน อันเป็นไปในทางโอ้อวด เป็นเชิงชักชวนให้ผู้มีอรรถคดีมาหาเพื่อเป็นทนายความว่าต่าง หรือแก้ต่างให้ เว้นแต่การแสดงชื่อ คุณวุฒิ หรืออื่นๆ ดังกล่าวตามสมควรโดยสุภาพ
14. ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ
15. ยินยอมตกลง หรือให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ค่านายหน้าหรือบำเหน็จรางวัลใดๆ ด้วยทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ แก่ผู้ที่หาคดีความหรือนำคดีความมาให้ หรือมีคนประจำสำนักงานดำเนินการจัดหาคดีความมาให้ว่า โดยทนายความผู้นั้นคิดค่าส่วนลดของค่าจ้างให้ หรือให้เงินเดือน หรือเงินจำนวนหนึ่งจำนวนใด หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อย่างใดๆ แก่ผู้ทีหาคดีความมาให้นั้น แม้บุคคลผู้หาคดีความมาให้ในลักษณะดังกล่าวจะเป็นเสมียนหรือลูกจ้างประจำ สำนักงานของทนายความผู้นั้นก็ตาม
นอกจากนั้น ทนายความต้องกระทำการดังกล่าวต่อไปนี้ หากทนายความผู้ใดไม่กระทำ ให้ถือว่าทนายความผู้นั้นประพฤติผิดมรรยาททนายความ
16. ในเวลาว่าความ ทนายความต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- ทนายความชาย แต่งตามแบบสากลนิยม เป็นชุดสีชาว หรือสีอื่นที่ไม่ฉูดฉาด เชิ้ตยาว ผ้าผูกคอสีดำหรือสีอื่นที่สุภาพไม่ฉูดฉาดแบบเงื่อนกลาสี หรือแต่งเสื้อชุดไทยแบบแขนสั้นหรือยาว สีสุภาพไม่มีลวดลายแทนเสื้อชุดสากลก็ได้ รองเท้าหุ้มส้นสีขาว น้ำตาลหรือดำ ถุงเท้าสีคล้ายคลึงกับรองเท้า
- ทนายความหญิง แต่งตามแบบสากลนิยม กระโปรงและเสื้อสีสุภาพไม่ฉูดฉาด รองเท้าหุ้มส้น
- ทนายความที่มีสิทธิแต่งเครื่องแบบราชการ จะแต่งเครื่องแบบราชการก็ได้
- ในขณะว่าความ ทนายความที่มีสิทธิสวมเสื้อครุยเนติบัณฑิต ต้องสวมเสื้อครุยนั้นด้วย
17. ทนายความจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของสภานายก พิเศษแห่งสภาทนายความ คณะกรรมการสภาทนายความ และคณะกรรมการมรรยาททนายความ ตลอดจนบรรดาข้อบังคับหรือข้อกำหนดที่บุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวได้สั่งหรือ มีไว้ แล้วแต่กรณี ตามอำนาจหน้าที่ซึ่งมีอยู่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาทนายความ ร่อนแถลงการณ์แจงกรณี 'มรรยาททนายความ'
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงการดำเนินคดีมรรยาททนายความ ระบุว่าตามที่สื่อมวลชนและสังคมให้ความสนใจ
'ทนายโซเชียล' เปิดศึกกรรมการมรรยาททนาย 'จุ๊กกรู๊' โวลั่นจะชิงลงมือก่อน!
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” โพสต์ข้อความเมื่อวานนี้ว่า "นั่งกินข้าวต้มหลังเลิกงานครับ ผมได้ข่าวมาว่ามีพวกทนายความบางคนเดินสายออกทีวี
'บิ๊กเต่า' เผยเร่งสืบสวนปมทนายชื่อดังเรียกเงินบอสพอล 7.5 ล้าน
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายวิฑูรย์ เก่ง
'ทนายนิด้า' เปิดแชตไลน์ 'ทนายตั้ม' ชวนใปงานศพ 'แตงโม' โต้ ใครหิวแสง
น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโต้เรื่องทนายหิวแสง ว่า
ทนายหิวแสงหนาว! นายกสภาทนายความลั่นไม่เอาไว้
นายกสภาทนายความลั่น ไม่ปล่อยทนายหิวเเสง ฉ้อโกงลูกความ เผยประสาน ปธ.กก.มรรยาทตรวจสอบด่วน ขอประชาชนมั่นใจเป็นทนายส่วนน้อย อึ้ง! ตรวจสอบพบบางคนโดนร้องกว่า 20 คดี
'อนุทิน' แจงรูปคู่ 'ทนายตั้ม' บังเอิญเจอกันที่ฮ่องกง อย่าโยงมั่วเอี่ยวเว็บพนัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีปรากฏภาพถ่ายกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดที่ฮ่องกง ว่าเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วช่วงหลังเลือกตั้ง ซึ่งตั้งตนเดินทางไปกับครอบครัวและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ