'อนุสรี' เปิดใจโค้งสุดท้าย อ้อนคะแนนเสียง ขอภูมิใจไทย อาสารับใช้ประชาชน

13 พ.ค.2566- เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่ลานหน้า Show DC ถนนพระราม 9 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทยได้ถ่ายทอดความรู้สึกจากใจภายหลังการปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยก่อนวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

นางสาวอนุสรี กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยขออาสาทำงานให้คนกรุงเทพ และทุกจังหวัด ด้วยประสบการณ์ และทุกสิ่งที่พูด เราทำได้ ที่สำคัญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้นำที่ทำงานการเมืองมาตามลำดับขั้นตอน สะสมประสบการณ์ทั้งด้านธุรกิจและการเมือง การบริหารกว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค กว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใช้เวลาบนถนนสายการเมืองกว่า 20 ปี

น.ส.อนุสรี กล่าวต่อว่า การเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่สนามทดลอง พูดง่าย แต่ทำได้หรือไม่ ไม่ใช่การเรียนลัด ที่ไม่เคยบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีประสบการณ์เรื่องบ้านเมือง ก็บอกพร้อมจะเป็น เพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการมีกำไร เรื่องบ้านเมือง ที่มีประชาชนต้องดูแล คิดเรื่องกำไรที่เคยสำเร็จอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจการเสียสละและการดูแลคนที่เหลื่อมล้ำในฐานะรัฐบาลด้วย และประเด็นที่ต้องคบเพื่อนร่วมโลก แต่ผลประโยชน์ของชาติก็สำคัญ โลกนี้สุดโต่งไปด้านใด ด้านหนึ่งไม่ได้ ที่สำคัญ 3 สถาบันหลักและประชาชนต้องดำรงอยู่อย่างที่ใครก็ละเมิดไม่ได้

“ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทย ถ้าอยากเปลี่ยนสิ่งเดิมๆ ที่คิดว่าให้โอกาสคนที่มีประสบการณ์ คนใหม่มาทำงานโดยที่ไม่นำอนาคตประเทศไปเสี่ยงกับมือสมัครเล่น แต่เร้าใจเพราะแค่อยากเปลี่ยนนี่คือ พรรคและบุคคลของช่วงเวลาที่เปลี่ยนอนาคตประเทศ แบบเชื่อใจและไว้ใจได้ เลือกพรรคภูมิใจไทยเบอร์ 7 เชื่ออนุสรี ไม่เคยผิดหวัง” น.ส.อนุสรี กล่าวท้ายสุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.ภูมิใจไทย ซัดนโยบายกัญชากลับเป็นยาเสพติด ไม่เป็นผลดีต่อการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนโยบายกัญชาของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสินว่า ตนไม่เห็นด้วยกับ

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา

'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ! ขืนรวมความผิด 'ม.112-110'

'คารม' เตือน 'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ ขืนรวมความผิด 'ม.112-110' ส่อขัดรัฐธรรมนูญ ยิ่งเพิ่มขัดแย้ง แนะผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง