ชทพ.ปราศรัยใหญ่กลางกรุงทิ้งทวน 6 พ.ค.เปิดตัว 'ท็อปแอนด์ทีม'

ชทพ. เตรียมเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงโค้งสุดท้ายกลางกรุง สามย่านมิตรทาวน์ 6 พ.ค.นี้ โชว์ ว้าวไทยแลนด์-เปิดตัว'ท็อปแอนด์ทีม' จุดพลุความเป็นกลาง เมินถูกเปรียบเทียบเวทีก้าวไกล

03 พ.ค.2566 - นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการจัดเวทีปราศรัยหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯของพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ที่สามย่านมิตรทาวน์ในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 14 พ.ค.ว่าพรรคต้องการประกาศนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา และเปิดตัวแคมเปญใหม่ของพรรคชาติไทยพัฒนาในช่วงโค้งสุดท้ายให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อตัดสินใจในการเลือกตั้ง และสิ่งที่ต้องการสื่อสาร คือ ไม่อยากให้แบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย เพราะไม่เกิดประโยชน์ ขณะนี้มีคนที่อยู่ซ้ายสุด เสนอให้ล้มล้างระบบ เพราะเชื่อว่าจะนำมาสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่การล้มล้างนั้นมีต้นทุน เกิดซากปรักหักพัง ที่ไม่รู้จะขนไปทิ้งที่ไหน ส่วนอีกข้างอนุรักษ์ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้จมอยู่กับของเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากจะปรับเปลี่ยนต้องเก็บสิ่งที่ดีไว้ ประเด็นใดต่อยอดได้ ต้องต่อยอด โดยไม่ต้องล้มล้าง ก็สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

“ผมเชื่อว่าคนอยากได้การเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสื่อสารให้สังคมรับทราบ และตื่นจากกระแสขั้วต่างๆ ที่ห้ำหั่นกันไม่จบสิ้น เพื่อหวังเอาชนะคะคานกัน โดยท้ายสุดคนที่แพ้คือประเทศ ดังนั้นแคมเปญของพรรคชาติไทยพัฒนา คือ ต้องการให้ประชาชนเห็นตำแหน่งทางการเมืองที่ชัดเจนของพรรคที่เสนอตัวให้ประชาชนตัดสินใจ ตามอุดมการณ์ของพรรคที่ไม่ทะเลาะกับใคร ซึ่งไม่ได้แปลว่าเราเป็นพรรคพร้อมเสียบทุกฝ่าย แต่คือเราพร้อมทำงานกับคนที่คิดสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา และทำให้เกิดประโยชน์สาธารณะ”นายสันติกล่าว

นายสันติ กล่าวว่าในเวทีปราศรัยของพรรค ยังมีกิจกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อทำให้เห็นแนวคิดของคนรุ่นใหม่ต่อการอยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต เพราะตนมองว่าแนวคิดของคนรุ่นใหม่ ที่ผสมกับประสบการณ์ของคนรุ่นใหญ่ จะทำให้ประเทศถูกวางตำแหน่งในทิศทางที่เหมาะสม นอกจากนั้นจะนำเสนอ นโยบายว้าวไทยแลนด์ ภายใต้ธีมงานว่า เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ให้คนเก่งนำประเทศไปสู่ยุคใหม่ และจะเปิดตัว ท็อปแอนด์ทีม ที่ผสมผสานคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ เพื่อนำประเทศไปสู่ยุคใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า กิจกรรรมเลือกตั้งดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นคะแนนเลือกตั้งได้หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า คะแนนเสียง ใครก็อยากได้ แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่า คือ คนทั้งหมดร่วมใจกันทำงาน แม้จะเลือกหรือไม่เลือกเราก็ตาม ทั้งนี้การเปิดเวทีที่สามย่านมิตรทาวน์ ไม่มุ่งเน้นของเสียงคนรุ่นใหม่เท่านั้น ตามประวัติศาสตร์ของพื้นที่คือ การผสมผสานของวัฒนธรรมดั้งเดิม จากตลาดสามย่าน ไปสู่สามย่านมิตรทาวน์ในปัจจุบัน

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเวทีดังกล่าวจะถูกเปรียบเทียบกับพรรคก้าวไกลที่สร้างกระแส กทม.จำนวนมาก นายสันติ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะถูกเปรียบเทียบ เพราะพรรคชาติไทยพัฒนานั้นทำงานแข่งกับตัวเอง นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด จากประสบการณ์คนรุ่นใหญ่ และแนวคิดของคนรุ่นใหม่ ผสมผสานกัน โดยไม่เสนอพลังงานทางลบ มุ่งเสนอพลังงานทางบวก เหมือนเวลามีละครตบกันมักจะดัง ขณะที่ละครที่สร้างสรรค์ไม่ดัง ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการพิสูจน์คือ หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เมื่อคนเห็นถึงความตั้งใจทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว จะให้ความไว้วางใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิกร' สยบข่าวโละปาร์ตี้ลิสต์ แค่มโนกันไปเอง ยันขึ้นอยู่กับ สสร.

'นิกร' ชี้กระแสข่าวแก้ รธน. ให้มีแต่ 'สส.เขต' มโนกันไปเอง ยันรัฐบาลไม่ได้ตั้งธงไว้ กติกาเลือกตั้งขึ้นอยู่กับ สสร. ชุดใหม่ ย้ำ ชทพ. ยึดตามประชาชน

'วราวุธ' ลั่น 'ชทพ.' เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบต่อนโยบายที่แถลงต่อสภา

นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานประชุมสามัญครั้งที่ 1 / 2567 พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม