เวทีดีเบตนครพนมเดือด 'เพื่อไทย' ซัดยาเสพติด-กัญชา ระบาด 'สหายแสง' โต้ทันควัน

เวทีดีเบตร้อนทันที “เดือน มนพร” ซัดยาเสพติดริมโขงระบาดหนัก แถมมีกัญชาเสรีเพิ่มมาอีก “สหายแสง” ลุกโต้ทันควันย้ำใช้เพื่อการแพทย์

30 เม.ย.2566 – การหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พื้นที่จังหวัดนครพนม ส่วนใหญ่เป็นการขับเคี่ยวระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ที่มีฐานคะแนนเดิมเป็นต้นทุน คือ พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจจะมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวสอดแทรก เพราะนับวันได้เสียงตอบรับจากประชาชนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา ฯลฯ

ล่าสุด หอการค้าจังหวัดนครพนม ได้จัดเวทีดีเบตสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อให้เข้าถึงนโยบายพรรคการเมืองของแต่ละพรรค และเป็นแนวทางในการตัดสินใจใช้สิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชน ไม่นอนหลับทับสิทธิ ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงเลือกคนดีเข้าสภา ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้
โดยมีผู้สมัครจากพรรคการเมือง ให้การตอบรับเข้าร่วมเวทีดีเบต ทั้งหมด 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย 1.พรรคเพื่อไทย 2.พรรคภูมิใจไทย 3.พรรคเสรีรวมไทย 4.พรรคก้าวไกล 5.พรรคไทยสร้างไทย และ 6.พรรคไทยพร้อม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 พรรค ปฏิเสธการเข้าร่วมเวทีดีเบต คือ 1.พรรคพลังประชารัฐ และ 2.พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงมีเพียงพรรคเดียวที่เป็นฝ่ายรัฐบาลที่เข้าร่วมคือพรรคภูมิใจไทย

ส่วนรูปแบบการดีเบตผู้สมัครของแต่ละพรรค ทางผู้จัดได้มีคำถาม รวม 3 คำถาม เริ่มจากคำถามข้อ 1และ 2 จะเป็นคำถามเดียวกันทั้งหมด แล้วให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์พรรคละ 5 นาที ประกอบด้วย คำถามข้อที่ 1 เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนา จ.นครพนม เป็นหลัก ส่วนข้อที่ 2 จะเป็นคำถามเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของพรรค ที่จะนำมาพัฒนา จ.นครพนมได้อย่างไรบ้าง และคำถามข้อที่ 3 จะเป็นการจับฉลาก ที่ส่งมาจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคำถามข้อสุดท้ายนี้ ผู้จัดให้เวลาผู้สมัครตอบได้ 7 นาที หากมีการพาดพิงถึงพรรคใด หรือ ผู้สมัครคนใด ให้สิทธิ์ผู้ถูกพาดพิงตอบได้ 2 นาที

โดยการดีเบตใน 2 ข้อแรกเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้สมัครของแต่ละพรรค นำนโยบายของพรรคมาเสนอแก่ผู้เข้าร่วม กระทั่งมาถึงคำถามข้อที่ 3 มีประเด็นสำคัญอันเป็นที่น่าสนใจมากที่สุด คือ คำถามจากคนทางบ้านส่งเข้ามา โดยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยจับฉลากคำถามที่เกี่ยวกับการดำเนินการนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด โดย ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ได้ตอบคำถามดังกล่าวอย่างฉะฉานว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีความจริงจัง กับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทำให้ยาเสพติดทั้งยาบ้า กัญชาระบาด รวมทั้งสนับสนุนแก้กฎหมายกลายเป็นกัญชาเสรี ทำให้ลูกหลานเยาวชน หลงผิดติดยาเสพติด มีทั้งเสพยาบ้า กัญชา กลายเป็นปัญหาสำคัญของสังคม และมีปัญหายาเสพติดทะลักตามแนวชายแดน พื้นที่ จ.นครพนม ถือว่ามีการทะลักของยาเสพติดมากสุดในประเทศไทย หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล จะปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะเคยแก้ปัญหาดังกล่าวมาแล้ว ในสมัยที่เป็นรัฐบาล ฯ
ภายหลัง ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย

โชว์วิสัยทัศน์ในการดีเบตครบ 7 นาทีในกรอบเวลาที่ตั้งไว้ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย ถึงขั้นต้องรีบออกมาโต้ในฐานะถูกพาดพิงพรรคภูมิใจไทย พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย รวมถึงรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ได้สนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาเพื่อทางการแพทย์ และเพื่อเศรษฐกิจ โดยผ่านกระบวนการหารือของรัฐสภา ทั้ง ส.ส.- สว. มีการโหวตเป็นมติเอกฉันท์ เพื่อถอดกัญชา กัญชง กระท่อม ออกจากยาเสพติดประเภท 5 แต่ต้องมาหยุดชะงัก ไม่สามารถออก พ.ร.บ.กัญชา กัญชงได้ เพราะถูกบางพรรคเตะตัดขา เนื่องจากเห็นว่ากัญชามีชื่อเสียงโด่งดัง

โดย ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า คำถามเรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติด ถือเป็นคำถามที่ถูกใจมาก และเป็นคำถามที่พรรคเพื่อไทยทำสำเร็จมาทุกสมัยที่เป็นรัฐบาล มั่นใจไม่มีรัฐบาลไหนทำสำเร็จ ส่วนนโยบายของพรรคเพื่อไทย จะดูแลผู้เสพเป็นผู้ป่วย จัดการผู้ค้าขั้นเด็ดขาด นำลูกหลานที่หลงผิดกับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว เพราะปัจจุบันจากการลงพื้นที่นอกจากความยากจนแล้ว ยังพบว่าปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญของสังคม ที่ชาวบ้านเรียกร้องให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะปัจจุบันยาบ้าระบาดหนัก ราคา 5 เม็ด 100 บาท หนำซ้ำยังมีกัญชาเสรีเข้ามาอีก ทำให้ลูกหลานเยาวชนหลงผิด เสพทั้งยาบ้า กัญชา เสพกระท่อม หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ในเวลา 1 ปี ยาเสพติดจะต้องหมดไป ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า 8 ปี รัฐบาลนายกตู่อ่อนแอ ไม่แก้ไขปัญหายาเสพติดจริงจัง หัวใจสำคัญแต่ละจังหวัด ถามว่าการที่จะแก้ไขปัญหาจะต้องไปถามใคร หากไม่ถาม ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้การทหาร และผู้การตำรวจ หาก 3 คนไม่รู้ ใครจะรู้เรื่องยาเสพติด หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นครพนมจังหวัดชายแดน เมืองแห่งความสุข ที่มีความสวยงามทุกด้าน แต่ปัจจุบันกลับเป็นเมืองชายแดน ที่ยาเสพติดทะลักเข้ามามากที่สุด จะต้องได้รับการแก้ไขจริงจัง จะต้องไม่มีปัญหายาเสพติด

นอกจากนี้จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดขบวนการค้ายาเสพติดชัดเจน เด็ดขาด หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน จะต้องเข้มแข็งให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะต้องมาจากประชาชน จะต้องไม่เป็นนิติรัฐที่รังแกประชาชน จะต้องใช้อำนาจนิติธรรมในการดูแลประชาชน และจะต้องไม่ใช้กฎหมายเอาผิดกลุ่มคนเห็นต่าง รวมถึงลูกหลานเยาวชนที่เห็นต่าง ฝากพี่น้องประชาชน 1 เสียงของท่าน จะเป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล

ด้าน สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย กล่าวโต้ตอบทันทีอ้างว่าถูกพาดพิง พร้อมยืนยันว่า ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนพรรคภูมิใจไทยและพรรคถูกพาดพิง เกี่ยวกับประเด็นนโยบายกัญชาเสรี ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ รวมถึง พรรคภูมิใจไทย ไม่มีนโยบายสนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ และกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ส่วนเรื่องกัญชาเสรีพูดกันไปเอง ความจริงไม่มี เพราะการปลดล็อกกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติด มีทั้งกัญชง กัญชา และกระท่อม เป็นการหารือร่วมกันระหว่าง รัฐสภา ทั้ง ส.ส. สว. พรรคการเมืองทุกพรรค ยกมือโหวตเป็นเอกฉันท์ ให้ถอด กัญชา กัญชง กระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 แล้วถามว่า หากกัญชาเอามาใช้ทางการแพทย์ไม่ดี จะยกมือโหวตเป็นเอกฉันท์ทำไม ตนมองว่าหลังมีการถอนกัญชาออกจากยาเสพติด แล้วมองว่าจะดังมากไป จึงมีบางพรรคการเมืองเตะตัดขา ทำให้ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่คลอดออกมาบังคับใช้ ตนยืนยันว่าการแก้กฎหมายกัญชาเพื่อการแพทย์ ไม่ได้มีเจตนาให้เสพเสรี พรรคภูมิใจไทย กระทรวงสาธารณสุข มีการประกาศกฎกระทรวงชัดเจน ออกมาว่า เด็กอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ห้ามซื้อห้ามขาย ห้ามเสพ มีคำสั่งควบคุมละเอียด รวมถึงช่อดอก ห้ามซื้อห้ามขาย มีกฎกติกาชัดเจน แต่ที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่ผ่าน เพราะมีบางพรรคการเมืองเตะตัดขา ไม่ยอมให้กฎหมายผ่าน