28 เม.ย.2566- คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 พร้อมด้วยนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนายสุริยา ขันอาสา ผู้สมัครส.ส.หมายเลข 2 เขต 10 จังหวัดอุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่
ซึ่งมีพี่น้องประชาชน พื้นที่เดชอุดมและพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 10,000 คนเดินทางมาให้กำลังใจ ส่งเสียงสนับสนุน ระหว่างลงพื้นที่ ระหว่างการปราศรัย เพื่อให้กำลังใจคุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนอีสาน ขณะที่พ่อเฒ่าแม่แก่ หลายคนได้นำ ของกินของฝากของใช้รวมถึงของดี อำเภอเดชอุดมและจังหวัดอุบลราชธานีมาฝากคุณหญิงสุดารัตน์และทีมงาน ระหว่างการลงพื้นที่ด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ภาคอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด พี่น้องขยันทำมาหากินที่สุด อดทน และซื่อสัตย์ที่สุด แต่กลับยากจนและยังขาดโอกาส ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย จึงมีนโยบายที่จะทำให้คนตัวเล็ก และโดยเฉพาะภาคอีสาน หายจนหมดหนี้ให้ได้ภายในสามปี ซึ่งพรรคได้ประกาศนโยบายไปแล้วว่าจะดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้มีรายได้พอเพียง อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
โดยเฉพาะนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยนั้น มาจากการเล็งเห็นปัญหาของพี่น้องชาวอีสาน และเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะลูกอิสาน คือพี่น้องชาวอีสานยังยากจน ขาดโอกาสแม้จะทำงานหนัก ดังนั้นพวกเราทุกคน จะต้องช่วยกันผลักดันนโยบายเพื่อคืนโอกาสให้พี่น้องชาวอิสาน ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนภายในสามปีให้ได้
เช่น การสร้างนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท ที่ไม่ใช่เป็นนโยบายประชารัฐ ประชานิยม มุ่งแต่การแจกเงินเพื่อหาคะแนนนิยม แต่ได้ให้พร้อมหน้าที่ในการสร้างสุขภาพ ซึ่งเป็นการคิดอย่างครบวงจร โดยจะเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมั่นคงยั่งยืน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะทำให้ GDP ของประเทศโต 5-7 เท่า ภายใน 5 ปี และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลปีละเป็นแสนล้าน ผู้สูงอายุสามารถกลับมาทำงานสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้ ทั้งยังเป็นการลดภาระของลูกหลานสามารถตั้งตัวได้เร็วขึ้น
และเป็นการสร้างความยั่งยืนอย่างครบวงจร ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ ลดรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลของรัฐ เพราะไม่ได้เป็นเงินให้เปล่า แต่ผู้รับบำนาญต้องมีหน้าที่ในการสร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชนที่รัฐบาลพรรคไทยสร้างไทยจะจัดทำขึ้น
โดยจะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจดังต่อไปนี้
1) สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน เพิ่ม GDP ได้ 5-7 เท่าใน4- 5 ปี
2) สร้างกำลังซื้อใหม่ให้ทุกชุมชนทุกเดือน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ
3) เมื่อผู้สูงอายุสุขภาพดี ก็สามารถกลับมาทำงานสร้างรายได้ได้
4) ลดรายจ่ายด้านการรักษาของประชาชน และของรัฐบาลปีละเป็นแสนล้าน ทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณลงได้
5) รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้เพิ่ม ภาษีรวม ภาษีทุกประเภท ประมาณ 270,000 ล้านบาท ถึง 378,000 ล้านบาท ใน เวลา 5 ปี .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทพไท ชี้ ทักษิณ ปั่นหุ้นกวาด 200 ส.ส. แท้จริงขายฝันแค่หลอกชนชั้นนำ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่าทักษิณ ปั่นหุ้นกวาด200ส.ส. หลอกชนชั้นนำ
กลัวครหา! อนุทิน ไม่ลงช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ หาเสียง แค่ส่งกำลังใจ
'อนุทิน' แจง ไม่ลงไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สุรินทร์ ได้แต่ส่งกำลังใจ หวั่นมีข้อครหาเยอะ กำชับ ปลัดมท.สั่งข้าราชการฝ่ายปกครอง ต้องทำตัวเป็นกลาง บอกติดตลก เลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคกวาดเก้าอี้เกิน200 เสียง คงมีสส.ในสภาฯ 2000 คน
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'ณัฐวุฒิ' ป้อง 'ทักษิณ' สวน 'ธนาธร' ปม 112
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆ
ยากจะหาใครรับมือ! ซูฮก 'ทักษิณ' สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูง 'มือถือสากปากถือศีล'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีตสส.จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว" ระบุว่าจะว่ามมไม่เงี่ยหูฟังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่จ.อุดรธานี เสียเลยก็ไม่