นิด้าโพลชี้คนศรีสะเกษเลือกเพื่อไทยนำโด่ง - ก้าวไกลตามอันดับ 2

23 เม.ย.2566 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนศรีสะเกษเลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-19 เมษายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดศรีสะเกษ กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 600 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคนจังหวัดศรีสะเกษเลือกพรรคไหน การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนศรีสะเกษจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 47.67 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 2 ร้อยละ 16.50 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 3 ร้อยละ 10.50 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 4 ร้อยละ 7.33 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 5 ร้อยละ 5.17 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 6 ร้อยละ 3.17 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) อันดับ 7 ร้อยละ 3.00 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) อันดับ 8 ร้อยละ 2.33 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) อันดับ 9 ร้อยละ 1.50 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 10 ร้อยละ 1.00 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) และร้อยละ 1.83 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) และไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับพรรคการเมืองที่คนศรีสะเกษจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 67.17 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 15.83 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 5.50 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 4.50 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 2.00 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 1.67 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.17 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1.00 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 1.16 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยภักดี และพรรคสร้างอนาคตไทย

ส่วนพรรคการเมืองที่คนศรีสะเกษจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 64.67 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 16.33 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 6.17 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 3.83 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 2.50 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.17 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.33 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1.00 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 2.00 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยภักดี พรรคกล้า พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคสร้างอนาคตไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดแนวรบใหม่! 'ทักษิณ' เหน็บ 'นิด้าโพล' อยู่ตรงข้าม เจาะจงเรื่อยๆ เจาะจงมากเลย

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลโพลร

นักวิชาการชี้เปรี้ยง พท.- ทักษิณ กวาด นายกอบจ. เรียบ ส่วนพรรคส้มร่วง

นักวิชาการชี้เปรี้ยง พท.-ทักษิณ โอกาสสูงกวาดนายกอบจ.เกือบหมด! ส่วนพรรคส้ม ปาดเหงื่อ เสี่ยงร่วงปักธงไม่สำเร็จ แต่สจ.ได้หลายจังหวัด   

คนเชียงใหม่-เชียงราย เผยทักษิณช่วยปราศรัย ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกนายก อบจ.

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ทักษิณปราศรัยเชียงใหม่ เชียงราย …แล้วเราควรตัดสินใจอย่างไร” ทำการสำรวจระหว่างวันที่  7-10 มกราคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

เลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด บ้านใหญ่ รอเข้าวิน พท.กวาดเยอะ-พรรคส้ม เสี่ยงร่วง

ยิ่งใกล้ถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ. พบว่าการหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.ทั้งที่ลงในนามพรรคการเมือง และไม่ได้ลงในนามพรรค

กสม. ประณาม 'ทักษิณ' ปราศรัยเหยียดเชื้อชาติคนแอฟริกัน ย้ำไทยอยู่ภายใต้ CERD

กสม.ซัด 'ทักษิณ' จ้อเหยียดเชื้อชาติคนแอฟริกัน อบรมคนมีอิทธิพลทางสังคมไม่ควรทำ หวั่นโดนขยายความรุนแรง ซ้ำรอยความสูญเสียในอดีต