“พีระพันธุ์” เผย รทสช. ชูนโยบาย “ปลดหนี้ด้วยงาน” แก้ปัญหาคนเบี้ยวหนี้ภาครัฐ เปิดโอกาสให้ใช้แรงงาน ใช้ความรู้ ทำงานให้กับภาครัฐแทนการใช้เงินคืน เริ่มต้นที่หนี้ กยศ. ระบุหากเรียนจบแล้วหากยังไม่มีเงินมาใช้คืนกองทุนฯ ก็ใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมาทำงานให้กับภาครัฐ เพื่อปลดหนี้ได้ หวังปรับใช้กับหนี้อื่นๆ เช่น กองทุนหมู่บ้าน เชื่อได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
20 เม.ย.2566 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวถึงนโยบาย “ปลดหนี้ด้วยงาน”ว่า เป็นนโยบายที่พรรคจะนำมาใช้แก้ปัญหาหนี้ภาครัฐ เช่น หนี้จากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่มีข้อถกเถียงกันมากก่อนหน้านี้ว่า จะยกเลิกหรือจะฟ้องร้องบังคับคดีกับผู้ที่ไม่ยอมใช้หนี้กองทุนฯหลังจากที่กู้ยืมไปแล้ว โดยเห็นว่านโยบายการให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาดังกล่าว มีจุดประสงค์สำคัญคือ การเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่ขาดโอกาสได้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความรู้จากการศึกษา โดยเด็กจำนวนมากไม่มีเงินทุนพอที่จะเรียน จึงเกิดโครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาขึ้นมา แต่เมื่อเข้าไปเรียนแล้วได้ความรู้มาแล้ว หลายคนไม่ยอมกลับมาใช้หนี้กองทุนที่กู้ยืมไปจนกลายเป็นปัญหาส่งไปถึงรุ่นน้องๆ ต่อไป
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า หากพิจารณาจากผู้ที่ไม่กลับมาใช้หนี้ กยศ.นี้จะเห็นได้ว่า สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกันคือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ตั้งใจจะไม่ใช้หนี้คืนเลยกลุ่มคนประเภทนี้จำเป็นต้องจัดการเด็ดขาด ด้วยการฟ้องร้องบังคับคดีเพราะเป็นคนที่ตั้งใจไม่ใช้หนี้ ทำให้รุ่นน้องเสียโอกาส ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ไม่ได้ตั้งใจโกง แต่ประสบปัญหายังหางานทำไม่ได้ หรือได้งานแต่ว่าเงินเดือนไม่เพียงพอ เขาไม่อยากโกงแต่ไม่มีเงินใช้ และกลุ่มที่สามคือ มีงานมีเงินแต่ภาระครอบครัวมีมาก ฉะนั้นแม้มีเงินเดือนมีรายได้แต่ไม่พอไม่พอชำระหนี้
ทั้งนี้ คนสองกลุ่มหลังคือ กลุ่มที่ไม่ควรจะดำเนินคดีอะไรกับอย่างเด็ดขาดเพราะไม่ได้ตั้งใจโกง แต่เพราะไม่มี แต่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ เมื่อเรียนมาแล้วในขณะที่รัฐเองก็ต้องการคนมีความรู้ไปช่วยเหลือสังคม ดังนั้นจึงเกิดแนวทางว่า “ปลดหนี้ด้วยงาน” และ กองทุน กยศ.เป็นตัวอย่าง ไม่จำเป็นที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกัน แต่เป็นการเปิดโอกาสให้เข้ามาช่วยงานให้กับรัฐ เพื่อเป็นการปลดหนี้แทนเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
“การฟ้องร้องกันได้กระดาษหนึ่งแผ่น เป็นคำพิพากษาว่าชนะคดี แล้วได้อะไร เมื่อเราส่งเขาไปมีความรู้ ทำไมเราไม่ให้โอกาสเขาเอาความรู้ ไปช่วยเหลือสังคมให้กับรัฐ ฉะนั้นกลุ่มเหล่านี้ที่เขาไม่ได้ตั้งใจโกง แต่มีภาระทางครอบครัวไม่มีงานทำ ก็สามารถปลดหนี้ของเขาด้วยการใช้แรงงานใช้ความรู้ทำงานให้กับรัฐแทน ถ้าทำอย่างนี้ได้ ผมเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ สองฝ่าย ตรงนี้ก็คือเรื่องของการ ปลดหนี้ด้วยงาน แล้วหลักเกณฑ์อันเดียวกันนี้เราสามารถขยายไปเรื่องอื่น เช่น กองทุนหมู่บ้าน และอะไรอีกหลายอย่าง” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีต สส. หอบเหรียญ สมัคร 'นายก อบจ.บุรีรัมย์' วันสุดท้าย
เปิดรับสมัคร 'นายก อบจ.บุรีรัมย์' วันสุดท้าย 'ประเสริฐ' อดีต สส. หอบเหรียญจ่ายค่าสมัคร ได้หมายเลข 5
ฝาก 'บิ๊กต่าย' ขันน็อตตำรวจ คุมเข้มชายแดนสกัดยาเสพติด ช่วงเทศกาล
'ธนกร' ฝาก 'ผบ.ตร.' ขันน็อตตำรวจ สั่งปฏิบัติการพิเศษ ร่วมฝ่ายความมั่นคง คุมเข้มชายแดนสกัดยาเสพติด หวั่นแก๊งค้ายาฉวยโอกาสขนถ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่
'เจ้าคุณโซลาร์เซลล์' มองอีกด้าน! 'พีระพันธุ์-รทสช.' ยื่นร่างกม.ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป
พระปัญญาวชิรโมลี (นพพร ธีรปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม หรือ โรงเรียนเสียดายแดด พระนักพัฒนาที่ได้นำความรู้จากการศึกษาโซลาร์เซลล์
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
'พีระพันธุ์' นั่งหัวโต๊ะ กพช. สั่งชะลอรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,668 เมกะวัตต์
การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รับมอบหมายจาก นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
'พีระพันธุ์' ลั่น 'รทสช.' ชงกฎหมายปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป
'พีระพันธุ์' เผย 'รทสช.' เตรียมยื่นร่างกฎหมาย ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อปเข้าสภาวันนี้ ชี้ ต้องแก้กฎหมายที่ยุ่งยาก หวังลดภาระค่าไฟฟ้า-สร้างอาชีพใหม่ให้ประชาชน พร้อมขอบคุณ 'นายกฯ' ที่สนับสนุน