ปชป.โอ่นโยบายเศรษฐกิจทุ่ม 1 ล้านล้านบาทกระตุ้นอีก 1 ล้านล้านลงทุน!

'อลงกรณ์' ฉายภาพนโยบายเศรษฐกิจ ปชป. ตั้งเป้าเศรษฐกิจเติบโตอย่างน้อย 5% ภายใต้ 3 นโยบายเรือธง ชูกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้าน และแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีก 1 ล้านล้านบาท

29 มี.ค.2566 - นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคกล่าวถึงผลการประชุมว่าด้วยแนวทางนโยบายเศรษฐกิจของพรรคในการเลือกตั้ง ว่าพรรค ปชป.กำหนดกรอบนโยบายเศรษฐกิจบน 3 นโยบายเรือธง(Flagship Policy)ได้แก่ 1.เศรษฐกิจฐานราก โดย ปชป.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคการเกษตรและภาคการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเนื่องจากเป็น 2 ภาคเศรษฐกิจที่เป็นศักยภาพของประเทศโดยเฉพาะเกษตรถือเป็นดีเอ็นเอของประเทศครอบคลุมสาขาพืช ประมง และปศุสัตว์ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวรวมทั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นธุรกิจสร้างงานสร้างอาชีพใหญ่ที่สุดของประเทศตลอดจนการยกระดับภาคแรงงานในทุกสาขาซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

2.เศรษฐกิจมหภาค ทีมเศรษฐกิจพรรค ปชป.กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนไม่น้อยกว่า 5%ต่อปี มุ่งกระจายรายได้กระจายความเจริญลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาตลาดทุนยุคใหม่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ12อุตสาหกรรมใหม่ รวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ทั้งระบบขนส่งมวลชน ระบบราง ระบบถนน ระบบขนส่งทางน้ำและทางอากาศภายใต้ยุทธศาสตร์เขื่อมไทย เชื่อมโลก ตลอดจนการปูทางสร้างโอกาสด้วยความตกลงการค้าเสรี (FTA-Mini-FTA) โดยเฉพาะความตกลงว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค(RCEP)

และ 3.เศรษฐกิจทันสมัยหรือเศรษฐกิจอนาคต พรรค ปชป.จะเร่งวางรากฐานใหม่ให้ประเทศโดยสร้างเครื่องยนต์ตัวใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้แก่เศรษฐกิจดิจิตอล, เศรษฐกิจสีเขียว, เศรษฐกิจสูงวัย, เศรษฐกิจเพื่อสังคม, เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจคาร์บอน เป็นต้น

“ระบบเศรษฐกิจใหม่คือเครื่องยนต์แห่งการเติบโตที่จะยกระดับเพดานรายได้ใหม่ของประเทศและคนไทยให้สูงขึ้นเนื่องจากระบบเศรษฐกิจดั้งเดิมไม่มีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกต่อไปและไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาและความท้าทายใหม่ๆ ประการสำคัญที่สุดคือ ประเทศต้องการการลงทุนใหม่ๆและรายได้ใหม่ๆในช่วง 4 ปีข้างหน้า ขอให้มั่นใจว่าเราทำได้เพราะทำมาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศจากการส่งออก 4 ปีที่ผ่านมากว่า 30 ล้านล้านบาทเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว”

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ภายใต้สถานการณ์การชะลอตัวและความถดถอยทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด19และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทีมเศรษฐกิจจึงได้วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้านบาทจากนโยบายธนาคารหมู่บ้านธนาคารชุมชน การปลดล็อก กบข.และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอีเป็นต้น ยิ่งกว่านั้นทีมเศรษฐกิจยังได้พิจารณาแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะสร้างศักยภาพใหม่ให้ประเทศอีก 1 ล้านล้านบาทภายใต้ยุทธศาสตร์สร้างเงินสร้างคนสร้างชาติซึ่งจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง

เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.

จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ

ประธานสส.ปชป.เรียกร้อง ‘เชาว์’ หยุดปั่นกระแส สร้างความแตกแยกในพรรคได้แล้ว

นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน สส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่า

เละ! อดีตรองโฆษกปชป. ปูดถูกใบสั่งขับพ้นพรรคประชาธิปัตย์

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้บริหารพรรคพยามจัดการกับคนที่เห็นต่าง