‘สวนดุสิตโพล’ เผยคะแนนนิยม 'เพื่อไทย' นำโด่งก่อนยุบสภา ตามด้วยก้าวไกล 

26 มี.ค. 2566 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศกรณี “คนไทยนิยมพรรคการเมืองใด” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 10,614 คน (สำรวจทางภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-17 มีนาคม 2566 ก่อนที่จะประกาศยุบสภาพบว่าพรรคที่คนไทยนิยมเป็นอันดับ 1 คือพรรคเพื่อไทยร้อยละ 46.16 รองลงมาคือพรรคก้าวไกลร้อยละ 15.43 พรรคภูมิใจไทยร้อยละ 11.12 พรรครวมไทยสร้างชาติร้อยละ 8.73 และพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 7.71 เมื่อจำแนกตามอายุพบว่ากลุ่มอายุ 18 – 30 ปีนิยมพรรคก้าวไกลมากที่สุดร้อยละ 37.85 ส่วนกลุ่มอายุ   อื่นๆนิยมพรรคเพื่อไทยมากที่สุดเมื่อจำแนกตามภูมิภาคพบว่ากรุงเทพฯภาคกลางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมพรรคเพื่อไทยมากที่สุดส่วนภาคใต้นิยมพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุดร้อยละ 24.71 ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทยร้อยละ 21.72  

คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยยังคงพุ่งแรงและได้รับการตอบรับอย่างดีจากแทบทุกกลุ่มอายุแม้กลุ่มอายุ 18 – 30 ปีจะนิยมพรรคก้าวไกลมากที่สุดแต่รองลงมาก็เป็นพรรคเพื่อไทยสะท้อนให้เห็นว่าแคมเปญ “แลนด์สไลด์” หรือ “เลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์” อาจจะกำลังเห็นผลจากการที่คนต้องการเปลี่ยนแปลงและวิธีการที่จะมีเสียงข้างมากในสภาก็คือต้องรวมกันให้ได้มากกว่าเสียงส.ว. ผลโพลครั้งนี้คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยจึงครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ถึงแม้ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ยังคงกอดด้ามขวานไว้แน่นแต่ก็ต้องยอมรับว่าคะแนนนิยมนั้นลดลงทุกพรรคการเมืองจึงต้องเร่งทำคะแนนชิงพื้นที่กันมากขึ้นเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ใครๆก็อยากกินข้าวร่วมโต๊ะเป็นรัฐบาลร่วมกัน   

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรศักดิ์ มั่นศิลป์ รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมืองมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า จากผลโพลจะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่ประชาชนนิยมเป็นอันดับ 1 คือพรรคเพื่อไทยสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนในแง่ที่ว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงจากพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเดิมรวมทั้งประชาชนอาจมีความชื่นชอบนโยบายของพรรคเช่นเรื่องค่าจ้าง 600 บาทต่อวันเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทในส่วนพรรคที่ได้คะแนนนิยมอันดับ 2 คือพรรคก้าวไกลซึ่งถือว่าเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่โดยพรรคมุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการขจัดการสืบทอดอำนาจส่วนพรรคการเมืองอื่นๆก็มีนโยบายที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในระดับรากหญ้าเช่นการพักหนี้ 3 ปีของพรรคภูมิใจไทยบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือนของพรรครวมไทยสร้างชาติการประกันรายได้พืชผลทางการเกษตรของพรรคพรรคประชาธิปัตย์การเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือนของพรรคพลังประชารัฐเป็นต้นคงต้องมาลุ้นภายหลังการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองใดจะได้จัดตั้งรัฐบาลและมาบริหารประเทศของเราต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดุสิตโพล ชี้คนไทยห่วงมาตรการกระตุ้นศก. รัฐบาลอิ๊งค์ สร้างภาระให้ประเทศ

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “รัฐบาลแพทองธาร กับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ” ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,227 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแพทองธารอาจก่อให้เกิดภาระหนี้สาธารณะ

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

คนไทยผวา 'ทรัมป์' คัมแบ็ก สินค้าจีนสุมประเทศ

สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจ ชี้คนไทยรู้สึกเฉยๆ ทรัมป์ กลับคืนตำแหน่ง ปธน.สหรัฐฯ แต่ห่วงเรื่องผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจผวาสินค้าจีนทะลักเข้าประเทศ