“กรณ์” ลงพื้นที่ลาดพร้าว ช่วย “ปุ๊ บุญสืบ" หาเสียง ประชาชนถูกใจนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ ปรับปรุงบ้านเพื่อผู้สูงอายุ-คนพิการ ไม่ปลื้ม กกต.แบ่งเขตพิลึก ขัดหลักกฎหมาย ทำประชาชนสับสน ไม่เอื้อให้คนออกไปใช้สิทธิ
18 มี.ค.2566 - นายกรณ์ จาติกวณิช ลงพื้นที่ลาดพร้าว บึงกุ่ม เพื่อช่วยนายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และพบปะพี่น้องประชาชนที่ ตลาดเช้าหมู่บ้านรวมโชค ตลาดเช้าอมรพันธ์ 9 สภากาแฟการเมือง ศรีฟ้ากาแฟสด โดยระหว่างเดินหาเสียง มีประชาชนตะโกนว่า ยกเลิกระบบแบล็กลิสต์ให้ได้ ใครบอกแบล็กลิสต์ไม่มีจริงให้มาถามที่นี่ ถ้ายกเลิกได้จะเทคะแนนให้เลย
นายกรณ์ กล่าวว่า นายบุญสืบ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่มากว่า 3 ปี จนคุ้นเคยกับชาวบ้านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้เราก็ยังได้พบกับพี่น้องประชาชนทุกวันในทุกเขตเลือกตั้ง กระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้เราจะเป็นพรรคใหม่ และไม่ใช่พรรคใหญ่มาก เชื่อว่าจากนโยบายที่ได้นำเสนอมา และในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือน จะทำให้ประชาชนรู้จักเรามากขึ้น และเข้าใจว่าเราจะเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน เศรษฐกิจของประเทศไทยจะต้องถูกพัฒนาให้ดีขึ้น วันนี้คนส่วนใหญ่รู้แล้วว่า ถ้าเขาต้องการคุณภาพชีวิตดี พรรคชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคที่สามารถแก้ปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พวกขาได้เด่นที่สุด
“ตลอดเส้นทางที่ได้พบปะพี่น้องประชาชน มีหลายคนมาพูดคุยกับพวกเราเกี่ยวกับเรื่องภาษี ใครมีรายได้ต่ำวกว่า 40,000 ไม่ต้องเสีย ด้วยภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น ปัญหาหนี้สินต่าง ๆ ควรได้รับการดูแล อีกเรื่องคือ นโยบาย 50,000 บาท ปรับปรุงบ้านให้ผู้สูงอายุและคนพิการ เพื่อความปลอดภัย คนสนใจมาก เขาเข้าใจตรรกะความคิดของเราว่าเราต้องการใช้เม็ดเงินลงทุนแก้ปัญหา เราคิดกันมาและนำเสนอด้วยเหตุด้วยผล มีที่มาของงบประมาณชัดเจน วันนี้ประชาชนให้ความสนใจกับนโยบายพรรคเรามาก เราพยายามสื่อสารกับประชาชน ว่าถ้าเราทำการเมืองสร้างสรรค์ ผู้สมัครทุกเขตของเราใช้เดินสายหาเสียง นำเสนอนโยบาย มุ่งเป้าไปสู่ การมีงานดีทำ มีเงินใช้ และของไม่แพง ค่าครองชีพไม่สูงเกินไป” นายกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงการแบ่งเขตของ กกต. ว่า ส่งกระทบต่อทุกพรรคการเมือง แต่ที่เป็นปัญหาคือขัดหลักกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งระบุไว้ชัดเจนว่าการแบ่งเขต ควรเอาอำเภอเป็นหลัก ซึ่งในกทม. ก็คือเขต แต่เราพบว่ามีประมาณ 13 เขต ที่ไม่มีเขตใดเขตหนึ่งเป็นหลักเลย เพียงแต่มีการตัดแขวงเขตนั้นเขตนี้มารวมกัน ซึ่งจะทำให้มันผิดหลักกฎหมายและไม่เคยมีการจัดแบ่งเขตในลักษณะนี้มาก่อน ทั้งที่ความจริงแล้ว เงื่อนไขในกฎหมาย ไม่ควรสร้างความสับสน ให้กับประชาชน ซึ่งควรจะคงไว้ซึ่งการแบ่งเขตที่ประชาชนคุ้นเคยมาในอดีต กกต. จะทำอะไร นอกจากถูกกฎหมายแล้ว ควรเอาประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นเกณฑ์ด้วย เพื่อให้พวกเขาออกไปใช้สิทธิกันมาก ๆ ด้วยความสะดวก แต่อย่างไรก็ตามพรรคชาติพัฒนากล้าส่งครบทุกเขตในพื้นที่ กทม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลัวครหา! อนุทิน ไม่ลงช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ หาเสียง แค่ส่งกำลังใจ
'อนุทิน' แจง ไม่ลงไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สุรินทร์ ได้แต่ส่งกำลังใจ หวั่นมีข้อครหาเยอะ กำชับ ปลัดมท.สั่งข้าราชการฝ่ายปกครอง ต้องทำตัวเป็นกลาง บอกติดตลก เลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคกวาดเก้าอี้เกิน200 เสียง คงมีสส.ในสภาฯ 2000 คน
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'ณัฐวุฒิ' ป้อง 'ทักษิณ' สวน 'ธนาธร' ปม 112
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆ
ยากจะหาใครรับมือ! ซูฮก 'ทักษิณ' สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูง 'มือถือสากปากถือศีล'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีตสส.จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว" ระบุว่าจะว่ามมไม่เงี่ยหูฟังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่จ.อุดรธานี เสียเลยก็ไม่
'อนุทิน' ไม่หวั่น 'ทักษิณ' โวกวาด 200 เสียง ยัน 'รมต.-สส.' ภท. ขยันทำงาน
'อนุทิน' ชี้ 'ทักษิณ' โวเลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 200 เสียง มีสิทธิตั้งเป้า ยัน ภท. ไม่เงียบ 'รมต.-สส.' ลงพื้นที่ทำงานขึ้นเหลือล่องใต้ ปัดส่งผู้สมัครชิง นายก อบจ. ในนามพรรค