ป้ายกำกับ :
ปักธงกรุงเทพ
ภูมิใจไทย ประกาศปักธงกรุงเทพ วางเป้า 8 ที่นั่ง
ภูมิใจไทย เตรียมประกาศรายชื่อผู้สมัครส.ส.เขตกทม.ทั้ง 33 เขต “พุทธิพงษ์-หัวหน้าทีมกทม.”ตั้งเป้าอย่างน้อยอดีตส.ส.เขต 8 คน ต้องกลับสภาฯ ให้ได้ ส่วนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์งานหิน แต่เชื่อได้มากกว่าปี 62
26 ก.พ. 2566 – นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีมเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความคืบหน้าการเตรียมส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต กรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งว่า หากให้พรรคภูมิใจไทย ประกาศวันนี้ก็ครบ โดยมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมือง มีมาจากหลายสาขาอาชีพ ขณะเดียวกัน ก็มีคนของพรรคที่เคยเป็นอดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่มาจากพรรคการเมืองอื่น บางคนเคยทำงานร่วมกันมาก่อน(สมัยพรรคพลังประชารัฐ) ก็เหมือนกับเขามารักษาแชมป์ รวมทั้งหมด 8 คน โดยทั้งแปดคนต้องมารักษาพื้นที่เดิมของตัวเองไว้เพื่อรักษาแชมป์ ส่วนอีกยี่สิบกว่าเขตเลือกตั้ง ก็เติมมาด้วยคนรุ่นใหม่ๆ
ถามถึงว่า ตั้งเป้าว่าภูมิใจไทยจะได้ส.ส.เขตกทม.ในการเลือกตั้งครั้งนี้กี่เก้าอี้ นายพุทธิพงษ์ กล่าวตอบว่า บอกตรงๆว่า จากที่เคยอยู่กับสนามเลือกตั้งกทม.มา สนามกทม.หักปากกาเซียนมาตลอด พรรคการเมืองที่เคยมีส.ส.เขต กทม.เยอะสุด ก็ไม่ได้ส.ส.กทม.ในการเลือกตั้งเลยก็เคยมี จะเรียกว่าสูญพันธุ์ก็ได้ หรือพรรคการเมืองที่ไม่เคยมีส.ส.เขต กทม.เลย แต่เลือกตั้งมา กลายเป็นพรรคที่ได้ส.ส.เขต กทม.มากสุด ก็เคยมีมาแล้ว ดังนั้นถ้าถามว่าคาดว่าจะได้ส.ส.เขต กี่คน ก็ต้องบอกว่า คาดเดาใจคนกรุงเทพไม่ได้ เพราะหากเราพูดว่าจะได้เท่านั้นเท่านี้ มันไม่มีอยู่จริงหรอก เพราะปัจจัยที่คนกรุงเทพจะเลือกนั้น คนกรุงเทพอาจจะมีความละเอียดอ่อนในการเลือกส.ส.ของเขา คนกรุงเทพเวลาจะเลือกผู้แทนของเขา จะเลือกภายใต้ปัจจัยเยอะมาก เลือกไปเพื่ออะไร เลือกไปทำไม แล้วสถานการณ์ในวันนั้นต้องเลือกใคร เชื่อว่าเรื่องนี้หลายคนเข้าใจ เพราะพอใกล้ๆ เลือกตั้งมา จะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเยอะเช่น จะเลือกคนนี้ พรรคนี้ เพื่อไปทำสิ่งนี้ หรือมองว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ต้องช่วยกันเลือกฝั่งนี้
“ผมจึงไม่เคยเชื่อเลย ที่ใครจะบอกว่าตัวเองมีตัวเต็ง น่าจะได้ 5-7 คน ผมไม่เคยเชื่อเลย เพราะจากประสบการณ์ที่เห็น ขนาดเต็งหนึ่งยังสอบตกมาแล้ว แต่หากถามถึงเป้าหมาย โดยส่วนตัวผม อย่างน้อย ส.ส.เขต กทม.เดิมที่อยู่กับพรรคภูมิใจไทย อยากให้เขาชนะกลับมาทั้งหมด ที่ก็มีอยู่แปดคน เพราะถือว่าเป็นแชมป์เก่า รู้พื้นที่ดีที่สุด เคยทำพื้นที่มาแล้วสี่ปี แต่บางคนก็ทำมามากกว่านั้น ส่วนผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ๆ หลายคนก็ลงพื้นที่แล้ว อยากให้คนกรุงเทพได้เห็นพวกเขา แล้วผมจะประเมินหลังจากนั้นต่อไป เพราะเราจะไปประเมินตอนนี้เลยคงไม่ได้”นายพุทธิพงษ์กล่าว
หัวหน้าทีมเลือกตั้ง กทม.ของพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อไปว่า สำหรับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของภูมิใจไทยในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น เนื่องจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เป็นการเลือกตั้งภายใต้ระบบบัตรสองใบ ที่ต่างจากตอนปี 2562 ที่ใช้บัตรใบเดียว คะแนนไม่ทิ้งน้ำ คนที่หนึ่งได้เป็นส.ส. ส่วนคนที่สองและลำดับถัดๆไป แม้ไม่ได้เป็นส.ส.แต่คะแนนที่ได้รับ ก็ถูกนำคิดรวมเป็นคะแนนพรรคเพื่อนำไปคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง แต่พอเลือกตั้งที่จะมีขึ้น แยกเป็นบัตรสองใบ คะแนนส.ส.เขต กับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ หน้าที่ซึ่งหนักใจเป็นหน้าที่ของพวกผม ที่จะต้องไปบอกกับประชาชนว่า นอกจากเลือกส.ส.เขตแล้วในบัตรลงคะแนนบัญชีรายชื่อขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทยด้วย
“โดยในส่วนของคะแนนเสียงระบบปาร์ตี้ลิสต์ เป็นงานยากอยู่เพราะฐานคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ส.ส.หนึ่งคน ฐานคะแนนอาจอยู่ที่ 370,000 คะแนนต่อส.ส.ปาร์ตี้่ลิสต์หนึ่งคน ที่ก็เป็นงานยาก เพราะอย่างเลือกตั้งปี 2562 พบว่า ภูมิใจไทยได้คะแนนในกทม.ประมาณสี่หมื่นคะแนน แต่ผมมั่นใจว่าเลือกตั้งรอบนี้ ยังไง พรรคได้คะแนนมากกว่าเดิมแน่นอน แต่จะมากกว่าเท่าไหร่ ก็คงต้องทำการบ้านให้หนัก “นายพุทธิพงษ์กล่าว