ต้องเรียกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีนายแบบคนหนึ่งทีเดียวสำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” เพราะการแต่งตัวของนายกฯ โดยเฉพาะ การใส่เสื้อผ้านั้น แต่ละครั้งแต่ละทีช่างมีสีสันเข้ากับการลงพื้นที่เสียจริงๆ

เรียกว่าเป็นไปตามที่ “นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” สว.ตัวตึงบอกมาเสมอๆ นั่นแลว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักโทษชายที่ได้รับการพักโทษนั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในปัจจุบัน และในอนาคตด้วย

ต้องบันทึกไว้เลยว่า 14 กุมภพันธ์ 2567 อาจจะเป็น “วันวาเลนไทน์” แรกของเมืองไทยก็ว่าได้ ที่บรรดาสื่อออนไลน์และสื่อต่างๆ แทบจะ ไม่มีใครใส่ใจหรือสนใจในเรื่องการจดทะเบียนที่ที่เขตบางรัก หรือการไปไล่เฝ้าวัยรุ่นเปิดม่านรูด

ในที่สุด “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” โดย “นิวัติไชย เกษมมงคล” เลขาธิการและโฆษก ป.ป.ช. ก็ได้ฤกษ์แถลงเรื่องนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของรัฐบาลเสียที

แล้วก็เป็นไปตามโหราพยากรณ์ที่ได้เคยเปิดฤกษ์เอาไว้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะได้เริงร่ากับการหลุดพ้นจากเรื่องถือครองหุ้นไอทีวีได้แค่สัปดาห์เดียว เ

ฟันธงไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะรอดบ่วงเรื่องการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยเสียงส่วนใหญ่ 8 ต่อ 1 เห็นว่า “พิธา” ไม่พ้นสมาชิกภาพ สส. โดย มีเพียง “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่เท่านั้นที่เห็นต่าง ว่า “แดดดี้ทิม” นั้นพ้นสภาพแล้ว

ต้องบอกว่าวันพุธที่ 17 มกราคม พุทธศักราช 52567 ซึ่ง ตรงกับวันพุธ ขึ้น 7 ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะ และตรงกับวันหวยออกครั้งแรกของปี 2567 ที่กลัวกันหนักหนาว่าจะเป็น “เลขเบิ้ล” นั้นก็ไม่ใช่แต่ประการใด แต่ดูเหมือนจะเป็นวันแห่งการชี้ชะตาคดีความเสียมากกว่า …๐

ไม่รู้ว่าจะขำเป็นภาษาอะไรดีกับกรณี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาฟาดงวงฟาดงาสร้างภาพเรื่องดอกเบี้ยกับ “ธนาคารแห่งประเทศไทย”

ประเดิมวันแรกไปแล้ว สำหรับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ ใน การพิจารณาเรื่องด่วนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท

เรียกว่าเริ่มนับถอยหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 กันแล้ว จึงไม่แปลกที่ “ฉายา” ของสื่อมวลชนต่างๆ จะทยอยออกมาในช่วงนี้ แม้อาจจะดูเร็วไปบ้าง ก็เรียกว่า สอดรับกับปีปฏิทินนี้ที่ช่วงวันสิ้นปีและปีใหม่ดันไปใกล้กับวันเสาร์-อาทิตย์นั่นแล โดยสื่อทำเนียบรัฐบาลก็ออกมาเป็นเจ้าแรก ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามันก็ว่าได้ จึงทำให้บรรดา 34 รัฐมนตรี มีแค่ 5 รัฐมนตรีเท่านั้นที่ถูกตั้งฉายา …๐

ไทยโพสต์ “อิสรภาพแห่งความคิด” www.thaipost.net อำนาจล้น! “ผมจะพูดเฉพาะข้อเท็จจริงที่ได้รับเป็นเอกสารเท่านั้น เพราะหากพูดเกินไปจะถูกมองว่าเป็นศรีธนญชัย ขณะนี้ผมยังไม่ได้รับเอกสารใดๆ ทั้งนี้รับทราบจากอธิบดีราชทัณฑ์ว่า

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันเหมายันหรือวันที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ซึ่งเป็นวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี ที่สำคัญจะ เป็นวันครบกำหนด 120 วันของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่นอนห้องพัดลม

อย่างนี้สิถึงเรียกว่า “นักการเมือง” ของแท้ เพราะเห็น ลีลาการตอบคำถามของ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในระหว่างการสัมมนาพรรคที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ก็ต้องบอกว่า “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชิดช้ายไปเลย

นับเนื่องตั้งแต่ “เศรษฐา ทวีสิน” รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อ 23 ส.ค.2566 จวบจนถึงปัจจุบันก็เรียกว่า บริหารประเทศมาได้แล้วกว่า 3 เดือน แต่ดูเหมือนผลงานจะเน้นไปเรื่อง

“ผู้กำกับใหม่คงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะขอมาเยอะเหลือเกิน” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมต.การคลัง กล่าวในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย 21 พ.ย.66 นี่เป็นกราฟฟิกของไทยรัฐออนไลน์

ต้องยกนิ้วให้จริงๆ สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แห่งประเทศไทย ที่แม้ไม่อยู่ในเมืองไทยก็สร้างเรื่องสร้างราวให้โอละพ่อ! ได้เสมอๆ นี่ไปปฏิบัติภารกิจที่ “สหรัฐอเมริกา” ยังทิ้งทุ่นระเบิดกองใหญ่ก่อนไปอีก

ดูเหมือน “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ซึ่งเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย จะ มีโหงวเฮ้งในเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศใกล้เคียงกับนายกฯ หญิงคนแรกของเมืองไทย หรือนายกฯ คนที่ 28 อย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เสียจริงๆ

ต้องบอกว่ารัฐนาวาของพรรคเพื่อไทย (พท.) ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็น “รัฐบาลลักปิดลักเปิด” ไม่มีความแน่นอนและน่าเชื่อถือเอาเสียเลย

ต้องบอกว่าเป็นพื้นที่กระสุนตกของแท้ในรัฐบาล โดยเฉพาะสัดส่วนรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เสนอชื่อ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” นั่ง รมช.มท. โดยเป็นที่ล่อเป้าของ สส.ฝ่ายค้านจากพรรคก้าวไกลอย่างยิ่ง

ดูเหมือน “สงคราม” ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ย่างเข้าสู่ปลายสัปดาห์ที่ 2 ยังส่งผลกระทบต่อไทยอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดย ล่าสุด “กาญจนา ภัทรโชค” อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย